22 ต.ค. 2020 เวลา 06:56 • ข่าว
การเสียชีวิตของอาสาสมัครผู้ฉีดวัคซีน
โควิด-19 ของบริษัทแอสตร้า อาจกระทบ
ประเทศไทย
1
1) มีรายงานว่า อาสาสมัครชาวบราซิล เป็นผู้ชายอายุ 28 ปี จากเมืองริโอ เดอจาไนโร
ที่เข้าร่วมโครงการทดลองวิจัยฉีดวัคซีน
โควิด-19 ได้เสียชีวิตแล้ว
2) วัคซีนดังกล่าวเป็นของบริษัท AstraZeneca ร่วมกับ University of Oxford เป็นการทดลองในเฟสที่สาม ซึ่งเป็นเฟสสุดท้าย หลังจากที่ผ่านการทดลองเฟสหนึ่งเพื่อดูความปลอดภัยมาแล้ว
2
3) การวิจัยทดลองดังกล่าว เป็นการวิจัยที่มีมาตรฐานสูง โดยแบ่งออกเป็นสองกลุ่มเพื่อทำการเปรียบเทียบกัน ระหว่างกลุ่มที่ฉีดวัคซีนโควิด-19 จริง และกลุ่มควบคุมซึ่งไม่ได้ฉีดวัคซีนโควิด-19 (Randomized Double Blind Placebo-Controlled Trial)
1
4) กลุ่มควบคุมหรือได้ยาหลอก(Placebo) คือกลุ่มที่ฉีดวัคซีนป้องกันเยื่อหุ้มสมองอักเสบ ซึ่งเป็นวัคซีนที่ปลอดภัยและฉีดใช้กันทั่วโลกมานานหลายปีแล้ว
1
5) ประเด็นสำคัญที่สุดคือ ขณะนี้ไม่มีผู้ใดทราบ(Double Blind) ว่าผู้ที่เสียชีวิตนั้นอยู่ในกลุ่มที่ฉีดวัคซีนโควิด-19 หรือเป็นกลุ่มควบคุมที่ไม่ได้ฉีดวัคซีนโควิด-19(Placebo-Controlled)เพราะเป็นความลับทางการวิจัย เพื่อไม่ให้นักวิจัยและอาสาสมัครเกิดอคติในการแปลผลอาการข้างเคียงต่างๆของวัคซีน
1
6) แต่คณะกรรมการตรวจสอบอิสระ ซึ่งจะเข้าไปสอบสวนดู จะสามารถเปิดรหัสความลับนี้ได้ และจะทราบข้อมูลว่าผู้เสียชีวิตได้รับการฉีดวัคซีนโควิด-19 หรือไม่
7) ถ้าพบว่าผู้เสียชีวิตอยู่ในกลุ่มควบคุมที่ไม่ได้รับการฉีดวัคซีนโควิด-19 ก็จะไม่กระทบกับการวิจัยวัคซีนโควิด และสามารถเดินหน้าการทดลองวิจัยต่อไปได้
แต่ถ้าผู้เสียชีวิตอยู่ในกลุ่มที่ได้รับวัคซีนโควิดจริง ก็จะต้องมาไล่ดูกันต่อไปว่า การเสียชีวิตนั้นมีเหตุมาจากวัคซีน หรือมาจากเหตุอื่น
สรุป : จึงต้องรอข้อมูลเพิ่มเติมว่า อาสาสมัครที่เสียชีวิตได้รับวัคซีนโควิด-19 หรือไม่
และเหตุการณ์เสียชีวิตนั้น เสียชีวิตจากวัคซีนโควิด-19 หรือจากเหตุอื่น
2
ในกรณีการศึกษาวิจัยวัคซีนของบริษัท AstraZeneca นี้ ก็เคยเป็นข่าวโด่งดัง จนต้องหยุดการทดลองไปช่วงหนึ่ง เมื่อมีอาสาสมัครในประเทศอังกฤษเกิดไขสันหลังอักเสบ(Transverse Myelitis) แล้วเป็นอัมพาต
แต่หลังจากที่คณะกรรมการตรวจสอบอิสระได้ทำการสอบสวนอย่างละเอียดรอบคอบแล้ว พบว่าไขสันหลังอักเสบนั้นเป็นกรณีที่เกิดขึ้นโดยไม่เกี่ยวข้องกับวัคซีนโควิด-19
