28 ต.ค. 2020 เวลา 08:30 • การเมือง
"มองข้ามชอต" คดี 64 ส.ส.ถือหุ้นสื่อ ตัดสิน 28 ต.ค.นี้ ลุ้น ออกได้ทั้งดีและร้าย
- จับตา 28 ต.ค.นี้ ศาลรัฐธรรมนูญ นัดตัดสิน คดีถือหุ้นสื่อ 64 ส.ส.ทั้งฝ่ายค้าน-ฝ่ายรัฐบาล จะส่งผลกระทบต่อสถานการณ์การเมือง จริงหรือ ?
- สมมุติถ้าหวยเกิดออกทางร้ายจริง จะกระทบสถานะรัฐบาลบิ๊กตู่หรือไม่ อย่างไร แล้วต่อจากนั้นจะไปทิศทางไหน
- หากต้องไปเลือกตั้งซ่อมกันขนานใหญ่ เพราะอะไร ถึงมั่นใจว่า ฝ่ายรัฐบาลไม่เสียเปรียบฝ่ายค้าน
วันนี้ (26 ต.ค.) ได้ฤกษ์ สภาเปิดประชุมสมัยวิสามัญแบบเร่งด่วน หารือแก้ปัญหาการชุมนุม ซึ่งทั้งฝ่ายรัฐบาล-ฝ่ายค้าน ก็ยังโจมตีกันไม่หยุด ถามหา ความจริงใจ ที่จะ “ถอยกันคนละก้าว” ได้จริงหรือไม่
งานนี้ ต้องเฝ้าติดตามชนิด "ตาไม่กะพริบ" สุดท้าย "เวทีรัฐสภา" จะช่วยระบายอุณหภูมิความร้อนแรงทางการเมืองในขณะนี้ ให้เย็นลงได้ หรือ จะเหมือนเป็นการ "ราดน้ำมันเข้ากองไฟ" อย่างที่หลายฝ่ายหวั่น เพราะปรากฏข่าวจากพรรค พปชร. ว่า มีการเตรียมเรือ พา ส.ส.ฝ่ายรัฐบาล หนี หากม็อบ "บุกล้อมสภา" เสียอีกด้วย
ขณะสถานการณ์ชุมนุม "คณะราษฎร" เขม็งเกลียวเข้มข้น เข้ามาทุกขณะ หลังระดมพลรุกไล่ฝ่ายรัฐบาลบิ๊กตู่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ทั้งยื่นเงื่อนไข ภายใน 3 วัน ที่ม็อบให้เวลา นายกฯ ต้องทำตามข้อเรียกร้อง คือ "ลาออกทันที" และ "ปล่อยเพื่อนผู้ชุมนุมที่ถูกจับกุม โดยไม่มีเงื่อนไข" ขณะที่กลุ่มม็อบสนับสนุนฝ่ายรัฐบาล "เสื้อเหลือง" ก็เริ่มเคลื่อนไหว ไปทั่วประเทศ เพราะทนไม่ได้กับการหมิ่นสถาบัน จนมีการจับตาว่า จะเกิดกรณีตีกัน "ม็อบชนม็อบ" หรือไม่ สถานการณ์ขณะนี้ จึงเป็นที่น่าระทึกใจเป็นอย่างยิ่ง
ทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์ "มองข้ามชอต" ไปยัง วันพุธที่ 28 ต.ค. กรณีศาล รธน.นัดอ่านคำวินิจฉัย คดี “ถือหุ้นสื่อ” ของ ส.ส. ถึง 64 คน ทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน ที่เหล่ากูรูและนักวิเคราะห์ หลายฝ่ายมองว่า กรณีดังกล่าว น่าจะเป็นจุดที่ทำให้สถานการณ์ทางการเมืองที่สุดร้อนแรงในขณะนี้ อาจต้องเปลี่ยนแปลงไปก็เป็นได้ ในที่นี้เป็นไปได้ ทั้ง "ด้านดี" และ "ด้านร้าย" พอๆ กัน
ปมนี้ เป็นเช่นไร ลองไปฟังทัศนคติจาก นายทศพล เพ็งส้ม ส.ส.นนทบุรีในฐานะหัวหน้าต่อสู้คดีถือหุ้นสื่อ จากพรรคพลังประชารัฐ รับหน้าที่ เป็นทนายความ ให้กับ ส.ส.ฟากฝั่งรัฐบาล ทั้ง 32 คน ว่า 28 ต.ค.วันดีเดย์นี้ จะเป็นเช่นไร ทั้งในด้านการสู้คดีความ รวมถึง สถานการณ์การเมือง ที่ตอนนี้ “ม็อบคณะราษฎร” ทั้งกดดัน ทั้งบีบ และเร่งเร้า "รัฐบาลบิ๊กตู่" อย่างน่าหวาดเสียว ชนิด "หายใจไม่ทั่วท้อง"
:: ยังเชื่อมั่นอยู่ไหม 32 ส.ส.รัฐบาล จะรอดคดีถือหุ้นสื่อ?
นายทศพล กล่าวว่า ดูในหลักการ การทำสื่อวิทยุ หรือสื่อหนังสือพิมพ์ มันต้องมีการไปขอใบอนุญาต มันต้องมีใบอนุญาตนะ แต่ปรากฏว่า ส.ส.ทั้งหมด 32 คน ที่โดนคดี ไม่มีใครมีการขอใบอนุญาต ซึ่งไม่เหมือนกรณีของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ มันก็ต่างกันตรงนี้ แล้วส่วนใหญ่ที่มีการเห็นในการพิพากษาที่ผ่านมา อย่างคดี "ภูเบศร์ เห็นหลอด" ก็มีการขอใบอนุญาตนะ แต่ทางเราไม่มีการขอใบอนุญาตเลย แต่ในส่วนของ ส.ส.ฝ่ายค้าน ไม่ทราบว่า มีการขอใบอนุญาต หรือไม่ ส.ส.ฝ่ายรัฐบาล 32 คน และฝ่ายค้าน 32 คน รวมเป็น 64 คน ฉะนั้นส่วนตัว ก็ยังหวังว่า วันที่ 28 ต.ค.นี้ จะไม่โดน
:: แล้วสมมติหากเกิดเหตุที่เกินคาดหมายล่ะ?
สำหรับคำถามนี้ นายทศพล กล่าวว่า ความจริง จำนวน ส.ส.ของฝ่ายรัฐบาล กับฝ่ายค้าน ที่โดนคดีถือหุ้นสื่อ มีเท่ากัน หากสมมติโดนตัดสินว่า มีความผิดจริงขึ้นมา ก็ไม่มีใคร ได้เปรียบหรือเสียเปรียบ อะไรทั้งสิ้น แล้วอีกอย่าง ยังมี ส.ส.ของ "พรรคก้าวไกล" ในตอนนี้ ก็โดนด้วยอีกกลุ่มหนึ่ง ซึ่งศาล รธน.ยังไม่ได้ตัดสินนะ ฉะนั้น ประเด็นนี้ ส่วนตัวจึงเห็นว่า ไม่น่าส่งผลต่อเสถียรภาพของรัฐบาล เท่าไร เพราะถ้าหากถูกตัดสินว่า มีความผิดจริง ในวันที่ 28 ต.ค. ก็ต้องไปเลือกตั้งใหม่ ฝ่ายรัฐบาล ส.ส.หาย 32 คน ฝ่ายค้าน ก็หายไป 32 คน เหมือนกัน เสมอกัน แล้วอีกอย่าง ส.ส.ฝ่ายค้าน มีบางคนเป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อ ก็จะไปเลือกตั้งใหม่ไม่ได้ โดยเฉพาะในเคส ของ ส.ส.อดีตพรรคอนาคตใหม่ ขณะที่ฝ่ายรัฐบาล มี 2 ราย เหมือนกัน
:: ยังมีช่องทางออก ไปทางอื่น ได้หรือไม่?
หัวหน้าทนายความสู้คดีถือหุ้นสื่อ ยืนยันกับทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์ ว่า ไม่มีช่องทางอื่น หาก 28 ต.ค.นี้ ถูกศาล รธน.วินิจฉัย ว่า มีความผิด ก็ต้องไปเลือกตั้งซ่อมกันใหม่หมด ทำอย่างอื่นไม่ได้
:: ส่วนตัว เชื่อ อาจเป็นผลดีต่อสถานการณ์การเมืองตอนนี้ก็เป็นได้ หาก 64 ส.ส.ต้องไปเลือกตั้งซ่อมใหม่หมด
"ถ้าถามผมนะ ตอนนี้ มีสถานการณ์การชุมนุมของม็อบคณะราษฎร กดดันรัฐบาลอยู่ หากศาลตัดสินว่ามีความผิด ก็อาจเป็นการลดแรงกดดันสถานการณ์การเมืองในขณะนี้ก็ได้ เพราะต้องไปสู้กันในเขตเลือกตั้ง เหมือนไปสู้กันในเขตเลือกตั้งซ่อมใน 32 เขต อะไรแบบนี้ เป็นการช่วยต่อลมหายใจให้รัฐบาลก็เป็นได้ มีช่องระบาย เพราะมวลชนก็ต้องไปช่วยหาเสียง ก็เหมือนมีเข็มเจาะช่วยระบาย ให้หายท้องอืด ไม่งั้นมันไม่มีทางออก" นายทศพล กล่าว...
งานนี้ พรรคการเมืองทุกฝ่าย ทั้งฝ่ายค้าน-ฝ่ายรัฐบาล ก็ต้องรอลุ้นกันด้วยใจระทึก ไม่ว่า ผลการตัดสินของ ศาลรธน.จะเป็นเช่นไร จะเป็นคุณกับพรรคการเมือง หรือจะเป็นโทษ ก็คาดว่า จะส่งผลกระทบต่อสถานการณ์การเมืองที่ร้อนแรงชนิด "ปรอทแทบแตก" จากกรณีม็อบบุกล้อมรัฐบาลประยุทธ์ ในขณะนี้ ไม่มาก ก็น้อย โดยไม่อาจหลีกเลี่ยง
แน่นอน ไม่ว่าจะเป็นด้านดี ยืดลมหายใจรัฐบาลออกไปได้ หรือด้านร้าย "รัฐนาวาบิ๊กตู่พังพาบ" ที่เขาชอบเรียกกันว่า "จอดแบบไม่ต้องแจว" !!!
