22 ต.ค. 2020 เวลา 06:30 • การเมือง
ทางออกประเทศ มุมมองคนรุ่นใหม่ "ไอติม พริษฐ์" กระชากหน้ากาก ด้านมืดรัฐบาล
ความขัดแย้งภายในประเทศ ณ ขณะนี้ ยังไม่มีทีท่าจะสงบลง โดยม็อบกลุ่ม "ราษฎร" เดินหน้าเคลื่อนไหวในการชุมนุมต่อเนื่องแบบดาวกระจาย และอีกม็อบต่างขั้วการเมือง กำลังโหมโรงแสดงจุดยืนเห็นต่างในหลายพื้นที่
• ดูเหมือนว่าไฟในบ้านเมืองกำลังลุกโชนขึ้นมาอีกหรือไม่ หากผู้เกี่ยวข้องไม่รีบหาทางออกแก้ปัญหาโดยเร็ว แม้ว่ากำลังจะเปิดประชุมรัฐสภาวิสามัญ ในวันที่ 26-27 ต.ค. เพื่อแก้ปัญหาสถานการณ์บ้านเมือง แต่อาจไม่ทันการณ์
• เมื่อบ้านเมืองกำลังประสบปัญหา หลายฝ่ายแสดงความคิดเห็นเสนอทางออกของประเทศ นอกเหนือจากการเปิดเวทีร่วมแก้ไขปัญหาด้วยสันติ อหิงสา อีกทั้งเสนอให้ยกเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉิน เร่งการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และมุมมองบางส่วนให้นายกรัฐมนตรี ลาออกจากตำแหน่งตามข้อเรียกร้องของม็อบ "ราษฎร"
อีกมุมมองของนักการเมืองรุ่นใหม่ “พริษฐ์ วัชรสินธุ” หรือ “ไอติม” หลานชายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงข้อเสนอทางออกประเทศ ผ่าน "ทีมข่าวเจาะประเด็นไทยรัฐออนไลน์" ว่า ต้องยอมรับอุณหภูมิการเมืองเริ่มสูงขึ้น เนื่องจากหลายเดือนที่ผ่านมาเห็นประชาชนจำนวนมากไม่พอใจรัฐบาล และระบบการเมือง ทำให้มีการแสดงจุดยืนที่ชัดเจนในการออกมา "ชุมนุม" บนท้องถนน และจากการสลายชุมนุมเมื่อวันที่ 16 ต.ค. แม้ว่ารัฐบาลอ้างทำตามหลักสากล แต่การปฏิบัติต่อผู้ชุมนุมไม่ใช่ตามหลักสากลของสหประชาชาติ โดยการใช้ปืนใหญ่ฉีดน้ำในระยะที่ใกล้เกินไปใส่กลุ่มผู้ชุมนุม
เมื่อสิ่งที่เกิดขึ้นมีการกระทำต่อผู้ชุมนุมโดยขัดหลักสากล และสถานการณ์อาจกำลังรุนแรงบานปลาย ทาง “พริษฐ์” ได้สรุปทางออกประเทศ 5 ข้อ "เลิก-หยุด-ปล่อย-เปิด-แก้" ซึ่งอันดับแรกต้องเริ่มด้วยการยกเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ เพราะเหตุที่รัฐบาลอ้างนั้นไม่เป็นไปตามหลักสากล อ้างเป็นภัยความมั่นคง ทั้งๆ ที่เห็นชัดว่าเป็นการชุมนุมที่ปราศจากอาวุธ ซึ่งไม่เข้าข่าย จึงควรยกเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ เพื่อคุ้มครองสิทธิเสรีภาพในการชุมนุมของประชาชน
ส่วนข้อที่สอง ต้องหยุดกระทำด้วยการคุกคามประชาชน และปัจจุบันยังรวมไปถึงการคุกคามสื่อมวลชนที่เห็นต่าง โดยพยายามไล่ปิดปาก ปิดกั้นในการแสดงออก และล่าสุดมีคำสั่งให้สื่อบางสำนักหยุดเผยแพร่ และจับกุมหนังสือบางเล่มที่เห็นต่างรัฐบาล ซึ่งรัฐบาลต้องหยุดการกระทำเช่นนี้ หากรัฐบาลคิดว่าเห็นต่างกับผู้ชุมนุม ก็ควรออกมาบอก มีการชี้แจงว่าคิดอย่างไร และข้อสาม ขอให้ปล่อยแกนนำผู้ชุมนุม ซึ่งเริ่มมีการปล่อยบางคนแล้ว