ทำให้มีการเดินหน้าทดลองวัคซีนต่อไปได้ (โดยมีตัวเลขว่าในประเทศอังกฤษมีผู้ที่เป็นโรคไขสันหลังอักเสบเฉลี่ยปีละ 2-300 คน)
เรื่องนี้จึงเป็นเรื่องที่ต้อง “ฟังหูไว้หู” และจะต้องติดตามรายละเอียดกันต่อไป
รายละเอียดเพิ่มเติมเพื่อความเข้าใจ
Anvisa เจ้าหน้าที่สาธารณสุขของบราซิลได้แถลงที่เมืองเซาเปาโล ประเทศบราซิลว่า อาสาสมัครซึ่งอยู่ในโครงการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ของบริษัทAstraZeneca ได้เสียชีวิตลงโดยไม่ทราบสาเหตุ
ในเบื้องต้นมหาวิทยาลัย Oxford ยืนยันว่าจะทดลองต่อไปเพราะยังไม่มีหลักฐานชัดเจนที่จะบอกว่าวัคซีนมีปัญหาเรื่องความปลอดภัยแต่อย่างใด
ส่วนบริษัท AstraZeneca ยังไม่ได้ให้ความเห็นต่อเรื่องนี้
University of Sao Paulo ที่ร่วมวิจัยแจ้งว่า
คณะกรรมการตรวจสอบอิสระแนะนำให้เดินหน้าต่อไปก่อน ทุกอย่างดูเหมือนจะปลอดภัยดี
การทดลองในเฟสสาม มีอาสาสมัครหลายหมื่นคนทั่วโลก เฉพาะในบราซิลได้มีผู้เข้าร่วมทดลองแล้ว 8000 คนจากเป้าหมาย 10,000 คน โดยฉีดเข็มแรกไปหมดแล้วทั้ง 8000 คนในหกเมือง บางคนได้รับเข็มสองแล้วด้วย
1
ประธานาธิบดีบราซิลเพิ่งแถลงเมื่อไม่นานมานี้ว่า จะไม่ซื้อและใช้วัคซีนของประเทศจีน แปลว่ากำลังรอความหวังการทดลองของวัคซีนบริษัทแอสตร้าอยู่ คราวนี้คงจะมีประเด็นมากทีเดียว
ข่าวนี้ทำให้หุ้น AstraZeneca ตกไปถึง 1.8%
วัคซีนของบริษัท AstraZeneca ที่ร่วมมือกับมหาวิทยาลัย Oxford เป็นวัคซีนที่เป็นความหวังของชาวโลก เป็นความหวังของประเทศยากจนกำลังพัฒนา
เพราะเป็นหนึ่งในไม่กี่บริษัทที่ประกาศว่า จะวิจัยทดลอง และจำหน่ายวัคซีนนี้โดยไม่หวังผลกำไร เน้นเรื่องมนุษยธรรม
ซึ่งประเทศไทยก็ได้ทำการประสานกับบริษัทและมหาวิทยาลัย Oxford ไว้แล้ว ในกรณีที่วัคซีนสำเร็จ เราจะสามารถนำมาผลิตในประเทศไทยได้อย่างรวดเร็วทันใจ สามารถฉีดให้กับทุกคนได้
จึงต้องช่วยกันลุ้นความคืบหน้าของข่าวเรื่องนี้ต่อไปครับ ขอให้เป็นข่าวดีสำหรับบริษัท
ซึ่งจะเป็นข่าวดีของคนไทยด้วย
แต่คิดว่าในช่วงนี้ สุดท้ายคงต้องชะลอหรือพักการวิจัยวัคซีนตัวนี้ไปก่อน เมื่อคณะกรรมการอิสระตรวจสอบเรียบร้อยแล้ว จึงจะสามารถประกาศให้เดินหน้าทดลองวิจัยต่อไป หรือสั่งให้ยุติการทดลองวิจัยครับ
1
Reference
โฆษณา