19 ต.ค. 2020 เวลา 03:30 • การเมือง
ม็อบดาวกระจายทั่วไทยมาตามนัดไม่ต้องมีแกนนํา คนร่วมมากมาย ถึงเวลาเลิกเอง
“ชวน” เรียก หน.พรรคการเมือง วิปรัฐบาลและฝ่ายค้านถกใช้เวทีรัฐสภาฝ่าวิกฤติ พท.ชงเปิดประชุมสมัยวิสามัญด่วน แก้ รธน. เปิดโต๊ะเจรจาผู้ชุมนุมบี้ยกเลิกใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินร้ายแรงฯทันที “ภราดร” ยุพรรคร่วม รบ.ถอนตัวทิ้งเรือแป๊ะ ปชป.เสนอรัฐบาลเป็นเจ้าภาพขอเปิดวิสามัญ ดัน ครม.ชง ม.165 ยื่นญัตติอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติ “อนุทิน” เอาด้วยสภาดับไฟขัดแย้ง พปชร.ห่วงกระทบสถาบันฯ ไม่ขวางแก้ รธน. โฆษก รบ.ยันนายกฯพร้อมรับฟังทุกฝ่าย ขอชุมนุมอยู่ในกรอบ ก.ม. ม็อบดาวกระจายครั้งที่ 2 แตกตัวทั่วไทย มวลชนฝ่าฝนยึดอนุสาวรีย์ชัยฯโชว์พลังปึ้ก บี้ปล่อยตัวเพื่อนร่วมอุดมการณ์ สถานีรถไฟฟ้าวัยโจ๋มาตรึมแน่นสถานีบีทีเอสอโศก บก.ลายจุดปลื้มบางกอกโมเดล ฟิวเจอร์รังสิตคนปทุมฯมืดฟ้ามัวดินลุยล้างอำนาจมืด พุทธมณฑล สาย 4 อัมพาตแนวร่วมล้นทะลัก เชียงใหม่ดุไล่ ครม.ยกคณะ
สถานการณ์ทางการเมืองทวีความเข้มข้นยิ่งขึ้นเมื่อกลุ่มเยาวชน นักเรียน นิสิต นักศึกษาและแนวร่วมยังคงจัดกิจกรรมแฟลชม็อบแบบดาวกระจายไปทั่วประเทศ ขณะที่นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทน ราษฎร เชิญหัวหน้าพรรคการเมืองทุกพรรค วิปรัฐบาล วิปฝ่ายค้าน มาหารือแนวทางที่ใช้เวทีรัฐสภาช่วยหาแนวทางคลี่คลายวิกฤติของบ้านเมืองในขณะนี้
- “ชวน” สั่งพร้อมเปิดสภาวิสามัญ
เมื่อวันที่ 18 ต.ค. นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงข้อเสนอให้เปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญ เพื่อหาทางออกให้กับประเทศว่า เป็นเรื่องที่ทำได้ด้วยการที่รัฐบาลหรือสมาชิกรัฐสภา เข้าชื่อดำเนินการยื่นเรื่องขอเปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญที่หลายฝ่ายกำลังพยายามดำเนินการอยู่ แต่ยังไม่มีการเสนอรายชื่อมายังประธานสภาฯ ที่ผ่านมาได้เสนอความคิดไปยังรัฐบาลว่าหากรัฐบาลจะขอเปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญทำได้ หรือจะให้ ส.ส.รัฐบาลเข้าชื่อร่วมกับฝ่ายค้านก็ได้ และได้ประสานพูดคุยภายในระหว่าง ส.ส.ฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลมาตลอด วันที่ 19 ต.ค.ได้นัดหารือภายในอีกครั้ง เพื่อพิจารณาว่าจะเปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญหรือไม่ ก่อนเปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญประจำปีครั้งที่ 2 วันที่ 1 พ.ย. แต่สัปดาห์ก่อนได้สั่งให้เตรียมพร้อมเปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญไว้แล้ว
- 19 ต.ค.นัดถกนอกรอบฝ่ายค้าน-รบ.
“ในฐานะประธานสภาฯ ไม่มีสิทธิ์เรียกประชุมสภาสมัยวิสามัญเองได้ เพราะหากทำได้ผมคงทำไปแล้ว แต่เป็นเรื่องที่รัฐบาลหรือสมาชิกรัฐสภา จะต้องเข้าชื่อกันตามกฎหมายกำหนด ที่ผ่านมาเราได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อพิจารณาว่าสภาฯสามารถเข้าไปดูแลปัญหาส่วนใดได้บ้าง โดยมีการประสานกันภายในระหว่าง ส.ส.ฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลอย่างเงียบๆ เพื่อไม่ให้เกิดแรงกดดัน หรือเป็นการโยนภาระการตัดสินใจของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง วันศุกร์ที่ 23 ต.ค.เราได้นัดหารือกันภายในอีกครั้ง” นายชวนกล่าว
- พท.ชงเปิดสภาด่วน-รื้อ รธน.-เจรจา
นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวว่าวันที่ 19 ต.ค.เวลา 09.00 น.ประธานสภาฯได้เรียกหารือหัวหน้าพรรคการเมืองทุกพรรค ตัวแทนวิปรัฐบาล วิปฝ่ายค้าน ที่รัฐสภา หารือแนวทางที่สภาฯ จะช่วยหาแนวทางให้สถานการณ์บ้านเมืองคลี่คลายลงได้ คงไม่ใช่เพียงเรื่องการเปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญ แต่จะหารือถึงแนวทางอื่นด้วย เช่น การแก้รัฐธรรมนูญ พรรคจะส่งนายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรค นายสมคิด เชื้อคง รองประธานวิปฝ่ายค้านร่วมหารือ พรรคจะนำเสนอแนวทาง มีทั้งการเปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญ แก้รัฐธรรมนูญ เปิดโต๊ะเจรจาระหว่างรัฐบาลกับผู้ชุมนุม การประกาศใช้สถานการณ์ฉุกเฉินที่ร้ายแรง จำเป็นต้องเปิดสภาสมัยวิสามัญแม้จะเหลืออีก 11-12 วันจะเปิดประชุมสภาตามปกติวันที่ 1 พ.ย.ก็ตาม สถานการณ์จะพัฒนาไปเร็วมาก สำคัญทุกวัน ไม่รู้ว่าเหตุการณ์จะเปลี่ยนไปทิศทางใด พรรคเตรียมรายชื่อ ส.ส.ขอเปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญไว้หมดแล้ว ยื่นต่อสภาฯวันที่ 19ต.ค.ถ้าฝ่ายรัฐบาลต้องการจะเปิดจริงเข้าชื่อมาได้ รวบรวมรายชื่อไม่นานถ้าเร่งทำกันจริงๆ เชื่อว่าจะเปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญได้ก่อนวันที่ 1 พ.ย.แน่ แม้จะเร็วขึ้นไม่กี่วัน แต่สำคัญต่อสถานการณ์ ทุกวันมีค่ามากตัดสินใจช้าแค่ 1-2 วันอาจทำให้สถานการณ์เลวร้าย
