16 ต.ค. 2020 เวลา 14:48 • ไลฟ์สไตล์
สองสามวันที่ผ่านมานี้มีโอกาสได้อ่านเรื่องราวอันน่าประทับใจมากมายของในหลวงรัชกาลที่ 9 ในโอกาสครบรอบวันคล้ายวันสวรรคตของพระองค์ โดยเฉพาะเรื่องราวการดำเนินชีวิตแบบเศรษฐกิจพอเพียง
และหนึ่งในเรื่องราวที่ประทับใจ คือ ของใช้ส่วนพระองค์แต่ละชิ้นนั้นล้วนทรงใช้อย่างคุ้มค่า ดังจะเห็นได้จากภาพหลอดยาสีพระทนต์ของพระองค์ที่ทรงใช้ด้ามแปรงพระทนต์รีดหลอดยาจนเเบนจนแน่ใจว่าไม่มียาสีพระทนต์หลงเหลืออยู่ในหลอดจริง ๆ
ขอบคุณภาพจาก https://www.tnews.co.th/social/364114
พระองค์ทรงเป็นแบบอย่างในการดำเนินชีวิตแบบพอเพียง ใช้ทุกสิ่งอย่างคุ้มค่า สอนให้เรารู้ว่าคำว่าประหยัด ไม่ได้หมายถึง ไม่ยอมใช้ แต่ต้องรู้จักใช้ให้เกิดประโยชน์ที่สุด มากที่สุด ไม่ใช้แบบเหลือทิ้งเหลือขว้าง
และอยู่ ๆ เมื่อสามีทำโทรศัพท์ตกพื้นหน้าจอแตก จะซ่อมก็กลัวไม่คุ้มเพราะเครื่องเก่าแล้ว จะซื้อใหม่ก็เปลืองเงินและมันก็ยังใช้งานได้อยู่ ทำให้นึกถึงพระองค์ท่านที่ทรงใช้ของทุกอย่างอย่างคุ้มค่าและพาให้นึกไปถึงฝรั่งผู้หนึ่งซึ่งใช้โทรศัพท์หน้าจอแตกติดต่อธุรกิจมากมาย
ฝรั่งผู้นี้ คือ ลูกค้าหนุ่มฝรั่งเศสที่เราเคยติดต่อด้วยตอนทำงานประจำ
วันหนึ่งหลังจากเจ้านายและเราไปรับเขาที่สนามบินและพาไปทานอาหารเย็น ก็บังเอิญเห็นโทรศัพท์เขาหน้าจอแตก เขาบอกว่าแตกสักพักแล้วแต่มันยังใช้การได้ดีอยู่เลยยังใช้ต่อ
ขอบคุณภาพจาก Pixabay
เขาเป็นลูกค้าคนหนึ่งที่เราประทับใจ เวลาที่มาคุยงานที่ออฟฟิศเขาจะแต่งตัวใส่สูทเรียบร้อย แต่พอนอกเวลางานเขาจะใส่กางเกงขาสั้นกับเสื้อคอโปโลสบาย ๆ ตลกเฮฮา
แต่ติดที่ภาษาอังกฤษเราไม่แข็งแรงนัก บวกกับสำเนียงฝรั่งเศสของเขา ทำให้เราต้องงงอยู่สักพักเวลาฟังเขาพูด และเขาเองก็คงงงกับเราเช่นกัน 😂😂
เขาเล่าให้ฟังว่าเวลาเขาจะเดินทางมาติดต่อธุรกิจเขาวางแผนว่าจะบินจากไหนไปไหน เช็คเส้นทาง วางแผนการเดินทางให้มีค่าใช้จ่ายน้อยที่สุด
เวลามาเมืองไทยจะชอบให้เจ้านายพาไปตัดผม เขาบอกว่าค่าตัดผมบ้านเราถูก ไปช้อปปิ้งก็เลือกซื้อเปรียบเทียบราคาสินค้าอย่างละเอียด และทุกครั้งมักจะซื้อพวกสมุนไพรไทยโดยเฉพาะน้ำมันตะไคร้หอมติดไม้ติดมือกลับบ้านด้วย
บางครั้งพาภรรยามาด้วยและภรรยาเขาก็ซื้อต่างหูงานแฮนด์เมดราคาคู่ละ 20 บาทกลับไปเยอะแยะ
ถ้าฝรั่งผู้นี้เป็นลูกจ้างทั่วไปก็อาจจะไม่แปลกมาก แต่เขาเป็นเจ้าของบริษัทที่รับช่วงต่อจากผู้เป็นพ่อที่เกษียณแล้ว ซึ่งเป็นบริษัทที่นำเข้าสินค้าจากหลายประเทศทั่วโลกไป Reprocess วางขายในห้างสรรพสินค้าชั้นนำของฝรั่งเศส บริษัทเราเป็นเพียงหนึ่งในซัพพลายเออร์ที่ส่งสินค้าให้เขาประมาณร้อยล้านบาทต่อปี
ขอบคุณภาพจาก Pixabay
เราเคยมีโอกาสไปเยี่ยมชมโรงงานของเขาที่เมืองเลออาฟร์ ซึ่งอยู่ห่างจากปารีส 200 กม. เขาขับรถมารับเจ้านายและเราที่ปารีสไปเยี่ยมชมโรงงานแต่ละส่วนด้วยตัวเอง ซึ่งโรงงานใหญ่โตแต่มีคนงานไม่มากเพราะใช้เครื่องจักรเป็นหลัก
เขาดูเป็นกันเองกับพนักงานมาก หรืออาจจะเป็นวัฒนธรรมบ้านเขาที่เป็นแบบนั้นก็ไม่ทราบ แต่สิ่งหนึ่งที่ทำให้เราประทับใจ คือ เขามีเงินที่จะใช้จ่ายได้อย่างสบาย ๆ แต่การใช้ชีวิตกลับเรียบง่าย ใช้ของทุกอย่างอย่างคุ้มค่า วางแผนการใช้เงินให้เกิดประโยชน์สูงสุด
เพราะฉะนั้นโทรศัพท์ของสามีก็แค่หน้าจอแตกเองแต่ยังใช้งานได้อยู่ ก็สมควรที่จะใช้ต่อไปให้คุ้มค่าที่สุด...ว่าไหมคะ 😁😁
ขอบคุณทุกกำลังใจที่แวะมาทักทายนะคะ ❤️❤️
โฆษณา