26 ต.ค. 2020 เวลา 02:40 • ธุรกิจ
แฟนต้า น้ำอัดลม ที่เกิดขึ้นเพราะสงคราม
รู้ไหมว่า แฟนต้า น้ำอัดลมหลากสีสันที่เรารู้จักกัน
เกิดขึ้นมาในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2
และรู้ไหมว่า ความเป็นมาของน้ำอัดลมแบรนด์นี้
มีความเกี่ยวข้องกับน้ำอัดลมแบรนด์ดัง โคคา-โคล่า
เรื่องนี้น่าสนใจอย่างไร?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
จุดเริ่มต้นของเรื่องนี้ ต้องย้อนกลับไปในช่วงปี ค.ศ. 1939-1945
ช่วงนั้น คือทศวรรษแห่งสงครามโลกครั้งที่ 2
ซึ่งเป็นการสู้รบกันระหว่างฝ่ายสัมพันธมิตรซึ่ง อังกฤษ สหรัฐอเมริกา สหภาพโซเวียต เป็นแกนนำ
กับฝ่ายอักษะซึ่งมี เยอรมนี อิตาลี ญี่ปุ่น เป็นแกนนำ
แม้ประเทศที่เป็นแกนนำจากทั้งสองฝ่าย
คือสหรัฐอเมริกา และ เยอรมนี จะมีอุดมการณ์แตกต่างกัน
แต่สิ่งหนึ่งที่คนทั้งสองประเทศชอบเหมือนกันคือ “โคคา-โคล่า”
โคคา-โคล่า เป็นเครื่องดื่มอัดลมกลิ่นโคล่าที่ถูกก่อตั้งขึ้นในปี 1892 ในเมืองแอตแลนตา รัฐจอร์เจีย สหรัฐอเมริกา ก่อนที่จะเริ่มเป็นที่นิยมไปทั่วสหรัฐฯ และเริ่มขยายความนิยมไปทั่วโลกในเวลาต่อๆ มา
ก่อนสงครามจะเริ่มขึ้น เยอรมนี คือ ตลาดผู้บริโภค โคคา-โคล่า ที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่ง
ที่น่าสนใจคือ ยอดขายของ โคคา-โคล่า ในเยอรมนีเพิ่มขึ้นจาก 1 แสนลัง ในปี 1933 เป็น 4 ล้านลัง ในปี 1939 หรือเติบโต 40 เท่า ในระยะเวลาเพียง 6 ปี เท่านั้น
Cr. FirstVersions
แต่แล้วเมื่อสงครามโลกครั้งที่ 2 เกิดขึ้น
ทั้ง 2 ฝ่าย ไม่เพียงแต่ใช้กำลังทหารในการทำสงครามเท่านั้น
แต่ยังรวมถึงการทำสงครามทางการค้า ด้วยการสั่งห้ามค้าขายหรือส่งสินค้าออกไปยังประเทศที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกับประเทศตนเอง
สงครามโลก ทำให้สหรัฐอเมริกาสั่งห้ามส่งออกสินค้าไปยังเยอรมนี ซึ่งรวมถึงวัตถุดิบสำหรับผลิต โคคา-โคล่า
2
จนทำให้ตัวแทนจำหน่ายโคคา-โคล่า ในเยอรมนี ขาดวัตถุดิบในการผลิต โคคา-โคล่า
พอเรื่องเป็นแบบนี้ คุณแม็กซ์ คีธ เจ้าของบริษัทตัวแทนจำหน่ายโคคา-โคล่า ในเยอรมนี และพนักงานในบริษัทของเขา จึงตัดสินใจคิดค้นน้ำอัดลมแบรนด์ใหม่ ที่จะใช้เฉพาะวัตถุดิบเท่าที่หาได้ในเยอรมนี
น้ำอัดลมที่ว่านี้ มีส่วนผสมคือ กากใยจากแอปเปิล, น้ำที่เหลือจากกระบวนการผลิตชีส
คุณแม็กซ์ คีธ เรียกชื่อน้ำอัดลมนี้ในตอนแรกว่า “แฟนตาเซีย (Phantasie)” ที่ในภาษาเยอรมันแปลว่า จินตนาการ
