16 ต.ค. 2020 เวลา 09:30 • ประวัติศาสตร์
ไม่เหมือนในนิยาย! เรื่องราวสุดแปลกของ 'ทาส' ในอาณาจักรแอซเท็ก บอกเลยว่าดูดีกว่าที่คิด
WIKIPEDIA PD
ร่วมเป็นผู้สนับสนุนให้เรามีกำลังผลิตงานต่อไปได้ทาง บัญชีกสิกรไทย
0698966939
บริษัท สโป๊คดาร์ค จำกัด
อาณาจักรแอซเท็กโบราณตั้งอยู่ทางตอนกลางของเม็กซิโกในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 13-15 เป็นอาณาจักรที่มีความสำคัญและเติบโตอย่างรวดเร็วก่อนจะเสื่อมอำนาจและล่มสลายหลังการถูกยึดครองโดยจักรวรรดิสเปน ในอาณาจักรแอซเท็กมีทาสเหมือนกับหลายประเทศในอดีต แต่เรื่องราวของทาสในอาณาจักรแอซเท็กนั้นแปลกกว่าทาสที่เรารู้จักกัน
1. การเป็นทาสในอาณาจักรแอซเท็กนั้นจะแตกต่างกับทาสที่เราๆ รู้จักกัน เพราะหลายครั้งผู้คนก็สมัครใจที่จะมาเป็นทาสด้วยตัวเองเพราะการติดหนี้ จึงใช้ตัวเองมาเป็นตัวประกันหรือขัดดอก ระหว่างนั้นก็ใช้เวลาว่างบางส่วนทำงานอื่นโดยไม่ต้องรายงานนายทาสแล้วสะสมเงินนั้นมาไถ่ตัวเองออกจากการเป็นทาส หรือบางคนก็ขายตัวเองเป็นทาสในจำนวนโกโก้ 2,000 เมล็ด(อัตราแลกเปลี่ยนของชาวแอซเท็กในขณะนั้น) แล้วมีกำหนดระยะเวลาทำงานเป็นทาสให้ 1 ปี เมื่อครบเวลาก็สามารถเป็นอิสระได้ หรือถ้าหากทำงานพิเศษหรือรวบรวมเงินก็สามารถไถ่ถอนตัวเองให้เป็นอิสระก่อนกำหนดได้เช่นกัน
WIKIPEDIA PD
2. ในอาณาจักรแอซเท็ก เป็นเรื่องถูกกฎหมายถ้าหากพ่อแม่อยากจะขายลูกไปเป็นทาส แต่ไม่ใช่เรื่องที่นึกจะทำก็สามารถทำได้ทันที พ่อแม่จะต้องทำตามขั้นตอน โดยครอบครัวมีคุณสมบัติเป็นครอบครัวที่มียากจนขนาดที่ไม่สามารถดูแลลูกๆ ต่อไปได้ หรือลูกจะต้องมีชีวิตที่ดีกว่าเดิมแม้จะต้องไปเป็นทาสและมีโอกาสที่จะซื้ออิสรภาพคืนให้ตัวเองได้ในอนาคต แต่แม้ว่าจะมีคุณสมบัติครบถ้วนอย่างมีฐานะยากจนและมีหนี้มากมายก็ยังจะต้องไปที่ศาลเพื่อแสดงตนต่อเจ้าหน้าที่และพรรณณาถึงความยากลำบากและความต้องการที่จะขายลูก ศาลจะทำการรับฟังและทำการพิพากษาซึ่งศาลก็สามารถที่จะอนุญาตหรือปฏิเสธให้ขายลูกได้ตามที่ศาลเห็นสมควร
WIKIPEDIA PD
