ความจริง.. กับ.. ความจริงปรุงแต่ง
ความจริง.. มีสิ่งเดียว
ประวัติศาสตร์.. เป็นเรื่องจริงที่ถูกบันทึกไว้ตามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง
ความจริงที่ปรุงแต่ง.. อาจเป็นเรื่องจริงหรือไม่จริงย่อมได้เสมอ
การเจาะลึกประวัติศาสตร์.. เป็นเรื่องวิเคราะห์ตามหลักฐานที่ปรากฏพร้อมความคิดเห็นของผู้เขียนหรือเรียบเรียง.. อาจถูกหรือไม่ถูก.. ย่อมได้เสมอ
Lungpungkathi
ประวัติศาสตร์เป็นเรื่องราวจริงที่ถูกบันทึกแน่นอน
ยกตัวอย่างสักหนึ่งตัวอย่างพอเช่น
ประวัติศาสตร์การเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่2
อยู่ในรัชสมัยของพระเจ้าเอกทัศน์.. ราชวงศ์บ้านพลูหลวง
ในปีพศ.2310.. โดย.. กองทัพพม่า
มีเผาทำลายล้าง.. ปล้นทรัพย์เผาพระลอกทอง
กอบกู้ชาติโดย พระเจ้าตากสินมหาราชร่วมรวมผู้คนขับไล่พม่า
สิ้นสุดยุคเมืองหลวงอยุธยา.. เริ่มต้นยุคเมืองหลวงใหม่คือกรุงธนบุรี
เหล่านี้คือประวัติศาสตร์ชาติไทยที่เกิดขึ้นจริง
ส่วนรายละเอียดการเจาะลึกประวัติศาสตร์ในยุคนี้ก็จะแตกต่างกันไป.. อยู่ที่.. ใครเป็นคนวิเคราะห์จากข้อมูลหลักฐานสิ่งใด
แม้ข้อมูลหลักฐานสิ่งเดียวกัน.. ก็อาจตีความวิเคราะห์ไปคนละอย่างที่แตกต่างกันได้.. จนบิดเบี้ยวหรือเปล่า.. อย่างเช่น
จากซากปรักหักปรังของวัดและพระพุทธรูปต่างๆ
คนไทยที่ตีความว่ากองทัพพม่าเผาและปล้นสะดม.. ขูดทองที่เคลือบองค์พระไป
ส่วนฝั่งพม่ากล่าวว่าไม่ได้ทำ.. แต่เป็นฝีมือของชาวจีนที่อยู่ในไทยต่างหากที่ทำ
ถ้าไม่เคยไปพม่า.. ไม่เคยได้พูดคุยกับไกด์ทัวร์ที่เป็นชาวพม่า.. ก็ไม่รู้นะว่าการถ่ายทอดประวัติศาสตร์ของพม่าสมัยที่ยกทัพมาตีไทยในยุคนั้นเป็นเช่นนี้
คราวนี้ล่ะ.. อยู่ที่ตัวเราจะเชื่ออย่างไร.. ว่าจริงหรือไม่จริง
การอ่านเยอะ.. แต่ไม่ทำความเข้าใจและใช้ปัญญาไตร่ตรองด้วยก็คงเปล่าประโยชน์.. เสียดายเวลาของชีวิต.. เพราะคิดว่าตัวเองทรงความรู้.. แต่โทษนะ.. โคตรอับปัญญาเลยครับ
ในกรณีนี้ต่อให้ค้นคว้าต่อไป.. ก็คงหาข้อยุติยากมาก.. ดังกรณีข้อพิพาทเขตแดนของประเทศต่างๆที่มีกันอยู่หลายภูมิภาคในโลก
ลุงก็ต้องกลับมาคิดเช่นกัน.. แต่ต้องบอกนะว่าเป็นลุงคิดแล้วลุงวิเคราะห์เอาเองว่าน่าจะเป็นแบบที่คิด
คือกรณีการเผาวัดลอกทองพระน่ะ.. ลุงคิดว่าทั้งคนไทยและคนพม่าต่างนับถือศาสนาพุทธอย่างมั่นคง.. และศรัทธาในพระพุทธรูปที่เป็นดั่งองค์แทนพระสัมมาสัมพุทธเจ้า.. คงไม่น่าจะกล้าลงมือทำตามตำนานของพม่าเป็นแน่แท้.. ดังนั้นใครจะเป็นคนทำล่ะ
ในช่วงภาวะที่วุ่นวาย.. ต้องเอาตัวรอดกัน.. คนที่กล้าลงมือเผาวัดลอกทองพระ.. ต้องไม่ใช่คนนับถือศาสนาพุทธเป็นหลักแน่.. ดังนั้นอาจจะเป็นฝีมือชาวจีนที่มาตั้งรกรากในไทยสมัยนั้นหรืออาจเป็นแขก.. ฝรั่งที่เข้ามาค้าขายในไทยก็ได้.. แต่ขอย้ำนี่คือที่ลุงคิดและวิเคาระห์เอง.. มันอาจจะจริงหรือไม่จริงก็ได้.. ดังนั้นจึงไม่ใช่ข้อมูลที่จะนำมาเชื่อได้.. เพราะเกิดจากการวิเคาระห์ประวัติศาสตร์ของคนๆหนึ่งจากข้อมูลหลักฐานด้านหนึ่งที่เขามี
ดังนั้นเรื่องราวในอดีตหรือเรื่องปัจจุบันใดๆ.. ไม่ว่าจะผ่านสื่อสิ่งใด.. เช่นหนังสือ.. งานเขียน.. บทความ..ข่าวผ่านสื่อหลัก..หรือ..สื่อโซเชียลต่างๆ..หากแค่เล่าเรื่องราวว่าเกิดอะไรขึ้น..นั่นคือความจริง..ที่น่าเชื่อถือ..แต่ถ้าเริ่มใส่อารมณ์ความรู้สึก.. วิธีคิด.. อันนั้นไม่ใช่ความจริงล้วนๆ.. แต่เป็นความจริงปรุงแต่ง
ในปัจจุบันมีหนังสือ.. ข้อเขียน..บทความมากมาย.. กระทั่งสื่อต่างๆที่บิดเบี้ยวตีความกันจนมีฉายากันว่า.. สื่อเลือกข้าง.. เพื่อปลุกกระแสความเชื่อให้ผู้คนเชื่อในแบบที่ตนเชื่อ
แล้วเราๆท่านๆที่บอกว่าตนเองฉลาด.. รู้ลึก.. รู้จริง.. เพราะอ่านเยอะ.. ฟังแยะ.. ต่างๆเหล่านี้.. เป็นเรื่องจริง.. จริงๆหรือ
ปัญญามีมาติดตัวกันทุกคน.. หมั่นใช้ให้มาก.. จะเกิดประโยชน์ต่อตนเองและสังคมส่วนรวมได้..เพราะจะไม่ถูกชักจูง..ให้เป็นทาสความคิดใครง่ายๆ..ฟังแต่ความจริงที่เกิดเท่านั้นพอ..แล้วใช้ปัญญาชั้นเลิศของตนคิด.. แค่นี้.. จึงจะเรียกว่า
เป็นไท.. ใช่เป็นทาส
วันนี้.. พอแค่นี้.. เพื่อมาบอกผู้ทรงภูมิทั้งหลายว่า
เรื่องที่ท่านรู้.. เป็นเรื่องจริง.. จริงๆหรือ.. 🕺Bye
- 3
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