- บี้ “บิ๊กตู่” ยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน
นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย แถลงจุดยืนพรรคต่อสถานการณ์วิกฤติขณะนี้ ดังนี้ 1.นายกฯต้องยกเลิกประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงทันที เพราะประกาศดังกล่าวไม่เป็นไปตาม พ.ร.ก. เป็นเพียงใบเบิกทางปราบปรามประชาชนอย่างรุนแรงเกินสมควรแก่เหตุ 2.ต้องปล่อยตัวผู้ชุมนุมที่ถูกจับกุมทุกคนทันที พรรคห่วงใยนักเรียน นักศึกษาและประชาชนที่ใช้สิทธิเสรีภาพแสดงออกการชุมนุมทางการเมืองและการชุมนุมที่ผ่านมาเป็นไปโดยสงบ ปราศจากอาวุธ อยู่ภายใต้กรอบรัฐธรรมนูญ ขอให้รัฐบาลยุติการใช้มาตรการรุนแรงต่อผู้ชุมนุมทุกรูปแบบ
- ทางเดินเหลือไขก๊อกหรือไล่จับเด็ก
นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ขณะนี้ พล.อ.ประยุทธ์เหลือทางเลือกแค่ 2 ทางคือ จะเลือกลาออก หรือไล่จับนักเรียน นักศึกษา ประชาชนที่มาชุมนุมขับไล่ต่อไปเรื่อยๆ การทยอยจับแกนนำไม่ได้ทำให้แนวร่วมมวลชนลดลง หลายเหตุการณ์ในอดีต ถูกยกระดับหลังจากจับแกนนำ สารเคมีสีน้ำเงินที่อยู่ในรถน้ำแรงดันสูงที่ใช้สลายการชุมนุมจะไม่พอฉีด เพราะคนออกมาไล่กันทั้งประเทศ เวลานี้ม็อบลามแล้วทั่วประเทศ เฉพาะ กทม.จะเจอม็อบดาวกระจายไปพร้อมกันหลายจุด แต่ละจุดมากันแบบเบิ้มๆทั้งนั้น หากรัฐบาลใช้กำลังสลายการชุมนุม โดยได้รับการยอมรับจากสังคม สถานการณ์จะไม่มาถึงจุดวิกฤติเช่นนี้
- “ภราดร” ยุพรรคร่วม รบ.ถอนตัว
พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขานุการคณะกรรมการกิจการพิเศษพรรคเพื่อไทย อดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กล่าวว่า ครม. รับรองประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงใน กทม. จึงเป็นความรับผิดชอบร่วมของพรรคร่วมรัฐบาล สังคมเชื่อว่าประกาศขาดความชอบธรรม ยิ่งนำมาใช้สลายการชุมนุมของเยาวชน นักศึกษา รุนแรงเกินจำเป็น ขั้นตอนไม่เป็นไปตามหลักสากล ผิดที่ผิดเวลา จึงขาดความชอบธรรม สะท้อนความไม่เป็นมืออาชีพ จนถูกตั้งคำถามว่าเพราะผู้นำหน่วยได้ตำแหน่งมาโดยขบวนการสีเทามากกว่าจะมีฝีไม้ ลายมือหรือเปล่า แทนที่จะแก้สถานการณ์ กลายเป็นสร้างเงื่อนไขให้การชุมนุมยิ่งแพร่กระจายทั่วทุก หัวระแหง ประเทศจะเป็นอัมพาต นำสู่จุดจบของรัฐบาลสืบทอดอำนาจ หนทางที่พรรคร่วมรัฐบาลยังพอจะได้รับการให้อภัยจากเยาวชนคนรุ่นใหม่ได้บ้างคือถอนตัวออกจากการร่วมรัฐบาลเร็วที่สุด ส่วนผู้นำขบวนการสืบทอดอำนาจจะหน้าด้านยื้ออยู่อย่างไรคงต้องหลุดออกจากตำแหน่งอย่างกระเซอะกระเซิง จะได้เห็นภาพดังกล่าวเร็ววันนี้แน่
- อัดนายกฯหมดความชอบธรรม
น.ส.เกศปรียา แก้วแสนเมือง โฆษกพรรคเพื่อชาติ กล่าวว่า การที่ พล.อ.ประยุทธ์ยืนยันไม่ลาออก ท่านผิดจริยธรรมนักการเมือง หมดความชอบธรรมตั้งแต่พูดเท็จนับครั้งไม่ถ้วนเพื่ออยู่ในอำนาจนานๆ ข่มขู่ประชาชนสื่อความหมายว่าจะกระทำรุนแรงว่า “คนเราตายเมื่อไรไม่รู้ อย่าท้าทายพญามัจจุราช” ไม่รวมการบริหารราชการผิดพลาด ทำให้คนจนเพิ่มขึ้นมาก ถ้าไม่สามารถยอมรับหรืออยู่ร่วมกับประชาชนที่คิดต่างได้ ต้องการกำจัดประชาชนที่คิดต่างก็หมดคุณสมบัติการเป็นนายกฯ ต้องลาออก
- ภท.ป้องสถาบัน-แก้ รธน.-ปากท้อง
นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า พรรคภูมิใจไทยขอประกาศ 3 จุดยืน คือ 1.ปกป้องและเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ 2.แก้ไขรัฐธรรมนูญ ปัญหาเกิดขึ้นเป็นผลจากรัฐธรรมนูญซึ่งไม่เป็นที่ยอมรับของประชาชนมากพอสมควร แม้ จะผ่านการทำประชามติ แต่เมื่อใช้แล้วก่อปัญหาก็ต้องแก้ไข พรรคสนับสนุนให้แก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 256 ตั้ง ส.ส.ร.ให้ประชาชนมีส่วนร่วมร่างรัฐธรรมนูญทั้งฉบับกันใหม่ ยกเว้นหมวดที่ 1 และหมวดที่ 2 ถือเป็นข้อเรียกร้องประชาชนผู้ชุมนุม จะทำให้การเผชิญ หน้ากันลดลง โดยรัฐสภาจะเป็นเวทีแก้ปัญหาความขัดแย้งของประชาชนที่ดีที่สุด อีกหนึ่งจุดยืนพรรคภูมิใจไทยจะมุ่งมั่นแก้ปัญหาปากท้องประชาชน จึงเป็นห่วงเพราะส่งผลต่อรายได้ของประชาชนลดลง รวมทั้งการว่างงานจะรุนแรงมากขึ้น จึงมุ่งมั่นแก้ปากท้องประชาชน
- 7 พรรคเล็กขอเป็นตัวกลางหย่าศึก
นายสุรทิน พิจารณ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปไตยใหม่ กล่าวว่าวันที่ 19 ต.ค. เวลา 10.30 น. 7 พรรคเล็ก ประกอบด้วย พรรคประชาธิปไตยใหม่ พรรคพลังธรรมใหม่ พรรคครูไทยเพื่อประชาชน พรรคพลังชาติไทย พรรคพลังไทยรักไทย พรรคประชาภิวัฒน์และพรรคพลเมืองไทย จะแถลงจุดยืนนอกจากปกป้องสถาบัน จะเสนอให้รัฐบาลโดยเฉพาะให้รัฐบาลเปิดเจรจากับผู้ชุมนุมให้ประเทศเดินต่อไปได้ ขณะนี้น่าห่วงมาก เศรษฐกิจพังแล้ว ถ้ายังมีปัญหาวุ่นวายเช่นนี้อีกจะพังมากกว่านี้ พรรคเล็กอยากเป็นตัวกลางให้เกิดการเจรจายุติความขัดแย้ง
- นายกฯย้ำชุมนุมภายใต้กรอบ ก.ม.
นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม กล่าวถึง เหตุการณ์ชุมนุมทั้งใน กทม.และต่างจังหวัดว่า การเรียกร้องเป็นสิทธิเสรีภาพที่พึงกระทำได้ แต่ต้องอยู่ภายใต้ขอบเขตกฎหมาย นายกฯได้ย้ำให้เจ้าหน้าที่รัฐคอยเฝ้าระวังกลุ่มบุคคลผู้ไม่หวังดี อาจอาศัยการชุมนุมที่กระจายตัวสร้างสถานการณ์รุนแรง เพื่อผลประโยชน์ทางการเมือง
พร้อมรับฟังปัญหาของทุกฝ่าย
“รัฐบาลขอย้ำว่าพร้อมรับฟังปัญหาของประชาชนทุกฝ่าย และยังคงมุ่งมั่นเดินหน้าแก้ไขปัญหาต่างๆที่ยังคงมีอยู่ให้พี่น้องประชาชนแต่ละกลุ่มทุกพื้นที่ นอก จากเฝ้าระวังไม่ให้โควิด-19 แพร่ระบาดรอบสองแล้ว ปัญหาเศรษฐกิจยังคงเป็นปัญหาใหญ่ที่รัฐบาลพยายามแก้ไขและเร่งออกมาตรการทางนโยบาย เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนทางเศรษฐกิจให้ประชาชนทุกกลุ่ม จึงขอให้ประชาชนอยู่ในความสงบ ติดตามข่าวสารจากรัฐบาลอย่างใกล้ชิดทุกช่องทาง” นายอนุชากล่าว
ปชป.ให้ รบ.เป็นเจ้าภาพเปิดวิสามัญ
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯ รมว.พาณิชย์ และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แถลงภายหลังการประชุมว่า พรรคติดตามสถานการณ์ใกล้ชิดและเป็นห่วงและมีจุดยืนว่า 1.พรรคยึดมั่นต่อการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขและเทิดทูนสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ 2.ควรใช้แนวทางสันติไม่ใช้ความรุนแรงไม่ว่าฝ่ายใด 3.ควรใช้รัฐสภาเป็นเวทีหาทางออกให้ประเทศ รัฐบาล ควรเป็นเจ้าภาพขอเปิดสภาสมัยวิสามัญ ครม.ใช้ ม.165 เสนอญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติ เพื่อให้รัฐสภาเป็นเวทีหาทางออกของปัญหาได้ชัดเจน ควรใช้เวทีรัฐสภาเร่งรัดให้แก้ไขรัฐธรรมนูญ ควรเร่งเข้าสู่วาระที่ 1 ขั้นรับหลักการทันทีที่ทำได้ ไม่ควรมีเงื่อนไขใดๆที่ทำสังคมเข้าใจว่ายื้อเวลา ชงใช้ ม.165 เปิดอภิปรายทั่วไป ไม่ลงมติ ส่วนผู้ชุมนุมเรียกร้องให้พรรคถอนตัวจากการร่วมรัฐบาลบีบนายกฯลาออกไม่ได้ยึดติดเป็นรัฐบาล จะเร่งรัดให้แก้ไขรัฐธรรมนูญโดยเร็ว
พปชร.บอกห่วงสถาบัน-หนุนแก้ รธน.
เมื่อเวลา 18.20 น. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า พรรคเป็นห่วงเช่นเดียวกับประชาชนคนไทย ทุกคน โดยเฉพาะกรณีที่มีผลกระทบต่อสถาบันจึงขอแถลงจุดยืนพรรคดังนี้ 1.พลังประชารัฐยึดมั่นระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และเทิดทูนสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ 2.มุ่งมั่นจะทำให้ประชาชนอยู่ดีกินดี และ 3.สนับสนุนการแก้รัฐธรรมนูญโดยกระบวนการทางรัฐสภา โดยต้องไม่กระทบหมวด 1 และหมวด 2
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 17.00 น. เพจเฟซบุ๊กพรรคพลังประชารัฐได้มีการโพสต์ข้อความ “ขอปกป้อง เทิดทูนชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ตราบนิรันดร์” พร้อมโพสต์ภาพธงชาติไทยที่มีโลโก้พรรค และข้อความบนภาพว่า “สถาบันฯสร้างชาติ พลังประชารัฐยืนหยัดปกป้อง”
- “ราษฎร” นัดบ่าย 3 สถานีรถไฟฟ้า
ความเคลื่อนไหวของม็อบคณะราษฏรหรือมวลชนในนาม “ราษฎร” เมื่อเวลา 11.05 น.วันที่ 18 ต.ค.เครือข่ายม็อบคณะราษฎร ทุกกลุ่มได้ทยอยเผยแพร่ข้อความผ่านสื่อสังคมโซเชียลทุกแพลตฟอร์ม ระบุว่า 15.00 น.โปรดเตรียมตัวให้พร้อมที่สถานีรถไฟฟ้า ทุกสถานีใกล้คุณ #วันนี้ม็อบที่ไหนดี แล้ววันนี้รัฐจะปิด MRT BTS อีกมั้ยน้าาา (ครุ่นคริส) #ประยุทธ์ออกไป#ม็อบ 18 ตุลา
เมิน รบ.ปิดเฟซย้ายใช้เทเลแกรม
ต่อมา 12.00 น.เครือข่ายม็อบคณะราษฎร ใช้สื่อสังคมออนไลน์ในทุกแพลตฟอร์ม ประกาศแจ้งข่าวถึงมวลชนให้เปลี่ยนช่องทางการสื่อสาร มาเป็นแอปพลิเคชัน เทเลแกรม โดยระบุว่า “ด่วน! เรา ได้รับข่าวมาว่า DE อาจกำลังขอให้ FB ปิดเพจ “เยาวชนปลดแอก-FreeYOUTH” และ “แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม” จึงขอให้ทุกคนโปรดเข้าร่วม Telegram ซึ่งภายในไม่กี่ชั่วโมงมีสมาชิกเข้าร่วมแล้ว 1 แสนคน
- ผบ.ตร.ลงนามสั่งปิดเดินรถไฟฟ้า
