ผลพวงจากการประท้วงในวันที่ 14 ตุลาคมที่ผ่านมากับโอกาสทางธุรกิจ
เรื่องการประท้วงหรือการแสดงความเห็นต่างเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นอยู่เนือง ๆ ทั่วโลก โดยเฉพาะประเทศที่มีระบบการปกครองแบบประชาธิปไตย ซึ่งมีมากกว่าประเทศที่ปกครองด้วยระบบเผด็จการ ดังนั้นการชุมนุมประท้วงจึงเกิดขึ้นอยู่เรื่อย ๆ เพราะเป็นอีกช่องที่จะทำผู้คนได้รับรู้ในวงกว้างและมีโอกาสในการขยายผลเพื่อไปถึงเป้าหมายได้มากขึ้น
เมื่อวันสองวันที่ผ่านมาก็เช่นกันที่มีเหตุการณ์เกิดขึ้นในการรวมคนที่มีความเห็นเห็นกัน เพื่อมาแสดงพลังให้เห็นว่ายังมีคนอีกกลุ่มหนึ่งที่ไม่เห็นด้วยกับการกระทำของฝ่ายปกครองในขณะนี้
ประเด็นในการนำเสนอครั้งนี้ไม่ได้อยู่ที่การนำเสนอว่าฝ่ายใดถูกผิดนะครับ เพราะ “ยุคใหม่ฯ” เคารพความเห็นต่างของทุกท่าน ทุกคนก็มีเหตุผลและความเชื่อมั่นของตนเอง แต่จะเป็นการมองในมุมด้านโอกาสด้านการขายและการตลาด
แน่นอนว่าทุกการชุมนุมแสดงความเห็นของคนกลุ่มมาก ต้องส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการที่อยู่ในพื้นที่นั้น ๆ อยู่แล้วอย่างเลี่ยงไม่ได้ และอาจจะส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของต่างชาติที่จะเข้ามาเที่ยวหรือทำธุรกิจในประเทศไทย
แต่ด้วยสถานการการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด19 ในปัจจุบัน เรื่องความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวต่างชาติจึงส่งผลไม่มากนัก อาจจะส่งผลบ้างในส่วนของนักธุรกิจต่างชาติ แต่ก็มั่นใจว่าผู้ประกอบการมืออาชีพเขามองโอกาสในประเทศไทยออก แม้ว่าจะมีสถานการณ์ที่ไม่สงบบ้าง แต่ภาพรวมแล้วหากรู้จักปรับตัวมองหาช่องทาง ประเทศไทยคือประเทศที่สร้างโอกาสทางธุรกิจได้อย่างมาก ที่ทั้งจะเกิดจากการบริโภคภายในประเทศและการเป็นศูนย์กลางด้านการค้าระหว่างประเทศ
อีกอย่างหลายๆธุรกิจก็ปรับปรับไปมากแล้วโดยการเพิ่มช่องทางการจำหน่านผ่านระบบออนไลน์ ผลกระทบต่อธุรกิจภาพรวมที่จะเกิดจากกลุ่มผู้ชุมนุม เชื่อมั่นว่าคงส่งผลกระทบด้านเศรษฐกิจไม่มากเท่าในอดีตแล้ว
เกริ่นไปซะยาวเลย.........
ทั้งที่จริงจะใช้โอกาสนี้ในการแบ่งปันโอกาสทางด้านธุรกิจที่เกิดขึ้น จากการที่ได้มีโอกาสผ่านกลุ่มผู้ประท้วงและกลุ่มเจ้าหน้าที่ เพราะต้องไปทำภารกิจบริเวณนั้นอย่างเลี่ยงไม่ได้จริง ๆ จึงได้เห็นโอกาสหลายอย่าง
ในการชุมชุมของคนกลุ่มมาก สิ่งที่ร้านค้าหรือผู้ประกอบการในพื้นที่นั้น ๆ จะต้องทำคือปิดร้านหรือเพิ่มมาตรการป้องกัน ถนนในบริเวณนั้นก็ต้องปิดการจราจรไปโดยปริยาย
แต่การที่ผู้คนมาชุมนุมเป็นจำนวนมากนั้น ความต้องการพื้นฐานก็ยังคงอยู่ และยังมีจำนวนมากขึ้นจากความหนาแน่นของผู้คนด้วย ที่เรามองเห็นได้ไม่ยากเลยคือความต้องการน้ำดื่มเย็นๆ อาหารจานด่วน กลุ่มของใช้ก็มีที่รองนั่ง พัด หรือพัดลมไฟฟ้าพกพา กลุ่มอื่น ๆ ก็มีคือ เสื้อยืด ของที่ระลึก ผ้าเช็ดตัว(สำหรับป้องกันการฉีดน้ำหรือแก๊สน้ำตา) ฯลฯ
