ทฤษฎี ของ อดัม สมิท นั้นก้าวหน้า และ เป็นหนึ่งใน ทฤษฎที่ยิ่งใหญ่มาก อันนี้เราไม่เคยปฏิเสธเลย ซึ่งแนวคิดเสรีนั้นได้ขับเคลื่อนโลกไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว แต่มันก็ปฏิเสธไม่ได้เช่นกันว่า มันทำให้เกิดช่องว่างที่ระยะห่างมากขึ้น อยู่ที่เรามองมันในระดับหน่วยไหน และเราอยู่ในหน่วยไหนของระบบ
ถ้าเรามองในหน่วยที่ใหญ่ เราจะเห็นความต่าง ระดับใน โลกที่ 1 โลกที่ 2 และ โลกที่ 3 แต่ถ้าเรามองเล็กลงมาสักระดับภายในประเทศ เราก็จะเห็น สตาร์บัค กับ ร้านกาแฟรถเข็นโบราณ
ณ จุดนี้เราอาจเห็นมันแค่หน่วยบริบทของทางเศรษฐกิจ แต่ อิทธิพลของมันแพร่เข้าไปขับเคลื่อนในทุกๆสิ่ง เพราะมันคือ เศรษฐศาสตร์ ซึ่งคำนี้มันก็กินความหมายที่ใหญ่มากโดยตัวของมันอยู่แล้ว(เพราะมันใช้อิง ใช้ขับเคลื่อน ทั้งการเมือง สังคม และจริยธรรม )
แต่หลังจาก สมิท ไม่นาน ก็มีคนที่มองเห็นช่องว่างของ ระบบ มองเห็นปัญหา จากการเพียรศึกษาแล้วก็ค้นคว้าของเขา จนเกิดเป็น Das kapital นั่นก็คือ คาร์ล มากซ์
อิทธิพลของ มากซ์ ด้านเศรษฐศาสตร์จริงๆแล้วมาจากสิ่งที่เขามองเรื่องพื้นฐานของ ความเป็นมนุษย์ เป็นหลัก มองมนุษย์ไม่ใช่วัตถุ สิ่งของ เขามองในลักษณะเชิงคุณค่าที่สูงมาก ณ ขณะ ในช่วงที่โลกยุคนั้นยังมีแรงงานทาสอยู่เลย!! และเราประทับใจตรงนี้มากเพราะแทบไม่มีใครลุกขึ้นมาต่อต้านสิ่งเหล่านี้มาเป็นร้อยๆปี
อิทธิพลของ มากซ์ รุนแรงมากในระดับที่เปลี่ยนยุคสมัยไปเลย การปฏิวัติทั่วโลกต่างๆ (รวมถึงในไทย ตั่งแต่ 2475- 14 ตุลา) ล้วนได้รับอิทธิพลของ มากซ์ทั้งสิ้น แท้จริงแล้วแนวคิด คอมมิวนิสต์ ไม่ใช่สิ่งที่ผิด มันเป็นแนวคิดอุดมคติที่สวยงามและทำได้จริง(เพียงแต่คุณต้องแอพพลายอย่างมีพลวัต)แต่ถูกนิยามความหมายบิดเบือนไป จนเกิดลักษณะภาพจำที่เลวร้าย รวมถึงผู้นำต่างๆที่นำมาใช้แบบผิดๆ ก็มีส่วนสร้างวาทกรรมนี้ให้เกิดขึ้นเช่นกัน
คอมมิวนิสต์ กลายเป็นคำ ที่เลวร้าย และน่ากลัวไปแล้ว
แต่จริงๆแล้วสิ่งที่ตรงข้ามกับคอมมิวนิสต์นั้นน่ากลัวซะยิ่งกว่า
ในโลกที่ก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว ง่ายต่อการเสาะแสวงหาข้อมูล แต่ก็ยากที่เราจะหยุดนิ่งเพื่อหาข้อมูลอะไรสักอย่าง อย่างถ่องแท้
ที่พูดเรื่อยเปื่อยมาทั้งหมดนั้นก็ไม่มีอะไรมากหรอกค่ะ แค่เคทอยากให้สังคมและเพื่อนๆ ลองเปิดใจดูค่ะ เพื่อจะได้มองมันอย่างถูกต้อง และเข้าใจ
เคทเองก็ไม่ได้เห็นดีเห็นงามไปทั้งหมดของแนวคิดของ มากซ์ แต่จากการศึกษาเพียงน้อยนิดเคทเห็นประโยชน์ของมันมหาศาลมากกว่าข้อเสียค่ะ
อย่างไรก็แล้วแต่การมีอยู่ ของ สมิท และ การมาของ มากซ์ คือ จุดที่สมดุล แนวคิดทั้ง 2 ได้คานอำนาจของกันและกัน ทำให้เกิดดุลยภาพต่อโลกนี้
ลักษณะของแนวคิดทุนนิยม ที่เป็นปัญหา
ทุนนิยมไม่ได้มองมนุษย์เป็นมนุษย์มากนัก แค่มองว่าเป็น 1 ในปัจจัยการผลิตคือ man machine material เท่านั้น ในโรงงาน มนุษย์ได้ถูกลดทอนปัญญาลงอย่างมาก ด้วยเหตุคนงานที่ต้องทําอะไรเหมือนเดิมอยู่ทุกวัน ซํ้าๆซากๆ เพื่อมุงหมายให้เกิด productivity at the lowest cost แม้แต่งานใน office ก็เหมือนกัน เราก็จะเห็นอะไรที่ไม่ค่อยได้มีการพัฒนาทางปัญญามากนัก แต่อย่างไรก็ตามทุนนิยมก็ขับเคลื่อนโลกให้เจริญทางวัตถุอย่างมาก เกิดนวัตกรรมใหม่มากมาย ย่อมเป็นผลดีต่อโลก แต่หากมองในแง่ของนายทุนก็คือประโยชน์ของตัวเองมาก่อน หลายๆครั้งก็ลืมผลกระทบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมไป ในทางการเมือง เมื่อทุนครอบงํา ก็มุ่งหมายเหมือนกันคือผลประโยชน์ตน พรรคพวก เพื่อนฝูง มาก่อนเสมอ กล่าวได้ว่ามนุษย์ยังได้ประโยชน์จากระบบนี้ ทุนนิยมจึงยังอยู่มาได้ตลอด แต่ก็ต้องจ่ายแพงมากในบางอย่าง
มิ้วๆนะ
- 1
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
