19 ต.ค. 2020 เวลา 05:00 • ความคิดเห็น
ผมเคยมีความรู้สึกหมดหวัง
หมดหวังกับการพัฒนาของประเทศ ที่เคยถูกเรียกว่า "เสือตัวที่ 5 แห่งเอเชีย" แต่ในความเป็นจริงนั้น มันไม่เคยเกิดขึ้น
หมดหวังกับการเมืองไทย ที่มีแต่คนที่คิดจะเข้ามากอบโกย มาหาผลประโยชน์ ให้กับตัวเองและพวกพ้อง
หมดหวังกับภาพลักษณ์ของประเทศ ที่ถูกมองว่าเป็นประเทศล้าหลัง ที่มีดีแค่การท่องเที่ยวและอาหารอร่อย แต่ไม่เคยมีอะไรใหม่ๆ ถึงขนาดที่สมัยไปเรียนเมืองนอก มีเพื่อนฝรั่งมาถามว่า ที่ประเทศยู ตอนนี้ยังขี่ช้างไปเรียนหนังสือกันอยู่หรือเปล่า
จนมาวันนี้ ไฟแห่งความหวังที่เคยดับมอดไป ได้ถูกจุดขึ้นมาส่องสว่างอีกครั้งด้วย "คนรุ่นใหม่" คนรุ่นถัดจากผม เด็กเหล่านี้เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังแห่งความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ เด็กที่สามารถเรียนรู้สิ่งต่างๆได้ด้วยตัวเอง เรียนรู้ว่าก่อนที่จะเชื่ออะไร ไม่ใช่สักแต่ว่าเพราะสิ่งเหล่านั้นถูกเขียนไว้ในตำรา หรือเป็นสิ่งที่อาจารย์สอนมา แต่ต้องทำการค้นาข้อมูล ผ่านการใช้ critical thinking ผ่านการทดลองด้วยตนเอง ซึ่งกระบวนการเหล่านี้เองเป็นหลักการในการที่จะสร้างสิ่งใหม่ๆที่เราเรียกมันว่า "innovation" ที่ไม่ได้ถูกจำกัดอยู่แค่สิ่งประดิษฐ์ ความคิดหรือแนวคิด ก็เป็นนวัตกรรมได้เหมือนกัน
ผมเชื่อว่าถ้า "คนไทย" หันมาลองนั่งจับเข่าคุยกัน เปิดพื้นที่ให้ "คนรุ่นใหม่" ที่มีพลัง มีแรง มีเวลา และมีความคิดสร้างสรรค์ โดยที่มี "พี่เลี้ยง" ที่ดีเป็นคนรุ่นที่เราเรียกกันว่า "ผู้ใหญ่" ที่พร้อมเปิดใจรับฟังความคิดเห็นที่แตกต่าง ที่ขัดแย้งกับความเชื่อ ความรู้ของรุ่นตนเอง ในมุมกลับกันผู้ใหญ่เหล่านี้ก็มีสิ่งที่เด็กรุ่นใหม่ขาดหายไปก็คือ ความรอบคอบ ปรุสบการณ์ที่เคยผิดพลาด ย่อมจะมีคำแนะนำที่เป็นประโยชน์กับรุ่นน้อง (รุ่นลูก) ที่จะทำให้เด็กๆเหล่านี้ไม่ต้งไปเรียนรู้เองโดยการ "เจ็บจริง"
ส่วนคนรุ่นผม อาจจะเรียกได้ว่าเป็นกลุ่ม "คนตกรุ่น" เพราะจริงๆแล้วมันไม่ใช่ภาระหน้าที่ของเด็กรุ่นนี้เลย หากแต่เป็นเพราะคนรุ่นผมต่างหากที่ไม่มี "ความกล้า" และ "ความสงสัย" มากพอที่จะท้าทายกับสิ่งที่ตนเองถูกสอนมา โดยอ้างความไม่พร้อมหรือเหตถผลต่างๆนาๆ
วันนี้ผม ขอเป็นคนหนึ่งที่จะยอม "ก้าวถอยหลัง" มาเป็นผู้ตาม ที่จะคอยสนับสนุนน้องๆเด็กรุ่นใหม่ และเป็น "ตัวเชื่อม" ระหว่างเด็กรุ่นใหม่กับผู้ใหญ่รุ่นพ่อๆแม่ๆของพวกเรา
ผมยังเชื่อว่าถ้าพวกเราทุกคน ทุกรุ่น จับมือกัน นั่งพูดคุย เราจะได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ แนวคิดที่น่าสนใจจากคนต่างรุ่น ต่างวัย และจะเกิดไอเดียที่อาจจะเป็นขุมทรัพย์ทางปัญญาที่ไม่อาจประเมินค่าได้ และจะนำพาประเทศไทยของพวกเราให้ไปได้ไกล แบบที่ไม่เคยมีใครเคยแม้แต่จะคิด
บทสรุปในตอนจบมันจะไม่ใช่การ ให้มัน "จบที่รุ่นเรา" แต่จะเป็นการ "เริ่มที่พวกเรา" น่าจะดีกว่านะครับ
โฆษณา