ต่อมาเวลา 14.30 น. พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร.ฐานะหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง ได้มีหนังสือคำสั่งปิดให้บริการสถานีรถไฟฟ้า ดังนี้ รถไฟฟ้าบีทีเอส สายสุขุมวิท ได้แก่ สถานีพหลโยธิน 24 สถานีห้าเเยก ลาดพร้าว สถานีหมอชิต สถานีอโศก สถานีอุดมสุข เเละสถานีบางนา สายสีลม ได้เเก่ สถานีช่องนนทรี สถานีสุรศักดิ์ สถานีกรุงธนบุรี และสถานีวงเวียนใหญ่ รถไฟฟ้าใต้ดินเอ็มอาร์ทีสายสีน้ำเงิน ได้เเก่ สถานีหัวลำโพง สถานีลุมพินี สถานีสุขุมวิท สถานีพหลโยธิน และสถานีจตุจักร นอกจากนี้ ปิดทางเชื่อมหรือสกายวอล์ก ได้เเก่ ทางเชื่อมรถไฟฟ้าบีทีเอสสถานีห้าเเยก ลาดพร้าวถึงสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินเอ็มอาร์ทีสถานีพหลโยธิน เเละทางเชื่อมรถไฟฟ้าบีทีเอส สถานีอโศกถึงรถไฟฟ้าใต้ดินสถานีสุขุมวิท เริ่มปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 14.30 น.เป็นต้นไป จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง ระบุให้ พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. เป็น ผู้สั่งการควบคุม
- ให้ ผบก.ปิดพื้นที่ได้ตามสถานการณ์
พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษก ตร.กล่าวว่า การชุมนุมตามสถานีรถไฟฟ้าทุกสถานี ต้องปิดให้บริการสถานีรถไฟฟ้า กรณีเป็นรูปแบบดาวกระจายให้ ผบก.เป็นผู้รับผิดชอบแต่ละพื้นที่ สั่งปิดพื้นที่ตามจุดที่มีปัญหาปิดตรงนั้น เมื่อทำการใดให้รายงานกอร.ฉ.ทันที การปิดมี 2 กรณี ได้แก่ 1.ผบ.ตร. (ผอ.กอร.ฉ.) สั่งปิด 2.ถ้าพื้นที่เห็นว่าไม่ปลอดภัย พื้นที่ปิดเองได้เลย เพิ่มเติมบีทีเอสและเอ็มอาร์ทีอำนวยความสะดวกให้ศูนย์สืบสวนฯประสานขอกล้องซีซีทีวีได้ ส่วนระดับการใช้กำลังจะไม่ใช้กำลังเกินกว่าวันที่ 16 ต.ค.
- แตกตัวแฟลชม็อบพรึบทั่ว ปท.
เวลา 15.05 น.ม็อบราษฎร ใช้สื่อโซเชียลมีเดีย ประกาศนัดหมายชุมนุมที่จุดหลักคืออนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ และแยกอโศกเป็นจุดย่อย และยังนัดหมายสถานที่ชุมนุมในจังหวัดต่างๆ พร้อมกันทั่วประเทศ ภาคกลาง ที่ จ.ปทุมธานี ท่ารถตู้ ตจว. ตรงข้ามฟิวเจอร์พาร์ครังสิต จ.สมุทรสาคร แยกพุทธมณฑลสาย 4 จ.สมุทรปราการ หน้าอิมพีเรียลสำโรง จ.นนทบุรี รถไฟฟ้าสามแยกบางใหญ่ จ.สระบุรี สวนสาธารณะ จุดพักรถบายพาส จ.สิงห์บุรี ศาลหลักเมือง จ.สุพรรณบุรี กำแพงเมืองสุพรรณ จ.ปราจีนบุรี ศาลากลางหลังเก่าหรือหน้า ร.5 ภาคอีสาน จ.ขอนแก่น บึงสีฐาน จ.นครราชสีมา เทคโนโคราช คุรุสัมมนาคาร จ.ยโสธร หน้าศาลากลาง จ.อุดรธานี ลานศิษย์เก่า มรภ.อุดรธานี จ.ศรีสะเกษ ศาลหลักเมือง จ.กาฬสินธุ์ ศาลากลางหลังเก่า ภาคตะวันออก จ.ฉะเชิงเทรา หน้าศาลากลาง จ.จันทบุรี ลานจันทน์ จ.ชลบุรี สี่แยกปากร่วม บ่อวินระยอง สวนสุขภาพบ้านฉาง และภาคใต้ ที่ จ.ภูเก็ต ลานมังกร
- ยึดอนุสาวรีย์ชัยฯบี้ปล่อยเพื่อนเรา
กระทั่ง 15.40 น. มวลชนวัยรุ่นหนุ่มสาวที่รับทราบข่าวสารการชุมนุม ต่างมุ่งหน้ามาจากทั่วทุกสารทิศ มีเป้าหมายมาที่ชัยภูมิหลักรอบอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิเป็นจุดแรก กระจายกันนั่งตามป้ายรถเมล์ บนสกายวอล์ก จนเวลา 16.00 น.มวลชนทั้งหมดเริ่มรวมตัวกันแล้วเคลื่อนขบวน ข้ามถนนเข้ายึดพื้นที่ทางเดินรอบฐานอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ โดยได้นำภาพแกนนำคณะราษฎรที่ถูกจับกุมมาชูพร้อมตะโกน “ปล่อยเพื่อนเรา” หลังจากยึดพื้นที่รอบฐานอนุสาวรีย์ชัยฯการ์ดมวลชนอาสาคณะราษฎร เริ่มนำมวลชนลงไปชุมนุมบนถนน โดย พ.ต.อ.อรรถวิทย์ สายสืบ รอง ผบก.น.1 รุดเข้าเจรจาขอเปิดพื้นที่ถนนบางส่วน ผู้ชุมนุมยินยอมให้ผ่านเฉพาะรถพยาบาล และเริ่มนำแผงรั้วเหล็กปิดทางเข้าอนุสาวรีย์ชัยฯฝั่งถนนราชวิถีขาเข้า หน้าศูนย์การค้าเซ็นเตอร์วัน แล้วรวมกำลังปิดถนนโดยรอบนั่งบนพื้นถนนรอบอนุสาวรีย์ชัยฯ ท่ามกลางฝนโปรยปรายลงมา จนช่วง 17.00 น. มวลชนก็เข้ามาเต็มพื้นที่ โดยสวมเสื้อกันฝนและร่มพร้อมเต็มที่ ส่วนชุดการ์ดอาสานับร้อยคนส่วนใหญ่เป็นชายฉกรรจ์ วัยรุ่นมาพร้อมหมวกกันน็อก แว่น กันน้ำ หน้ากากกันแก๊ส เคลื่อนขบวนไปตั้งแนวรับบนถนนพญาไท ปากซอยรางน้ำ ใช้เป็นจุดสกัดเจ้าหน้าที่เข้าสลาย แจ้งแนวทางต่อๆกันว่าจะไม่ใช้ความรุนแรงหรือใช้อาวุธ แค่ผลักดันประวิงเวลาให้มวลชนถอยอย่างปลอดภัย
