16 ต.ค. 2020 เวลา 04:04 • การเมือง
ม็อบที่ราชประสงค์เมื่อคืนคนเยอะมาก แต่ก็นั่นแหละ คนเยอะไม่ใช่ปัจจัยที่จะชี้ขาดชัยชนะ
ม็อบพฤษภาฯ ปี 35 คนเยอะกว่านี้หลายเท่า แต่ก็ไล่รัฐบาลสุจินดาไม่ไป สุดท้ายในหลวง ร.9 ต้องเรียกแกนนำทั้งสองฝ่ายเข้าเฝ้าเพื่อให้โอวาท สุจินดาถึงจะสำนึกแล้วก็ลาออกไป
ม็อบพันธมิตร ปี 49 ก็คนเยอะกว่านี้หลายเท่า แต่ก็ไล่รัฐบาลทักษิณไม่ไป สุดท้าย พลเอกสนธิ ต้องทำรัฐประหาร ทักษิณถึงจะไป
ม็อบพันธมิตร ปี 51 คนก็เยอะเหมือนเดิม แต่ก็ไล่รัฐบาลสมัครไม่ไป ไล่รัฐบาลสมชายก็ไม่ไป สุดท้ายทั้งสมัครและสมชายไปเพราะโดนศาลพิพากษาว่าขาดคุณสมบัติที่จะเป็นนายกรัฐมนตรี
ม็อบเสื้อแดง ปี 53 กับปี 55 ก็คนเยอะกว่านี้ แต่ก็ไล่รัฐบาลอภิสิทธิ์ตั้งสองครั้งก็ยังไม่ไป จนสุดท้ายอภิสิทธิ์ไปเองด้วยการยุบสภาเมื่อถึงเวลาที่คิดว่าตัวเองจะได้เปรียบ
ม็อบ กปปส. ปี 57 คนมากที่สุดในประวัติศาสตร์ม็อบโลก ในวันที่พีคสุดว่ากันว่ามีคนเฉียดสองล้านคน ชุมนุมอยู่นานครึ่งปี แต่ก็ไล่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ไม่ไป จนสุดท้ายยิ่งลักษณ์ไปเพราะโดนรัฐประหารโดย พลเอกประยุทธ์
การก่อม็อบแท้จริงแล้วไม่ใช่เพื่อใช้จำนวนคนไปล้มล้างผู้มีอำนาจโดยตรง แต่เป็นการก่อขึ้นเพื่อไปกดดันให้อำนาจอื่นที่เหนือกว่ายื่นมือมาจัดการแทนต่างหาก
แต่ม็อบวันนี้ (ไม่รู้จะเรียกม็อบอะไรดี เพราะมีหลายชื่อเกิน) เป็นม็อบที่เป็นปฏิปักษ์กับอำนาจทั้งหมดของประเทศ อำนาจศาล อำนาจทหาร อำนาจกษัตริย์ เช่นนี้แล้วถามว่าจะมีอำนาจอื่นที่ไหนอีกที่จะยื่นมือมาช่วยจัดการแทนให้
ก็คงต้องติดคุกกันต่อไปเป็นโขยงนั่นแหละ จบในคุก ไม่ไช่จบที่รุ่นเราอย่างแน่นวล
ปล. ผมไม่ใช่สลิ่มนะ ผมเป็นนักวิเคราะห์ ฮา
1
โฆษณา