18 ต.ค. 2020 เวลา 12:52 • ปรัชญา
สังเกตเห็นว่าเด็กสมัยนี้โตเร็ว โดยเฉพาะความฉลาดสติปัญญา เคยคิดเปรียบเทียบเด็กสมัยนี้กับสมัยตัวเอง
ภาพจากข่าวสด
เฮ้อ!สมัยก่อนฉันยังเล่นตักดินตักทราย ขายขนมครกอยู่เลย เด็กสมัยนี้ภาษาก็เก่ง พูดจาฉะฉาน ฉันสมัยก่อนบิดแล้วบิดอีกกว่าจะตอบผู้ใหญ่ได้
ยุคสมัยเปลี่ยนไป เด็กมีพัฒนาการด้านสมองและสติปัญญา เด็กหลายๆคนที่ได้รับการพัฒนา จะฉลาดมีไหวพริบเอาตัวรอด มีพัฒนาการสูงกว่าเด็กทั่วไปในวัยเดียวกัน
สิ่งที่เห็นชัดคือเรื่อง การแสดงออกและคำพูดคำจา ความคิดของเขาที่สามารถสื่อสารกับคนรอบข้างให้รับรู้ได้
เด็กบางคนเก่งมากๆ สามารถใช้เครื่องมือสื่อสารไม่ว่าจะเป็นโทรศัพท์
มือถือ คอมพิวเตอร์ โน้ตบุค ได้อย่างคล่องแคล้วทั้งที่ตัวนิดเดียว ขณะที่คุณป้าคุณอายังใช้เป็นบ้างไม่เป็นบ้าง
เพราะสิ่งแวดล้อมเปลี่ยน เทคโนโลยีที่ทันสมัย และการเลี้ยงดูเด็กอย่างถูกวิธีและตรงตามความสามารถ การเสริมพัฒนาการต่างๆทำให้เด็กมีระดับสติปัญญามีคุณภาพมากกว่าอายุจริง ที่เคยกำหนดตามพัฒนาการเดิมๆ ในหลายๆด้าน
และวันนี้เมื่อเด็กไทยออกมาเดินตามถนนก็คงไม่แปลก เพราะเขาฉลาดที่จะเรียนรู้ความเปลี่ยนแปลง และความเป็นไปในปัจจุบันนั้นเป็นอย่างไร เหตุหรือผล ผ่านสื่อต่างๆ ที่ติดตาม และข่าวอาจมาถึงเร็วกว่าสมัยเรา และ อาจทันสมัยมากกว่าพ่อแม่ปู่ย่าตายายเช่นเรา
1
เด็กคงไม่เชื่ออีกแล้วกับการขู่ เดี๋ยวตำรวจมาจับ หรือตุ๊กแกจะมากินตับถ้าร้องไห้ คงไม่เชื่อนิทานปรัมปรา และคงไม่เชื่อฟัง แม้พ่อแม่จะตัดความสัมพันธ์ ตัดความช่วยเหลือ และเมื่อพ่อแม่คับแค้นแน่นใจ ยังไงก็ต้องบอกว่าใจเย็นๆ อย่าโทษตัวเอง หรือโทษลูก
สิ่งที่เกิดขึ้นกับลูกหรือพ่อแม่ในปัจจุบันไม่ใช่เรื่องบังเอิญ และไม่ใช่ความผิดพลาดในการเลี้ยงดูของพ่อแม่ แต่มันคือวิวัฒนาการและการเปลี่ยนแปลงของโลก สิ่งแวดล้อมและสังคมของโลกในปัจจุบัน
ถ้าเราทุกคนเปิดใจว่าเมื่อก่อนเราเคยชื่นชมว่าเขาเก่งพัฒนา
การเร็วฉลาด และวันนี้ก็มาจากจุดเริ่มต้นของวันวานที่เราเคย
ชื่นชมว่า ลูกเก่ง เขาโตขึ้น เขารู้จักเรียกร้องในสิ่งที่เขาต้องการ
แตกต่างกับสมัยของเรา ที่ยอมโตภายใต้คำแนะนำช่วย
เหลือจากพ่อแม่ เชื่อฟังผู้หลักผู้ใหญ่ ครูอาจารย์
เราไม่กล้าแตกแถวจากที่พ่อแม่กำหนด
ถ้าเราจะยอมรับว่า ลูกก็คือลูกอย่าให้ เพราะเพียงความรักห่วงใย
กลายเป็นอุปสรรค
บางทีความคิดของพ่อแม่ หรือผู้ใหญ่ยังเกาะติดกับความคิดแบบเก่าๆเดิมๆประเพณี ธรรมเนียมที่ล้าสมัย แต่วันนี้ไม่ใช่แล้ว
วันนี้เขาได้รับการพัฒนาจนถึงขีดที่สามารถตัดสินใจด้วยตัวเอง
ภาพbangkokbiznews.com
เดินไปพร้อมกับเขา
เอื้อ..แต่ไม่สนับสนุน
เตือน..แต่ปล่อย
คอย..แต่จะไม่ถาม
เจ็บ...จะไม่ซ้ำเติม
ช่วย...เมื่อร้องขอ
รอ...เมื่อเขาคิดได้
และกลับมาหาเรา และคิดได้ว่า ทุกอย่างในโลกนี้มีเวลาของมัน มีเหตุและผล เหรียญกลมๆไม่ใช่มีแค่ 2 ด้าน
1
แต่สิ่งหนึ่งที่ให้ลูกได้รู้คือ พ่อแม่คือผู้ที่จะอยู่เคียงข้างและรักเขาตลอดไป ไม่มีสีใดๆ ไม่มีพรรคใคร ไม่มีพวกใคร มีเพียงใจบริสุทธิ์และความรัก
ก็น่าจะเพียงพอแล้วในตอนนี้
ถ้าผู้ใหญ่คิดว่าตัวเองมีความรอบคอบและรู้เท่าทันทุกอย่าง เราต้องสามารถหาทางช่วยเหลือ ดูแลให้พวกเขาก้าวผ่านอุปสรรคทั้งหลายในช่วงวัย ประคับประคองแม้จะเจ็บหรือแน่นอก ก็คงทำได้แค่รอเวลา ตบซ้ายตบขวาเขาให้เข้าที่ ไม่ให้เขาออกนอกลู่นอกทางแต่ต้องไม่ทำร้ายเขา
เพราะวันหนึ่งเขาอาจจะเป็นคนรุ่นใหม่ที่ก้าวออกมาปกป้องประเทศ
แทนเราในอนาคต อาจถึงเวลาที่เราจะช่วยผลักดันให้เด็กของเรา
ที่จะเป็นผู้ใหญ่ คงไม่แปลกที่เด็กรุ่นใหม่จะลงเล่นการเมืองตั้งแต่
อายุน้อยๆ
2
และเด็กทั้งหลายคงไม่ลืมกันว่า ความอ่อนน้อมถ่อมตน รู้จักเอื้ออาทร เคารพสิทธิคนอื่น เช่นเดียวกับเคารพสิทธิของตัวเอง และมีเมตตา เพราะไม่มีใครในโลกนี้ หนีกฏแห่งกรรมและการเวียนว่ายตายเกิดพ้น เกิด แก่ เจ็บ ตาย วันนี้เป็นเด็ก อีกหน่อยก็แก่ เด็กรุ่นใหม่ก็จะเวียนมาอีกรอบ
ชอบกดไลค์ แชร์ ตามอัธยาศัย ไม่สนับสนุนการใช้คำหยาบ
หรือคอมเมนต์ที่ไม่สุภาพ🙏🙏🙏
โฆษณา