- ตั้งแถวเข้มแข็งส่งอุปกรณ์ชู 3 นิ้วพรึบ
ต่อมามวลชนที่อยู่จุดชุมนุมกลางอนุสาวรีย์ชัย เริ่มตั้งแถวแล้วส่งต่ออุปกรณ์จำเป็นทั้งหมวกและแว่นป้องกันแก๊สน้ำตาไปเสริมให้แนวรับบนถนนพญาไท โดยการชุมนุมถอดแบบมาจากม็อบฮ่องกง ไม่มีเวทีปราศรัย ไม่มีแกนนำ มีแต่โทรโข่งขนาดเล็ก ผู้ชุมนุมทั้งหมดจึงจะปฏิบัติการอย่างพร้อมเพรียงด้วยการยืนและนั่งเป็นแถวอย่างเป็นระเบียบ วิธีการสื่อสารใช้การพูดและตะโกนต่อๆกันมาจากแนวรับสู่ใจกลางที่ชุมนุม เพื่อให้ผู้ชุมนุมทั้งหมดรับทราบถึงสถานการณ์ เช่น หากแนวหน้าจุดเตรียมปะทะ ต้องการน้ำเพิ่มจะตะโกนต่อๆกันแล้วรีบส่งไปให้เป็นการประสานงานและสื่อสารแบบที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนในประเทศไทย
เวลา 18.45 น.บริเวณพื้นที่ชุมนุมคณะราษฎรฝั่งพญาไท ขาเข้ามวลชนนั่งยึดพื้นที่เต็มพื้นที่ถนนถึงหน้าศูนย์การค้าเซ็นจูรีพลาซา มีนายเกื้อการย์ อารามรักษ์ เป็นแกนนำปราศรัยปลุกเร้ามวลชนร่วมกันเปิดแฟลชโทรศัพท์ ชู 3 นิ้วอย่างพร้อมเพรียง จากนั้นประกาศให้การ์ดมวลชนอาสาด่านหน้าและผู้ชุมนุมทั้งหมดบนถนนทราบว่าการชุมนุมจะยุติเวลา 20.00 น. อุปกรณ์ต่างๆที่ได้รับการแจกจ่ายขอให้นำกลับมาใช้ในการชุมนุมวันที่ 19 ต.ค.
- เฮลั่นอ้างเป็น ตร.ขึ้นเวทีประกาศยืนข้าง ปชช.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การชุมนุมดำเนินมาจนถึงเวลา 19.00 น. มีการนำเครื่องขยายเสียงเข้ามาติดตั้งใกล้ฐานอนุสาวรีย์ชัยฯ หันหน้าไปทางถนนราชวิถี ขาออก ฝั่งมุ่งหน้าดินแดง จากนั้นมีการให้ผู้ชุมนุมที่อยากจะปราศรัยสลับกันขึ้นไปบนรถพูดจาสื่อสารกับมวลชนแบบไม่มีใครเป็นตัวหลัก กระทั่งได้มีชายคนหนึ่งขึ้นเวทีโดยอ้างตัวว่าเป็นตำรวจที่ออกมายืนอยู่ข้างประชาชน ทั้งเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ทั่วประเทศ ออกมาสู้กับเผด็จการร่วมกับประชาชน ทำให้มวลชนรอบอนุสาวรีย์ชัยฯ ส่งเสียงเฮดังลั่น จากนั้นในเวลาประมาณ 20.28 น. เวทีปราศรัยฝั่งถนนราชวิถีประกาศยุติการชุมนุมโดยมวลชนทยอยเดินทางกลับ ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงประเมินยอดผู้ชุมนุม ที่อนุสาวรีย์ชัยฯว่ามีจำนวนราว 14,000 คน
อโศกคึกวัยรุ่นมาตามนัด
ส่วนที่บริเวณสถานีรถไฟฟ้า BTS อโศก พื้นที่ชุมนุมจุดย่อย เมื่อเวลา 15.00 น. กลุ่มเยาวชนนักเรียน นักศึกษา สวมใส่เสื้อสีดำทยอยมารวมตัวกันอย่างคึกคัก หน้าอาคารเชื่อมต่อรถไฟฟ้าบีทีเอสและเอ็มอาร์ที หัวมุมศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 สี่แยกอโศกมนตรี มีแนวร่วมนักเรียนนักศึกษาในพื้นที่ใกล้เคียงมาร่วมชุมนุมอย่างต่อเนื่อง ร่วมกันแสดงพลังเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ลาออก ให้รัฐบาลเร่งปล่อยตัวคณะแกนนำที่ถูกจับกุมทั้งหมดโดยเร็ว กลุ่มนักศึกษาแกนนำจัดการชุมนุมประกาศกติกาการชุมนุมว่าให้ชุมนุมอย่างสันติ เมื่อสั่งเลิกกิจกรรมหรือสลายตัวต้องทำทันที เพื่อความปลอดภัยต่อตัวเองและผู้อื่น ถ้าเกิดเหตุการณ์ไม่ปลอดภัยขึ้น ให้ผู้เข้าร่วมชุมนุมทุกคนออกจากพื้นที่ชุมนุมไปรวมตัวใน ม.ศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร ซอยสุขุมวิท 23 นอกจากนี้ ทีมแกนนำได้สอนสัญญาณมือไว้เป็นโค้ดแจ้งเหตุระหว่างการชุมนุมให้ผู้ร่วมชุมนุมด้วย
- บก.ลายจุดยกเป็นบางกอกโมเดล
เมื่อเวลา 16.50 น. ที่แยกอโศกมนตรี บริเวณที่ชุมนุมกลุ่มคณะราษฎร นายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ บก.ลายจุด ได้เดินทางมาร่วมชุมนุม โดยกล่าวว่า การชุมนุมขณะนี้คล้ายฮ่องกงโมเดล หรือจะเรียกว่าเป็น “บางกอกโมเดล” ก็ได้ แต่ผู้ชุมนุมไม่ควรเผชิญหน้าตำรวจ ที่ผ่านมามีการปะทะกันจนทำให้เกิดความไม่ไว้วางใจกัน ต้องตระหนักว่าตำรวจเป็นเพียงเครื่องมือหนึ่งเท่านั้น การชุมนุมหลายจุดเมื่อวันที่ 17 ต.ค. ที่ไม่เลิกตามเวลาที่ประกาศไว้ ต้องยอมรับคนในม็อบอารมณ์ค้างอยู่แล้ว โดยธรรมชาติต้องมีเวลาให้แยกตัวก่อน สังคมต้องเรียนรู้ธรรมชาติของม็อบร่วมกัน แล้วจะทำให้เราอยู่ร่วมกันได้ เมื่อรถพยาบาลมาต้องเปิดทางให้
