25 ต.ค. 2020 เวลา 09:02 • การศึกษา
ทำไมถึงชอบภาษาอังกฤษ?
How to เรียนภาษาอังกฤษด้วยตัวเอง
How to เรียนภาษาอังกฤษด้วยตัวเอง
หลายคนคงมีความชอบในศาสตร์ต่างๆ ที่แตกต่างกัน
Way ของการเรียนภาษาอังกฤษ ก็เป็น เส้นทางหนึ่งที่เราชอบเช่นกัน
หากย้อนกลับไปในวัยเด็ก ถามถึงเส้นทางการเรียนภาษาอังกฤษนั่นเป็นไปอย่างไร
หลายคนคงมีวิธีเรียนและศึกษาหาความรู้ที่แตกต่างกัน
ปัจจัยสำคัญในการเรียนภาษาอังกฤษคือพลังใจ และความชอบของตัวเอง
หากเราชอบอะไรแล้ว อุปสรรคไม่ใช่ปัญหาในการเรียน
มาพูดถึงโอกาสในการเรียนภาษาอังกฤษของแต่ละคน
ซึ่งบางคนมีทุนทรัพย์ในการเรียนภาษาอังกฤษที่แตกต่างกัน
แต่สิ่งเหล่านี้ไม่ได้ เป็นปัจจัยหลักที่จะมาขัดขวางความชอบภาษาอังกฤษของเราได้
ถ้าเทียบกับบางคนที่มีเงินหน่อย คงได้รับโอกาสเข้าศึกษาในโรงเรียนอินเตอร์
หรือไม่ก็ต่างประเทศ ซึ่งระดับอย่างเราคงเอื้อมไม่ถึงอยู่แล้ว
บางคน ขยับเข้ามาหน่อย ก็เรียน EP หรือ MEP ในโรงเรียนสองภาษา
หรือที่เขาเรียกว่า Bilingual School
หรือว่าอาจจะเรียน EP MEP ในโรงเรียนธรรมดา
และสุดท้ายคงหนีไม่พ้นเรียนในโรงเรียนไทยธรรมดา
เอ๊ะ! มีอีกเส้นทางหนึ่งที่ไม่ได้ลงทุนอะไรเลย คือเรียนด้วยตัวเอง
ตามสื่อต่างๆ ออนไลน์ที่มีมาก ทั้งคอร์สฟรี หรือคอร์สเสียเงิน
ที่อยากเรียนกับใครก็เรียนได้ ทั้งไทยและเทศ
มาเล่าถึงช่วงวัยเด็ก สมัยประถม เราเริ่มได้เรียนภาษา หรือคัดตัวอักษร ABC
ช่วง ป.4 ขยับขี้นไปหน่อย ก็เป็นประโยคสนทนาในชีวิตประจำวัน
ที่เรียนเรื่องเดิมซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนถึงถึง ป.6
ในความคิดสมัยนั้นคือ ต้องเก่งภาษา
อยากเรียนพิเศษเหมือนเพื่อนก็คงไม่มีเงิน
สิ่งที่ดีที่สุด คือ เรียนรู้ด้วยตัวเอง
ได้โอกาส ก็แอบเอาหนังสือที่โรงเรียนมาฝึกเขียนเอง อ่านเอง
เริ่มต้นที่ตัวเขียนในภาษาอังกฤษ เอามานั่งคัดเองที่บ้าน จนชำนาญ
แต่เวลาผ่านไป การเรียนรู้แบบฉบับการศึกษาไทย
ที่เรียนแบบไม่ได้เอามาใช้จริง จนจบ ม.6 ก็ยังไม่สามารถสื่อสารกับชาวต่างชาติได้เลย
ไม่ได้โทษว่าครูบาอาจารย์สอนไม่ดี ทุกท่านเก่งมาก แต่ในแบบฉบับการเรียน
ที่มัวแต่ศึกษา เรื่องแกรมม่า ยังไง ก็พูดเป็นยาก
สมัยจะเข้าศึกษาต่อมหาวิทยาลัย เราเองก็เกือบเลือกเรียน ภาษาอังกฤษไปแล้ว
เพราะพื้นเดิมมีความชอบภาษาอังกฤษ อยู่แล้ว
แต่ด้วยความที่ถนัดคอมพิวเตอร์ ในสาย คอมพิวเตอร์อาร์ต
ก็คงต้องไปสายนี้ดีกว่า เพียงแค่คิดประม่าในตัวเอง
เพราะกลัวว่าเรียนจบ มหาวิทยาลัย อีก 4-5 ปีก็คงไม่เป็น พูดไม่ได้แน่
เมื่อเปรียบเทียบ ตอนอนุบาลจนถึง ม.6 ก็ยังพูดไม่ได้เลย
สุดท้ายก็เลือกเรียน ครุศาสตรคอมพิวเตอรศึกษา
แต่กระนั่นเราก็ไม่ลืมที่จะยังคงศึกษาภาษาอังกฤษด้วยตัวเองมาตลอด
แต่ก็ยังพูดไม่ได้ เพราะยังไม่เคยใช้ในสถานการณ์จริง
มีช่วงโอกาสดี ที่ได้ทำงานพิเศษ เป็นพนักงานบาริสต้า
ที่มีแต่ลูกค้า ชาวต่างชาติ มาใช้บริการ เราเองก็กลัวมาก
ที่จะทำหน้าที่ตรงนี้ไม่ได้ ช่วงนั้น เป็นช่วง เรียนมหาวิทยาลัย ปี 2
ทำงานพิเศษช่วงปิดเทอม พอเราอยู่ในสถานการณ์บีบบังคับ
ว่าต้องใช้ภาษา ผ่านไปแค่ 1 เดือน เราก็กล้าพูดภาษาอังกฤษเลย
เมื่อระยะเวลาผ่านไป ช่วงหนึ่งถึงได้เข้าใจว่า จริงๆ
เราเองก็มีคลังคำศัพท์ที่สามารถนำมาสร้างประโยคในการสื่อสารได้
อาจจะเป็นคำที่ไม่ได้เริ่ดหรู แต่ก็กล้าพูดได้
มันก็ก้าวข้ามความกลัวไปได้ ระดับหนึ่งเลยแหละ
เราเลยใช้โอกาส ช่วงเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับภาษาอังกฤษ
ของเรา ในการต่อสู้กับมันอีกครั้ง โดยการเปลี่ยนบริบททุกอย่าง
ให้เป็นภาษาอังกฤษ หมดเลย
ไม่ว่าจะเปลี่ยนจากการฟังเพลงไทย มาฟังเพลงภาษาอังกฤษ
จริงๆ ช่วงนั้นคือฝืนฟังมาก ต้องใช้คำว่า ฝืนฟังเพราะมันไม่อิน
ไม่รู้จักเลยสักเพลง โอ้ยอะไรมันจะยากขนาดนี้
พอนานๆ เราก็เริ่มเปลี่ยนจากการฟังเพลงหลายเพลง
มาฟังทีละเพลง อ่านความหมายบนเว็บไซต์ฟรี
ที่มีบรรดา นักแปลเก่งๆ มาแปลให้ และฝึกร้องตาม
จนจำเนื้อเพลงได้ และค่อยๆขยับ จาก 1 เพลงไป 2 เพลง
ไป 3 เพลง เรื่อยๆ จน ในที่สุด ก็สามารถร้องเพลงภาษาอังกฤษได้หลายเพลง
และอินไปกับมัน ประโยชน์ของการฟังเพลง คือ ได้สำเนียง
เพราะเราจะเลียนแบบการออกเสียงจากต้นฉบับ
เพื่อให้ร้องเพลงได้ เหมือนต้นฉบับไม่มากก็น้อย
ขยับมาอีกขั้น ก็ใช้วิธีการเรียน บนเว็บไซต์ฟรีต่าง ๆ
บนอินเทอร์เน็ตตามบริบทในชีวิตประจำวันที่เราสามารถเรียนเองได้
บางครั้งยังเคยจัดตารางเรียนภาษาอังกฤษ ในช่วงวัย ปี3 ก็มี
พอผ่านช่วงเวลาไประยะหนึ่ง การเรียนภาษาอังกฤษมันเป็นเรื่องของ
การสะสมแต้มบุญ มีคำศัพท์มาก ก็สื่อสารได้มาก
เราจึงเริ่ม ที่จะอ่านนิยายภาษาอังกฤษ ตาม Level ต่างๆ
ซึ่งจะมีขาย ตามร้านขายหนังสือ หรือแม้แต่แบบฟรีบนอินเทอร์เน็ต
จนถึงทุกวันนี้ ก็พยายามเปลี่ยนบริบทต่างๆ
ในชีวิตประจำวันให้เป็นภาษาอังกฤษ ไม่ว่าจะเป็น
ตอนขับรถ อยู่บ้าน ก็จะฟังบทสนทนา นิยาย หนัง เพลง
เป็นภาษาอังกฤษ ที่ตาม Youtube มีเยอะมาก
ละลานตาไปหมด
และนี้จะเป็น Way ในการเรียนภาษาอังกฤษที่เราอยากจะแบ่งปัน
รวมเว็บฝึกภาษาอังกฤษแบบสำเนียงอเมริกัน
1. Rachel’s English
2.Speak English with Vanessa
3.linguamarina
4.AccurateEnglish
และสุดท้ายที่อยากแนะนำ คงหนีไม่พ้นเว็บเรียนภาษาอย่าง EngVid ที่มีเนื้อหาเรียน
และครูสอนหลายหลายคน สามารถเลือกเรียนตามระดับการเรียนของตนเองได้
5.English Learning With Englishclass101.com
และสุดท้ายคงหนีไม่พ้นเว็บ Engvid ที่มีเนื้อหาให้เรียนเยอะมาก บวกทั้งความหลายหลาย
ของระดับให้เลือกที่สามารถเรียนรู้ได้ด้วยตัวเอง คลิปสอนของ EngVid ไม่ยาว ที่ผู้เรียนจะมีความรู้สึก ไม่เบื่อเวลาเราเข้าไปเรียน คลิปต่างๆ ในเว็บนี้ อีกทั้งมีข้อสอบให้ลองทบทวนความจำด้วย
ส่วนนี้ก็คงเป็นเว็บไซต์รวมการเรียนภาษาอังกฤษจากเว็บเจ้าของภาษา
ที่สามารถเรียนรู้เองได้ มากมายที่มีผู้ใจดีรวบรวมไว้ให้
และอีกหลากหลายช่องทางให้เลือกเรียน แต่จะให้เขียนใน บทความทีเดียวคงไม่หมด
เอาเป็นว่า การเรียนรู้ย่อมเป็นไปอย่างช้าๆ แต่ผลของมันจะจดงามเสมอ
ฝึกวันละนิด เดี๋ยวก็เก่ง เอง
————— เพราะชีวิตมีเรื่องเล่า—————✍️
โฆษณา