29 ต.ค. 2020 เวลา 05:22 • ความคิดเห็น
ถ้าเกิดว่าวันหนึ่ง มีคนขับรถ แลมโบกินี่ ตัว Top ผ่านหน้าคุณไป อย่างช้า ๆ คุณจะมองรถคันนั้น หรือไม่สนใจมันหละ??
แน่นอนว่าถ้าถามคน 100 คน คิดว่าคนเกินครึ่ง หรือส่วนมากน่าจะตอบว่ามองแน่ นอน เพราะทุกคนต่างรู้ว่า แลมโบกินี่ มีราคาเท่าไหร่ การที่จะขับรถนี้ได้ย่อมไม่ใช่คนธรรมดา
แต่มีใครเคยคิดสักนิดไหมว่า คนขับ แลมโบกินี่ ราคา 10 ล้าน เขาจะต้องระมัดระวัง แค่ไหนกัน??
ถ้าบอกว่าไม่ระวังเลย ก็คงจะเชื่อยาก เพราะของมีมูลค่ามหาศาลขนาดนี้ ก็คงต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ เพราะหากว่า ถูกชนและต้องซ่อมขึ้นมา คงไม่ใช่เรื่องดีเท่าไหร่นัก
หลายต่อหลายคนมักชอบที่จะเห็นของแพง ของแบรนด์เนม และอยากที่จะเป็นเจ้าของ เพราะคิดว่าน่าจะมีความสุข เมื่อตนเองได้ใช้ของมีราคาแบบนั้นบ้าง
แต่จะมีใครคิดบ้างไหมว่า ?? ยิ่งมีของแพงมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งทุกข์ มากเท่านั้น
ผมเคยเห็นข่าว ชายคนหนึ่ง ฟ้องร้อง เพื่อนของเขา ที่ทำ รองเท้ารุ่น ลิมิเตท เลอะ ถึงขั้นขึ้นโรงขึ้นศาลกัน
ผมเคยเห็นข่าว คนทะเลาะกันเพียงเพราะ กาแฟ หกใส่เสื้อราคาหลักหมื่น ของอีกคนหนึ่ง
ข่าวเหล่านี้สะท้อนให้เห็นว่า แท้จริงแล้ว คนที่ใส่ของแพง ๆ เหล่านี้ ไม่ได้มีความสุขสักเท่าไหร่เลย
หนึ่งคือเขาต้องคอยระมัดระวัง ไม่ให้ของเสียหาย ไม่ให้เปรอะ ไม่ให้เปื้อน สองคือ ต้องคอยเก็บรักษาเป็นอย่างดี กลัวจะมีใครมาลักมาขโมยเอาไป
ทำไมของแพงเหล่านั้น แทนที่จะสร้างความสุข มันกลับกลายมาเป็นสร้างความทุกข์ เสียมากกว่า??
ผิดกับคนที่ใช้ของราคาถูก ไม่ต้องมานั่งกังวลว่าของจะหายไปรึเปล่า ไม่ต้องมากังวลว่าจะเปรอะ จะเปื้อน เพราะ ต่อให้เปื้อน ก็ซักได้อย่างสบายใจ
ของถูกอาจจะคุณภาพไม่ดี มีสภาพไปตามราคา และอาจจะไม่ช่วยยกระดับการตกแต่งภายนอกของบุคคล ให้ดูดีมากยิ่งขึ้นได้ แต่อย่างน้อย ของ ถูก ๆ ก็สามารถรักษาสภาพจิตใจภายใน ไว้ให้ไม่หลงระเริงไปกับ ความทุกข์ ที่จะได้รับ เมื่อตอนที่ต้องใช้ของแพง ๆ
บ่อยครั้งเรามักจะหลงระเริงไปกับ โลกแห่งมายา ความสวยงามในอุดมคติ ของคนอื่น จนลืมมองโลกแห่งความจริง ในจิตใจของตัวเราเอง ว่าแท้จริงแล้ว เราสุข หรือว่าทุกข์ มากกว่ากัน เมื่อได้ทำในสิ่งนั้น
มีคำกล่าวหนึ่งที่ น้าเน็กเคยกล่าวไว้ว่า "อย่าให้ของภายนอก แพงไปกว่าคุณค่าภายในจิตใจของเรา"
คนจะดีจะแพงใช่จากของตกแต่งภายนอก แต่แพงจากคุณค่าภายใน
ขอฝากบทความนี้ให้ "ฉุดคิด" นะครับ
โฆษณา