ข้อสี่ เสนอให้มีการเปิดพื้นที่ปลอดภัย เพื่อประชาชนทุกฝ่ายจะสามารถพูดคุยได้อย่างตรงไปตรงมา ในการแก้ไขข้อผิดพลาดในอดีต โดยประเด็นที่ผู้ชุมนุมออกมาเรียกร้องในการปฏิรูปการบริหารของรัฐบาล และการปฏิรูปเรื่องอื่น ซึ่งเป็นเรื่องละเอียดอ่อนแต่ไม่อยากให้ปิดกั้น เพราะมาจากความจริงใจของคนรุ่นใหม่ ควรหาพื้นที่หรือเวทีให้คนเห็นต่างและคนอีกฝ่ายมาพูดคุยร่วมกัน และข้อสุดท้ายการแก้รัฐธรรมนูญ ซึ่งไม่พ้นเรื่องนี้ เพราะเป็นกุญแจสำคัญในการสร้างกติกา ให้เป็นที่ยอมรับของทุกฝ่ายในการแก้ไขร่วมกัน
“สิ่งที่เป็นกังวลขณะนี้ กลัวเรื่องความเสี่ยงจะเกิดความรุนแรง และในความเป็นจริงสามารถเกิดขึ้นได้จากคนมีอาวุธ แต่สิ่งสำคัญคือรัฐบาล ต้องหยุด และวางมือด้วยการไม่ตอบโต้ผู้ชุมนุม ด้วยความรุนแรง อย่างการสลายการชุมนุมที่ผ่านมา ไม่ควรรุนแรงเกินหลักสากล ด้วยการเอาปืนใหญ่ฉีดน้ำผสมสารเคมี”
นอกจากนี้มองว่าปัญหาในบ้านเมืองที่อุณหภูมิสูงขึ้น เนื่องจากที่ผ่านมารัฐบาลไม่เคยแสดงความจริงใจในการแก้ปัญหา และหากมีความจริงใจในการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตั้งแต่ก่อนหน้า คงไม่เกิดปัญหามาถึงขณะนี้ โดยการยกเลิกมาตรา 272 ในการให้อำนาจส.ว. โหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ส่วนกรณีที่ขณะนี้มีม็อบต่างขั้วการเมืองออกมาเคลื่อนไหว มองว่าม็อบชนม็อบ อันตรายและน่ากังวลทั้งคู่ โดยเฉพาะการยุยงปลุกปั่น ไม่เป็นไปตามหลักระบอบประชาธิปไตย ซึ่งการชุมนุมเป็นไปอย่างสันติ ควรได้รับการคุ้มครอง และเมื่อเกิดม็อบอีกฝ่าย ต้องค่อยๆ ดูว่าการปฏิบัติของรัฐบาลจะสองมาตรฐานหรือไม่ หากห้ามชุมนุมเคลื่อนไหว ก็ควรห้ามม็อบทั้ง 2 ฝ่าย และทางที่ดีที่สุดควรยกเลิกพร.ก.ฉุกเฉินฯ
ในฐานะเป็นคนรุ่นใหม่ เห็นว่า สิ่งที่ผู้ชุมนุมคนรุ่นใหม่ออกมาเคลื่อนไหว เพราะต้องการอนาคตที่ดีขึ้น ภายหลังมองไม่เห็นว่าอนาคตจะเดินไปอย่างไร โดยอย่างแรกคนรุ่นใหม่มองว่า ความเป็นประชาธิปไตยอาจเริ่มถดถอยลง มีรัฐธรรมนูญที่เปิดทางให้ส.ว. สามารถโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี และเมื่อมีการเลือกตั้งส.ส. ได้เลือกพรรคการเมืองเข้ามา กลับถูกโดนยุบพรรค จนทำให้หมดความหวังกับการเมืองไทย
ส่วนในแง่ของมิติทางเศรษฐกิจ ก่อนการแพร่ระบาดของโควิด คนรุ่นใหม่ก็มองไม่เห็นอนาคต แม้จีดีพีขยับสูงขึ้น แต่ความเหลื่อมล้ำกลับมีเพิ่มมากขึ้น โดยทุนผูกขาดได้ครอบคลุมตลาดที่ไม่เป็นธรรม และโอกาสในการทำงานดูหมดหวัง ทำให้ไม่เห็นอนาคตที่ดี จึงออกมาเคลื่อนไหวชุมนุมในที่สุด.
👇 อ่านบทความต้นฉบับ 👇
โฆษณา