- ยุติชุมนุมสลายตัวส่งน้องๆกลับบ้าน
จากนั้นเวลา 19.40 น. หลังจากมวลชนได้แสดงออกกันอย่างเต็มที่แล้ว คณะแกนนำนักศึกษาได้ประกาศยุติการชุมนุมของกลุ่มเยาวชนนักเรียนนักศึกษาแนวร่วมคณะราษฎรที่แยกอโศกมนตรี ถนนสุขุมวิท โดยมีการอำนวยความสะดวกให้ผู้เข้าร่วมชุมนุม ทยอยเดินทางออกจากพื้นที่อย่างปลอดภัยเป็นที่เรียบร้อย จึงสามารถเปิดการจราจรบนถนนอโศกมนตรีกลับคืนเป็นปกติ
- เชียงใหม่ไล่ ครม.ลาออกทั้งคณะ
ส่วนการชุมนุมในต่างจังหวัดนั้น ที่ จ.เชียงใหม่ ช่วงเย็น กลุ่มประชาคมมอชอ พร้อมนิสิตนักศึกษาประชาชนชาวเชียงใหม่ รวมตัวกันที่ลานสิงห์ขาว หน้าคณะรัฐศาสตร์ ภายในมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ แสดงออกเชิงสัญลักษณ์ โจมตีรัฐบาล ขอให้ยุติใช้ความรุนแรงกับผู้ชุมนุม พร้อมเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์รวมไปถึง ครม.ทั้งคณะลาออก นอกจากนี้ยังเรียกร้องให้ร่างรัฐธรรมนูญใหม่เร็วที่สุด และขอให้ปล่อยแกนนำทั้งหมดที่ถูกจับ จากนั้นมีการตั้งขบวนเดินเท้าออกจากลานสิงห์ขาวไปที่อาคารยุทธศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เพื่อทวงถามผู้บริหารมหาวิทยาลัยถึงแนวทางการให้ความช่วยเหลือนายประสิทธิ์ ครุธาโรจน์ แกนนำคณะราษฎร นักศึกษาของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ที่ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำกลาง กระทั่งเวลา 18.00 น. ระหว่างเคารพธงชาติ กลุ่มผู้ชุมนุมได้คุกเข่าพร้อมกับชู 3 นิ้วและร้องเพลงชาติด้วย
- ขอนแก่นวางหรีดไว้อาลัยตำรวจ
ที่ จ.ขอนแก่น กลุ่มนักเรียน นักศึกษา รวมพลปักหลักชุมนุมรอบอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถ.ศรีจันทร์ ในเขตเทศบาลนครขอนแก่น ภายหลังกลุ่มนักเรียน นักศึกษา ได้ประชาสัมพันธ์ผ่านเพจเฟซบุ๊กชื่อ “ขอนแก่นพอกันที” และ “ภาคีนักเรียน KKC” มีการนัดรวมตัวกัน 2 จุด โดยจุดแรกอยู่ที่บึงสีฐาน มหาวิทยาลัยขอนแก่น จุดที่ 2 อยู่ที่หน้าโรงเรียนขอนแก่นวิทยายน ในเขตเทศบาลนครขอนแก่น กลุ่มนักเรียนระดับมัธยมจากโรงเรียนต่างๆ ในขอนแก่นกว่า 500 คน ได้มารวมตัวกันที่ริมถนนกลาง หน้าโรงเรียนขอนแก่นวิทยายน นำพวงหรีดที่เขียนคำว่า “ไว้อาลัยแด่ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ (?)” และป้ายผ้าเขียนคำว่า “ปล่อยพี่เรา” มาวางไว้ด้วย ขณะที่นักเรียนในนามกลุ่ม “ภาคีนักเรียน KKC” เดินทางไปหน้า สภ.เมืองขอนแก่น ยืนชู 3 นิ้วด้วยความสงบ 1 นาที เพื่อไว้อาลัยแด่ผู้พิทักษ์ สันติราษฎร์ (?) ที่สลายการชุมนุมที่ กทม.และเรียกร้องปล่อยตัวรุ่นพี่แกนนำทั้งหมด
ชุมนุมฟิวเจอร์ปทุมฯล้างอำนาจมืด
เมื่อเวลา 15.00 น. ที่ใต้สะพานข้ามแยก ตรงข้ามศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์ครังสิต ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี กลุ่มมวลชนราษฎร เริ่มทยอยเดินทางมารวมตัวกันบนสะพานลอยจนหนาแน่น ก่อนที่จะเคลื่อนลงมาที่ด้านล่างบริเวณฟุตปาทใต้สะพานข้ามแยก โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ คอยยืนอำนวยการจราจรไม่ให้รถติด สำหรับการชุมนุมครั้งนี้ไม่มีแกนนำ หากใครอยากจะพูดหรือระบายอะไรก็ให้ขึ้นพูดได้เลย โดยประกาศเจตนารมณ์ ข้อเรียกร้อง 3 ข้อ 1.พล.อ.ประยุทธ์ต้องออกจากนายกฯ 2.เปิดประชุมวิสามัญรับร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ 3.ปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ให้กลับมาอยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ พร้อมประกาศจุดยืนจะไม่หยุดจนกว่าอำนาจมืดจะหมดไป กระทั่งเวลา 16.30 น. มีมวลชนทยอยเติมเข้ามาจำนวนมากหลายพันคน ลงไปปิดถนนคู่ขนานพหลโยธิน รถที่มาจากเส้นทางปทุมธานีมุ่งหน้าพหลโยธินไปทางคลองหลวง ไม่สามารถใช้การได้
- รวบ “ชินวัตร” แกนนำนนทบุรี
ช่วงเย็น ที่หน้าห้างเซ็นทรัลพลาซา เวสต์เกต ถนนกาญจนาภิเษก บางใหญ่ จ.นนทบุรี ผู้ชุมนุมทยอยเดินทางมาอย่างต่อเนื่องตามนัดหมาย เพื่อปิดถนนที่มุ่งหน้าไปยังถนนรัตนาธิเบศร์ พร้อมปักหลักชุมนุมปราศรัย อย่างไรก็ตาม ที่ด่านตรวจความมั่นคง ถนนบางศรีเมือง-วัดโบสถ์ ต.บางกร่าง อ.เมือง จ.นนทบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจและจราจรได้ตั้งด่านตรวจเพื่อสกัดจับแกนนำเครือข่ายคนรุ่นใหม่นนทบุรี และนนทบุรีปลดแอก หลังได้รับแจ้งว่าจะใช้เส้นทางดังกล่าวเพื่อไปร่วมชุมนุม พบรถเบนซ์ สีดำ ทะเบียน ศอ 9229 กรุงเทพมหานคร ขับเข้ามา
ยังด่าน จึงขออนุญาตตรวจค้น ภายในมีนายชินวัตร จันทร์กระจ่าง อายุ 28 ปี ขณะเดินทางมาเป็นแกนนำชุมนุมวันนี้นั่งอยู่เบาะด้านหลัง ซึ่งเป็นบุคคลตามหมายจับของศาล จ.นนทบุรี ที่ 506/63 ข้อหายุยงปลุกปั่นและใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาต เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเชิญตัวนายชินวัตรลงจากรถและควบคุมตัวไปที่ ตชด.ภ.1 ปทุมธานี
- ทะลักปิดถนนพุทธมณฑลสาย 4
ช่วงเย็น ที่บริเวณแยกสาครเกษม พุทธมณฑลสาย 4 ต. อ้อมน้อย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ได้มีกลุ่มมวลชนทั้งนักเรียน นักศึกษา และประชาชน ได้มารวมตัวกันตะโกนให้นายกฯลาออกไป พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม และแสดงสัญลักษณ์ชู 3 นิ้ว สลับกับการขึ้นไปกล่าวปราศรัยโจมตีรัฐบาล ตกช่วงค่ำคนยิ่งทยอยมากันเรื่อยๆ หลายพันคน จนขยายวงล้นออกมาบนถนน กระทั่งมีการปิดถนนเพชรเกษมบริเวณดังกล่าวทั้งสองฝั่ง
- สมุทรปราการคนแน่นล้นถนน
ที่ จ.สมุทรปราการ บริเวณสามแยกพระประแดง ตั้งแต่ช่วงบ่าย ผู้ชุมนุมเริ่มออกมาชุมนุมกันตามนัดหมาย และทยอยเข้ามาอย่างต่อเนื่อง แต่ไม่มีการปิดการจราจรแต่อย่างใด โดยรถที่สัญจรไปมานั้นได้เปิดกระจกชูสามนิ้วให้กำลังใจแก่ผู้ชุมนุมหลายคัน ส่วนบรรยากาศที่บริเวณหน้าห้างสรรพสินค้าอิมพิเรียลเวิลด์สำโรง ต.สำโรงเหนือ อ.เมืองสมุทรปราการ เป็นไปอย่างคึกคัก โดยผู้ชุมนุมส่วนใหญ่เป็นนักเรียน นักศึกษา รวมถึงประชาชนทั่วไป ต่างทยอยเข้ามาสมทบ จนทำให้บริเวณหน้าห้างเนืองแน่นไปด้วยกลุ่มมวลชน การชุมนุมเป็นแบบไร้แกนนำ โดยให้ทุกคนเข้ามามีส่วนร่วมพูดผ่านโทรโข่ง พร้อมกับจัดให้มีการแสดงเพื่อประณามการใช้กำลังสลายการชุมนุม ขณะเดียวกันมวลชนยังทยอยมาสมทบจนทะลักลงมาบนผิวจราจรฝั่งถนนสุขุมวิทขาเข้ากรุงเทพฯ
- สุพรรณสับขาหลอก จนท.หัวหมุน
ที่ จ.สุพรรณบุรี กลุ่มนักเรียน นิสิต นักศึกษาใน จ.สุพรรณบุรี ภายใต้สโลแกน “สุพรรณจะไม่ทน” เบื้องต้นประกาศจะรวมตัวกันที่ประตูเมืองสุพรรณบุรี แต่ได้ย้ายไปชุมนุมกันที่หน้าสวนเฉลิมภัทรราชินี (หอคอยบรรหารแจ่มใส) ซึ่งอยู่ใจกลางเมืองสุพรรณบุรี ตำรวจที่เตรียมการไว้แล้วต้องรีบปรับแผนตาม โดยกลุ่มผู้ชุมนุมที่รวมตัวกันหลายร้อยคนได้พากันเดินขบวนเข้ามาในตัวเมืองสุพรรณบุรี และเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆแม้จะถูกสกัดกั้นจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมประกาศข้อเรียกร้อง 4 ข้อ ประกอบด้วย 1.พล.อ.ประยุทธ์ต้องลาออก 2.ร่างรัฐธรรมนูญใหม่โดยเร็วที่สุด 3.ส.ว.ต้องมาจากการเลือกตั้ง 4.พรรคชาติไทยพัฒนาต้องออกจากฝ่ายรัฐบาล
- แปดริ้วไม่ทนเยาวชนมากันเพียบ
อีกด้านหนึ่งเวลา 17.00 น. ที่บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดฉะเชิงเทรา กลุ่มเยาวชนและประชาชนชาวฉะเชิงเทรากว่าพันคน รวมตัวกันเพื่อแสดงสัญลักษณ์ชูสามนิ้ว และยื่นข้อเรียกร้อง 3 ข้อ คือ 1.นายกรัฐมนตรีต้องลาออก 2.ร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ 3.ปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ให้อยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญอย่างแท้จริง มีการสลับสับเปลี่ยนแกนนำขึ้นพูดอย่างต่อเนื่อง ประเด็นหลักคือเรื่องสถาบันกษัตริย์ ที่ไม่มีใครต้องล้มล้าง แต่ต้องการปฏิรูปให้อยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ รวมถึงประณามการสลายม็อบเมื่อวันที่ 16 ต.ค.ที่ผ่านมาว่าทำรุนแรงเกินกว่าเหตุ ยิ่งเวลาผ่านไปยิ่งมีประชาชนเดินทางเข้ามาร่วมเป็นจำนวนมาก
- “อุดรปลดแอก” ฮือไล่ “บิ๊กตู่”