3. ในอาณาจักรแอซเท็กการที่จะซื้ออิสรภาพให้ตัวเองจากการเป็นทาสนั้นเป็นเรื่องปกติและแม้ว่าคุณเป็นทาสคุณก็ยังสามารถที่จะมีทาสเป็นของตนเองได้เช่นกัน ฟังดูอาจจะแปลกประหลาดว่าเหตุใดเราถึงไม่ซื้ออิสรภาพให้ตัวเองก่อนที่จะมีทาสเป็นของตัวเอง แต่เรื่องมันก็อาจจะไม่ง่ายอย่างนั้นถ้าหากว่าเราติดหนี้ที่มีราคาสูงหรือมูลค่าของตัวเราในการเป็นทาสนั้นสูงเกินกว่าจะหาเงินมาใช้ให้หมดได้ในเร็ววัน การซื้อทาสที่ราคาถูกกว่าตัวเองมาเพื่อทำงานหาเงินให้หรือเพื่อมารับใช้ดูจะเป็นเรื่องที่ทำได้ง่ายกว่าจะซื้ออิสรภาพให้ตนเองก่อนนั่นเอง
WIKIPEDIA PD
4. ทาสในอาณาจักรแอซเท็กสามารถแต่งงานมีครอบครัวได้และลูกที่เกิดจากทาสนั้นจะไม่นับเป็นทาสเหมือนกับทาสในโลกสมัยใหม่ที่เรารู้จักกัน การเป็นทาสในอาณาจักรแอซเท็กจึงดูมีโอกาสที่จะหลุดพ้นได้ถ้าหากเราทำงานหาเงินได้มากพอ
5. ในการต้องต่อสู้กับทหารแอซเท็กคุณอาจเลือกที่จะตายไปในสนามรบเสียดีกว่าที่จะถูกจับ เพราะทหารฝ่ายศัตรูที่ถูกจับได้จะกลายมาเป็นทาสเพื่อนำไปเป็นเหยื่อบูชายัญ แม้จะไม่ใช่ทาสในลักษณะนี้ทุกคนที่จะถูกบูชายัญแต่ก็ถือเป็นชะตากรรมที่อาจจะต้องพบเจอ
WIKIPEDIA PD
6. แม้ว่าทาสและผู้ที่เป็นอิสระนั้นจะมีสิทธิที่ไม่แตกต่างกันในหลายด้านและนายทาสไม่มีสิทธิ์ที่ปฏิบัติตนไม่ดีกับทาสหรือบังคับให้ทำงานเกินเวลา แต่ทาสก็ยังถูกคาดหวังให้ทำงานและให้ความเคารพกับนายทาสเป็นอย่างดี หากทาสไม่เชื่อฟังนายทาส นายทาสจะลากทาสไปยังจัตุรัสของเมืองและพิสูจน์ให้คนอื่นๆ เห็นว่าเขานั้นไม่เคารพนายทาสอย่างไร ถ้าหากเรื่องนี้เกิดขึ้นสามครั้ง นายทาสมีสิทธิที่จะขายทาสและให้ทาสใส่ปลอกคอไม้เพื่อแสดงให้เห็นถึงความอับอายและทำให้ทาสคนนั้นไม่สามารถหนีไปไหนได้หรืออาจถูกขายเป็นเครื่องบูชายัญได้
WIKIPEDIA PD
7. ในอาณาจักรแอซเท็กการปฏิบัติไม่ดีต่อทาสนั้นเป็นเรื่องผิดกฎหมาย นายทาสจะต้องมีที่พัก อาหารและการดูแลสุขภาพให้กับทาสด้วย เด็กๆ ที่เกิดจากทาสนั้นจะเป็นอิสระไม่นับเป็นทาสรวมถึงนายทาสต้องดูแลลูกของทาสเช่นกัน
ถ้าหากทาสได้รับการปฏิบัติที่ไม่ดีจากนายทาสและสามารถพิสูจน์ได้ในศาล ทาสคนนั้นจะได้รับอิสระ ทำให้นายทาสแม้จะเป็นผู้ที่มีอำนาจเหนือกว่าแต่ก็ต้องดูแลทาสให้ดีเพราะไม่อยากจะสูญเสียทาสไป และถ้าหากนายทาสฆ่าทาสของตนก็อาจจะจบชีวิตลงด้วยการที่ตนเองต้องเป็นเหยื่อในการบูชายัญ
ร่วมเป็นผู้สนับสนุนให้เรามีกำลังผลิตงานต่อไปได้ทาง บัญชีกสิกรไทย
0698966939
บริษัท สโป๊คดาร์ค จำกัด
WIKIPEDIA CC O.MUSTAFIN

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา