28 ต.ค. 2020 เวลา 04:11 • หุ้น & เศรษฐกิจ
[ BREAKING !!! ] Dow Jones ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดร่วงหนักต่อเนื่องติดต่อกันเป็นวันที่ 3 รวมเกือบ 1,000 จุด หลังวิตกแผนกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐฯ รอบใหม่ยังไม่คืบหน้า ก่อนวันเลือกตั้งประธานาธิบดี ขณะที่ ดัชนี Nasdaq ปิดบวก หลังมีแรงซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยียักษ์ใหญ่อย่าง Microsoft, Amazon, Apple และ Facebook ก่อนประกาศผลประกอบการ !!!
Dow Jones ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดร่วงหนักต่อเนื่องติดต่อกันเป็นวันที่ 3 รวมเกือบ 1,000 จุด หลังวิตกแผนกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐฯ รอบใหม่ยังไม่คืบหน้า ก่อนวันเลือกตั้งประธานาธิบดี
ดัชนี Dow Jones ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวลดลง 222.19 จุด ปิดตลาดที่ 27,463.19 จุด หรือ -0.80% นับเป็นการปรับตัวลงเป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน ขณะที่ ดัชนี S&P500 ปรับตัวลดลง 10.29 จุด หรือ -0.30% ปิดตลาดที่ 3,390.68 จุด ส่วนดัชนี Nasdaq ปรับตัวเพิ่มขึ้น 72.41 จุด หรือ +0.64% ปิดที่ 11,431.35 จุด โดยได้รับแรงกดดันจากการที่ เคย์ลีจ์ แมคเอนนานี โฆษกของทำเนียบขาว กล่าวว่า รัฐบาลสหรัฐฯ และพรรคเดโมแครตคงไม่สามารถบรรลุการเจรจาข้อตกลงเกี่ยวกับการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ได้ทันก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในวันที่ 3 พ.ย.นี้ อีกทั้งยังได้กล่าวตำหนิ แนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ที่มีการเรียกร้องมากเกินไป ทำให้โอกาสที่จะสามารถออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจนั้นลดน้อยลง
นอกจากนี้ ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยังคงได้รับแรงกดดันจากปัจจัยลบเกี่ยวกับยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้นในหลายประเทศทั่วโลก โดยเฉพาะในสหรัฐฯ โดยยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 สะสมทั่วโลกขณะนี้อยู่ที่เกือบแตะ 44 ล้านราย และทียอดผู้เสียชีวิตรวมกว่า 1.16 ล้านราย ขณะที่ สหรัฐฯ ยังคงมียอดผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตมากที่สุดในโลก โดยมียอดผู้ติดเชื้อรวมเกือบ 9 ล้านราย และมียอดผู้เสียชีวิตกว่า 2.31 แสนราย
โดยราคาหุ้น Caterpillar Inc. บริษัทผลิตเครื่องมือก่อสร้างยักษ์ใหญ่ ร่วงลง 3.15% หลังรายงานตัวเลขผลประกอบการในไตรมาส 3 พบว่า กำไรทรุดตัวลงหนักถึง 54% และยอดขายร่วงลงหนัก 23% หลังได้รับผลกระทบจากอย่างหนักจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ทำให้อุปสงค์ในภาคก่อสร้างและเหมืองแร่ลดลง ขณะที่ ราคาหุ้น Boeing ร่วงลง 3.46% หุ้น 3M ร่วงลง 3.12% และหุ้น GE ร่วงลง 3.92%
ทางด้านหุ้น Pfizer Inc บริษัทยายักษ์ใหญ่ที่สุดของสหรัฐฯ ร่วงลง 1.29% หลังเปิดเผยผลประกอบการในไตรมาส 3 พบว่ามีรายได้อยู่ที่ระดับ 1.213 หมื่นล้านเหรียญฯ ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้เล็กน้อยที่ระดับ 1.231 หมื่นล้านเหรียญฯ หลังการแพร่ระบาดของฝโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อรายได้ของบริษัทราว 500 ล้านเหรียญฯ มีกำไร 72 เซนต์ต่อหุ้น สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 70 เซนต์ต่อหุ้น
ขณะเดียวกัน ทางบริษัท Pfizer ยังเผยว่า บริษัทฯ ไม่มีข้อมูลจากการทดลองวัคซีนต้านโควิด-19 เฟสสุดท้าย ที่กำลังทำการพัฒนาร่วมกับ BioNTech บริษัทยายักษ์ใหญ่ของเยอรมนี และคาดว่าจะยังไม่เปิดเผยผลการทดลองวัคซีนก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในวันที่ 3 พ.ย.นี้ เนื่องจากอาสาสมัครที่เข้าร่วมทดลองจำนวน 44,000 คนนั้น มีจำนวนผู้ที่ติดเชื้อโควิด-19 ไม่มากพอที่จะนำไปสู่การวิเคราะห์ผลการทดลอง