ช่วงเย็นที่ลานศิษย์เก่า ภายในมหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี กลุ่มเยาวชนปลดแอกอุดรธานีมารวมตัวตามนัดหมายในช่องทางการสื่อสารโซเชียลมีเดียของเพจ “เสรีประชาธิปไตยเยาวชนอุดร” เรียกร้องให้นายกฯลาออกจากตำแหน่ง ต่อมาเมื่อคนมามากขึ้น จึงได้เคลื่อนขบวนไปยังถนนหน้าวงเวียนอนุสาวรีย์พลตรีพระเจ้าบรมวงษ์เธอกรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม โดยกลุ่มผู้ชุมนุมนั่งลงบนพื้นถนน ยึดพื้นที่หน้าพระอนุสาวรีย์ฯ ปิดช่องทางการเดินรถด้านทิศใต้ รถที่วิ่งออกจากถนนทหารได้เพียง 1 ช่องทาง และเข้าไปถนนทหารได้เพียง 1 ช่องทาง ทำให้รถเคลื่อนตัวช้าและเริ่มติดขัด ตำรวจต้องมาอำนวยการจราจร ทั้งนี้มีการเน้นย้ำจุดยืนทางการเมือง เรียกร้องให้รัฐบาลต้องยุบสภา ร่างรัฐธรรมนูญใหม่ และหยุดคุกคามประชาชน
- สุราษฎร์ชู 3 นิ้วก่อนช่วยเก็บขยะ
เย็นวันเดียวกัน ที่สะพานนริศ ริมแม่น้ำตาปี เขตเทศบาลนครสุราษฎร์ธานี มีนักเรียน นักศึกษา และประชาชนทั่วไป รวมตัวแสดงออกทางสัญลักษณ์และแสดงพลังจุดยืนทางประชาธิปไตย โดยไม่มีแกนนำ ทุกคนมาตามเฟซบุ๊กที่นัดหมายให้คนที่คิดเหมือนกันออกมาแสดงพลังในครั้งนี้ ขณะเดียวกันยังมีการเก็บขยะบำเพ็ญประโยชน์เพื่อสาธารณะ จากนั้นเวลาประมาณ 18.20 น. ได้มีการชูสามนิ้ว พร้อมร้องเพลงชาติ ท่ามกลางเจ้าหน้าที่มาสังเกตการณ์ให้ทุกอย่างเป็นไปด้วยความสงบเรียบร้อย
- กอร.ฉ.แถลงยันทำตามหลักสากล
ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) เมื่อเวลา 12.00 น. พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษก ตร. พ.ต.อ. ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษก ตร. พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. แถลงความคืบหน้าการปฏิบัติงาน พล.ต.ต.ยิ่งยศกล่าวว่า กอร.ฉ. ขอย้ำว่าการบังคับใช้ กฎหมายกับกลุ่มผู้ชุมนุมเป็นไปตามกฎหมาย ไม่อนุญาต ให้ชุมนุมที่มีวัตถุประสงค์ก่อให้เกิดความร้ายแรงใดๆ ทั้งสิ้น หากฝ่าฝืนจำเป็นต้องทำหน้าที่บังคับใช้กฎหมาย ยึดหลักกฎหมายเป็นไปตามหลักสากล ตามยุทธวิธีที่ทั่วโลกยอมรับ มุ่งสร้างสมดุลระหว่างการรักษาความสงบเรียบร้อยและความปลอดภัยของประชาชนเป็นหลัก ตรวจสอบได้ตามหลักสากล ไม่มีการกระทำ ที่รุนแรงหรือเกินเลยกว่าที่กฎหมายกำหนด อีกทั้งยุทธวิธีที่ใช้เป็นไปตามหลักสากลนิยม เรื่องคดี บช.น. จะชี้แจงข้อเท็จจริงต่อไป
“หมอทศพร” มอบตัว สน.ปทุมวัน
ที่ สน.ปทุมวัน เมื่อเวลา 16.00 น. นพ.ทศพร เสรีรักษ์ อดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคเพื่อไทย พร้อมทีม ทนายความ เข้าพบพนักงานสอบสวน สน.ปทุมวัน ตามหมายจับความผิดฐานฝ่าฝืนข้อกำหนดห้ามมิให้ มีการชุมนุมหรือมั่วสุมกันฯ ตามมาตรา 9 ตาม พ.ร.ก. ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 มีนายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ หรือ จ่านิว น.ส.ชยิกา วงศ์นภาจันทร์ หรือแซนด์ อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) หลานสาว น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง อดีตรองนายกฯ นายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีต รมว.พลังงาน เป็นต้น
- เย้ยนายกฯ เป็นซากศพไปแล้ว
นพ.ทศพรกล่าวว่า มาแสดงเจตนาบริสุทธิ์ว่า ไม่กลัว ตำรวจจับเรื่องอะไร มาช่วยตั้งเต็นท์แพทย์พยาบาลเพื่อมวลชนช่วยเหลือผู้ชุมนุม ไม่เคยเข้าไปกระตุ้นปลุกเร้าปลุกปั่น เป็นธรรมดารัฐจะใช้อำนาจจัดการผู้ชุมนุม ต้องรักษาอำนาจให้ถึงที่สุด เหมือนคนจมน้ำเฮือกสุดท้าย จะจับหมด หรือจะเอาประชาชนนับแสนไปขังที่ไหน รัฐบาลไม่มีทางสู้กับประชาชนเป็นแสนเป็นล้านได้ วันนี้ พล.อ.ประยุทธ์คือซากศพไปแล้ว ฝากบอกไปถึงทหารตำรวจ รัฐบาลและพรรค ร่วมรัฐบาล จะกอดซากศพไปทำไม
ต่อมาเวลา 17.05 น. นพ.ทศพรเผยว่า พงส. แจ้งข้อกล่าวหาผิด พ.ร.ก.ฉุกเฉินและจะนำตัวไปส่ง พงส.ที่กองบังคับตำรวจตระเวนชายแดน ภาคที่ 1 ไม่กังวลอะไร ระหว่างถูกคุมตัวไว้จะได้วาดรูปไผ่ ดาวดิน เหตุการณ์ที่ถูกล็อกคอเมื่อวันที่ 13 ต.ค.ให้เสร็จเสียที ขณะที่ตำรวจคุมตัว นพ.ทศพรขึ้นรถ มีประชาชนที่เดินทางมาให้กำลังใจตะโกนว่า “ปล่อยเพื่อนเรา” และ “ขอให้คุณหมอสู้ๆ”
บทความเพิ่มเติ่ม
👉 18 ภาพเล่าเรื่อง 18 ตุลาคม 2563 ม็อบดาวกระจายในกทม.
👇 อ่านบทความต้นฉบับ 👇
โฆษณา