ก่อนที่จะเปลี่ยนชื่อเป็นชื่อ “แฟนต้า (Fanta)” เพื่อให้เรียกชื่อง่ายขึ้นในเวลาต่อมา
แฟนต้า เริ่มขายครั้งแรกในปี 1940
และทำยอดขายพุ่งขึ้นได้อย่างรวดเร็ว
จนในปี 1943 แฟนต้ามียอดขายถึง 3 ล้านลัง
เรื่องที่น่าสนใจคือ ในช่วงแรก
แฟนต้า ไม่ได้ถูกนำไปดื่มเหมือนทุกวันนี้
แต่มักจะถูกนำไปใช้เพิ่มความหวานให้กับอาหาร
เนื่องจากช่วงสงคราม น้ำตาลจะหายากกว่าช่วงเวลาปกติ
หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 จบลงในปี 1945
คุณแม็กซ์ คีธ ได้ติดต่อกลับไปยังบริษัทแม่ของ โคคา-โคล่า ที่สหรัฐอเมริกาเพื่อขอรับความช่วยเหลือ
ซึ่งทางบริษัทแม่ของโคคา-โคล่า มองว่า เขาพยายามที่จะช่วยเหลือบริษัทและรักษายอดขายเอาไว้ในช่วงที่เกิดสงคราม
จึงทำให้เขาได้รับความไว้วางใจให้ดูแลธุรกิจโคคา-โคล่า ในเยอรมนีและยุโรปต่อไป
ขณะที่น้ำอัดลมแฟนต้า ถูกบริษัทโคคา-โคล่า นำไปทำการตลาดและปรับปรุงรสชาติให้มีมาตรฐานที่ดีขึ้นตั้งแต่ปี 1955
สรุปแล้วก็คือ แม้ตอนนี้ แฟนต้า จะเป็นแบรนด์ในเครือของ โคคา-โคล่า ที่มีต้นกำเนิดในสหรัฐอเมริกา
แต่แฟนต้า กลับมีจุดเริ่มต้นในประเทศเยอรมนี ซึ่งเป็นประเทศคู่อริสงครามของประเทศต้นกำเนิด โคคา-โคล่า อย่างสหรัฐอเมริกา นั่นเอง..
Cr. Siqik
แล้วผลประกอบการของ โคคา-โคล่า ในปัจจุบันเป็นอย่างไร?
ปี 2018 รายได้ 994,000 ล้านบาท กำไร 200,700 ล้านบาท
ปี 2019 รายได้ 1,200,000 ล้านบาท กำไร 278,300 ล้านบาท
ส่วนในประเทศไทย แฟนต้า ถูกผลิตและจัดจำหน่าย ภายใต้ 2 บริษัท ที่ได้รับสิทธิ์ในการผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องดื่มของ โคคา-โคล่า คือ ไทยน้ำทิพย์ และหาดทิพย์
โดยไทยน้ำทิพย์ รับผิดชอบพื้นที่ขายใน 63 จังหวัดทั่วประเทศ
ส่วน หาดทิพย์ รับผิดชอบพื้นที่ขายใน 14 จังหวัดในภาคใต้
รายได้และกำไรของบริษัท ไทยน้ำทิพย์ จำกัด
ปี 2561 รายได้ 7,064 ล้านบาท กำไร 3,536 ล้านบาท
ปี 2562 รายได้ 4,166 ล้านบาท กำไร 550 ล้านบาท
รายได้และกำไรของบริษัท หาดทิพย์ จำกัด (มหาชน)
ปี 2561 รายได้ 5,723 ล้านบาท กำไร 249 ล้านบาท
ปี 2562 รายได้ 6,792 ล้านบาท กำไร 441 ล้านบาท
ปิดท้ายด้วยข้อมูลที่น่าสนใจ
แม้ว่าทั้งไทยน้ำทิพย์และหาดทิพย์ จะอยู่ภายใต้กลุ่มธุรกิจโคคา-โคล่า ในประเทศไทย และขายสินค้าเหมือนกัน
แต่ทั้ง 2 บริษัท มีความเป็นอิสระจากกัน และมีผู้ถือหุ้น คณะกรรมการ และผู้บริหารคนละชุด..
โฆษณา