ก่อนหน้านี้ อัลเบิร์ต บอร์ลา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Pfizer กล่าวว่า บริษัทจะสามารถเปิดเผยข้อมูลผลการทดลองวัคซีนต้านโควิด-19 เฟสสุดท้ายได้อย่างเร็วที่สุดในเดือนนี้ แต่การเลือกตั้งในสหรัฐฯ นั้นไม่ใช่เป้าหมายที่แท้จริงของบริษัท วัคซีนนี้ไม่ใช่ของทั้งพรรครีพับลิกันหรือพรรคเดโมแครต แต่เป็นของประชาชนทั่วโลก
ขณะที่ ราคาหุ้น Eli Lilly & Co บริษัทยาชื่อดังอีกรายของสหรัฐฯ ก็ดิ่งลง 6.9% หลังบริษัทเปิดเผยผลประกอบการในไตรมาส 3 ที่แย่กว่าคาด
อย่างไรก็ตาม ดัชนี Nasdaq ปิดปรับตัวขึ้นมาในแดนบวก หลังได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนเข้าซื้อเข้าหนุนหุ้นกลุ่มเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ ก่อนรายงานผลประกอบการ นำโดยราคาหุ้น Microsoft ปรับตัวขึ้น 1.5% หุ้น Amazon.com ปรับตัวขึ้น 2.47% หุ้น Apple Inc ปรับตัวขึ้น 1.35% หุ้น Alphabet ปรับตัวขึ้น 0.9% และหุ้น Facebook ปรับตัวขึ้น 2.23%
ล่าสุด กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ได้เปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ พบว่า ยอดคำสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐฯ ในเดือนก.ย. พุ่งขึ้น 1.9% สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะเพิ่มขึ้น 0.5% โดยผลสำรวจของ Conference Board สถาบันวิจัยเศรษฐกิจ ระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐฯ ในเดือนต.ค. ร่วงลงสู่ระดับ 100.9 จากระดับ 101.3 ในเดือน ก.ย. ที่ผ่านมา ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ระดับ 102.0 หลังวิตกเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจจากผลกระทบของโควิด-19
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ปิดปรับตัวบวกขึ้นมา 2.6% ปิดที่ 39.57 ดอลลาร์/บาร์เรล เมื่อคืนนี้ (27 ต.ค.) หลังบริษัทน้ำมันของสหรัฐฯ ในอ่าวเม็กซิโกระงับการผลิตลงเกือบ 50% เนื่องจากได้รับอิทธิพลของพายุซีต้า ส่วนราคาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ปรับตัวบวกขึ้นมา 1.9% ปิดที่ 41.20 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ขณะที่ นักลงทุนจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐฯ โดยสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) มีกำหนดเปิดเผยข้อมูลในวันนี้ โดยทางด้านนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯ จะเพิ่มขึ้นราว 200,000 บาร์เรล
สำหรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ยังคงระบาดหนักในหลายประเทศ โดยเฉพาะประเทศทางฝั่งยุโรป โดยเมื่อคืนที่ผ่านมา คณะกรรมาธิการยุโรป (European Commission) แถลงการณ์ระบุว่า มีโอกาสน้อยมากที่ปริมาณวัคซีนต้านโควิด-19 จะเพียงพอต่อประชาชนทั้งหมดในสหภาพยุโรปทันสิ้นปีหน้า ซึ่งคาดว่าจะต้องใช้วัคซีนต้านโควิด-19 มากกว่า 1 พันล้านโดส ต่อจำนวนประชากรกว่า 450 ล้านคนจาก 27 ประเทศในกลุ่ม EC ซึ่งในขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจาเพื่อเร่งจัดหาวัคซีนให้เพียงพอต่อความต้องการของผู้คน
ล่าสุด (28 ต.ค.) ตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 ทั่วโลก พุ่งขึ้นเกือบ 44 ล้านราย และมียอดผู้เสียชีวิตกว่า 1.16 ล้านราย โดยตัวเลขผู้ติดเชื้อใหม่รายวัน ยังคงมีแนวโน้มพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องเกือบ 5 แสนรายต่อวัน ขณะที่ ตัวเลขผู้ติดเชื้อในประเทศไทยอยู่ 3,746 ราย และมียอดผู้เสียชีวิตสะสมรวม 59 ราย
Source: https://www.worldometers.info/coronavirus/
📲 เปิดพอร์ตหุ้นไทย/ต่างประเทศ, ออมหุ้น (DCA), กองทุน หรือ TFEX คลิกที่ "Contact Us" ด้านล่างนี้ครับ 👇👇👇
#คลินิกการลงทุน
โฆษณา