วันที่เดินผ่าน “ยุคใหม่ฯ” หิวน้ำและหิวข้าวประมาณนึง แต่ภาพที่ปรากฏคือทุกร้าน(เคลื่อนที่) มีคนต่อแถวรอซื้อกันยาวมาก โดยเฉพาะใส้กรอกอิสานของโปรด ที่แถวยาวไม่พอยังสุกช้าอีกต่างหาก (เฮ้อ...อดเลย) และอีกภาพที่พบคือแต่ละรายของหมดอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะอาหาร น้ำดื่มและผลไม้
หากเราใช้เรื่องนี้ให้เป็นโอกาส การศึกษาช่องทางการนำสินค้าเข้าไปจำหน่ายในเวลาที่เหมาะสม การนำคนของเราหรือตัวเราเองออกมาในเวลาที่เกิดการปะทะ รวมถึงรายการสินค้าที่จะนำเสนอว่าจะนำเสนออะไรอย่างไร นี่คือสิ่งที่ตอบโจทย์ความต้องการได้อย่างแท้จริง
เรามารวบรวมสิ่งที่ต้องทำมีอะไรกันบ้าง ลองดูนะครับ
1.ศึกษาความต้องการของลูกค้าว่าต้องการอะไรบ้าง โดยวิเคราะห์แบบ A B C D โดยเราสามารถเลือกสินค้าที่มีความต้องการสูงๆเข้าไปตอบสนองก่อน
2.ศึกษารูปแบบการขายว่าสินค้าที่จะขายจะขายแบบไหน โดยเฉพาะการตอบสนองที่รวดเร็ว เพราะต้องแข่งขันกับเวลาสูงมาก รวมถึงการชำระเงินที่ทำอย่างไรจะทำให้เกิดความรวดเร็ว (บางครั้งการใช้การชำระเงินออนไลน์อาจจะไม่ได้ผล เพราะอาจจะถูกตัดการสื่อสารในบริเวณนั้น)
3.ศึกษาช่วงเวลาที่เหมาะสมกับการวางสินค้าจำหน่าย
4.การจัดเตรียมการเติมสินค้าในกรณีที่มีความต้องการเกินความสามารถที่จะนำสินค้าจำนวนมาก ๆเข้าไปในคราวเดียว
5.ทางหนีทีไล่ เข้าทางไหนออกทางไหนอย่างรวดเร็วและคุ้มสุด รวมถึงความปลอดภัยทั้งจากการปะทะและผู้ไม่หวังดีต่อทรัพย์สินด้วย
เรื่องนี้ผู้ประกอบการรายใหญ่รายกลางและรายเล็ก รวมถึงผู้ประกอบการออนไลน์ก็สามารถเข้าร่วมได้ แต่ออนไลน์ขึ้นอยู่กับปัจจัยว่าจะถูกตัดสัญญาณโทรศัพท์และอินเตอร์เน็ตในบริเวณนั้นหรือไม่
การนำเสนอที่เป็นการสร้างการรับรู้ในตราสินค้า (Brand Awareness) เป็นเรื่องที่สำคัญเช่นกัน เพราะเมื่อจบจากงานนี้คนที่เคยซื้อแล้ว ทำอย่างไรให้เขาอยากซื้อซ้ำและซื้อได้ง่ายๆ
นอกจากนี้แล้วการลงทุนการจำหน่ายสินค้าในช่องทางนี้ใช้ทุนไม่มาก ผู้ประกอบการสามารถนำวิธีการนี้ไปปรับใช้กับแหล่งที่มีการชุมชุมของผู้คนจำนวนมาก ๆได้ ทั้งเป็นการแสดงดนตรี การประชุมต่าง ๆ หรือแม้แต่การประกอบพิธีกรรมต่าง ๆ ก็ไม่ ซึ่งเป็นอีกหน่วยขายเฉพาะกิจที่ที่จะเป็นการสร้างช่องทางการจัดจำหน่ายได้อีกมาก
หากท่านใดมีข้อแนะนำเพิ่มเติมในมุมที่ “ยุคใหม่ฯ” ตกหล่นไป ท่านสามารถแนะนำมาได้นะครับ ซึ่งต้องขอขอบพระคุณล่วงหน้าเลยกับข้อมูลที่จะมาแลกเปลี่ยนกัน
ข้อมูลมุมมองการตลาดที่ทันสมัยจากประสบการณ์จริง อ่านได้ใน Blockdit ยุคใหม่การตลาดของไทย
สามารถติดตามข้อมูลแนวคิดทางการตลาดยุคใหม่ได้ที่
Instagram: Modernizationmarketing (ยุคใหม่การตลาดของไทย)
Face Book Page: Thailand Modern Marketing
YouTube Channel: Modernization marketing (ยุคใหม่การตลาดของไทย)
- 8
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