32 ส.ส. ฝ่ายรัฐบาล
พรรคพลังประชารัฐ 1.ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ 2.นางพิชชารัตน์ เลาหพงศ์ชนะ 3.นายอรรถกร ศิริลัทธยากร 4.นายกษิดิ์เดช ชุติมันต์ 5.นางกุลวลี นพอมรบดี 6.นายชาญวิทย์ วิภูศิริ 7.นายฐานิสร์ เทียนทอง 8.นายฐาปกรณ์ กุลเจริญ 9.น.ส.ตรีนุช เทียนทอง 10.นายทวิรัฐ รัตนเศรษฐ 11.นางบุญยิ่ง นิติกาญจนา 12.นายปฐมพงศ์ สูญจันทร์ 13.นายภิญโญ นิโรจน์ 14.นายวีระกร คำประกอบ 15.พ.ต.ท.ไวพจน์ อาภรณ์รัตน์ 16. นายสมเกียรติ วอนเพียร 17.นายสัมพันธ์ มะซูโซ๊ะ 18.นายสิระ เจนจาคะ 19.นายสุชาติ ชมกลิ่น 20.นายอนุชา น้อยวงศ์ 21 น.ส.ภาดา วรกานนท์
พรรคประชาธิปัตย์ 8 คน ได้แก่ 1.น.ส.จิตภัสร์ กฤดากร 2.นายอัศวิน วิภูศิริ 3.นางกันตวรรณ ตันเถียร กุลจรรยาวิวัฒน์ 4.นายภานุ ศรีบุศยกาญจน์ 5.น.ส.วชิราภรณ์ กาญจนะ 6.นายสมชาติ ประดิษฐพร 7.นายสาคร เกี่ยวข้อง 8.นายสาธิต ปิตุเตชะ
พรรคชาติพัฒนา 1 ราย ได้แก่ นายเทวัญ ลิปตพัลลภ
พรรครวมพลังประชาชาติไทย ได้แก่ ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล, และพรรคประชาภิวัฒน์ ได้แก่ นายสมเกียรติ ศรลัมพ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ
ส่วน ส.ส.ฝ่ายค้าน 32 ราย
เป็น ส.ส.อดีตพรรคอนาคตใหม่ 20 คน
1.พล.ท.พงศกร รอดชมภู 2.นายธัญญ์วาริน สุขะพิสิษฐ์ 3.นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ 4.นายสุรชัย ศรีสารคาม 5.นายชำนาญ จันทร์เรือง 6.นายวินท์ สุธีรชัย 7.นายธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ 8.นายคารม พลพรกลาง 9.นายวาโย อัศวรุ่งเรือง 10. นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล 11.นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล 12.นายวิภพ วิริยะโรจน์ 13.น.ส.เบญจา แสงจันทร์ 14.นายสมเกียรติ ไชยวิสุทธิกุล ซึ่งเป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อทั้งหมด 15.นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.กทม. 16.น.ส.กวินนาถ ตาคีย์ ส.ส.ชลบุรี 17. น.ส.สุทธวรรณ สุบรรณ ณ อยุธยา ส.ส.นครปฐม 18.นายจิรัฎฐ์ ทองสุวรรณ์ ส.ส.ฉะเชิงเทรา 19. นายปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส.พิษณุโลก และ 20.น.ส.วรรณวรี ตะล่อมสิน ส.ส.กทม.
พรรคเพื่อไทย 4 คน ได้แก่ 1.นายวิสาร เตชะธีราวัฒน์ ส.ส.เชียงราย 2.นายนิยม ช่างพินิจ ส.ส.พิษณุโลก 3.นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม ส.ส.เชียงใหม่ และ 4.นายศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ ส.ส.อุตรดิตถ์
พรรคเพื่อชาติ 4 คน เป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อทั้งหมด ได้แก่ 1.นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ 2.นางลินดา เชิดชัย 3.น.ส.ปิยะรัฐชย์ ติยะไพรัช และ 4.นายเพชรวรรต วัฒนพงศศิริกุล
พรรคเสรีรวมไทย จำนวน 3 คน เป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อทั้งหมด ได้แก่ 1.พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส 2.น.ส.ธนพร โสมทองแดง และ 3.น.ส.พัชนี เพ็ชรจินดา
และพรรคประชาชาติ 1 รายคือ นายกมลศักดิ์ ลีวาเมาะ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชาติ
ผู้เขียน : เดชจิวยี่
กราฟิก:Varanya Phae-araya
👇 อ่านบทความต้นฉบับ 👇
โฆษณา