30 ต.ค. 2020 เวลา 02:40 • ธุรกิจ
รู้จัก “ปีเตอร์ ธีล” นักลงทุนรายแรกของ Facebook
ปีเตอร์ ธีล ชายที่เป็นหนึ่งใน “PayPal มาเฟีย”
ซึ่ง PayPal มาเฟีย คือ ฉายาที่ใช้เรียกอดีตพนักงานที่ร่วมกันพัฒนาบริษัท PayPal
ที่ถูกเรียกว่ามาเฟีย ก็เนื่องจากพวกเขามีอิทธิพลอย่างมากต่อธุรกิจอินเทอร์เน็ต ถึงขนาดที่บางคนยกย่องว่าพวกเขามีส่วนช่วยให้อุตสาหกรรมฟื้นตัวกลับมาได้ หลังจากเกิดวิกฤติฟองสบู่ Dot-Com
1
โดย ปีเตอร์ ธีล คือคนที่ถูกเปรียบเทียบให้เป็นหัวหน้ากลุ่ม PayPal มาเฟีย
ซึ่งเขาคนนี้ ยังเป็นนักลงทุนรายแรกของ Facebook อีกด้วย
เรื่องราวของชายคนนี้น่าสนใจอย่างไร
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
ปีเตอร์ ธีล (Peter Thiel) เป็นนักธุรกิจและนักลงทุน ชาวเยอรมัน-อเมริกัน
เกิดเมื่อปี ค.ศ. 1967 ปัจจุบันมีอายุ 53 ปี
เขาจบการศึกษาด้านกฎหมาย จากมหาวิทยาลัย Stanford และทำงานเป็นผู้ช่วยของผู้พิพากษา
แต่ต่อมา ตัดสินใจเปลี่ยนอาชีพ มาเป็นเทรดเดอร์ตราสารอนุพันธ์ที่บริษัทหลักทรัพย์ Credit Suisse แทน
1
ซึ่งขณะนั้นเอง ธีลได้เห็นถึงแนวโน้มการเติบโตของธุรกิจอินเทอร์เน็ต โดยเฉพาะการซื้อขายสินค้าผ่านทางเว็บไซต์ แต่กลับพบว่า ยังไม่ค่อยมีระบบจ่ายเงินออนไลน์ที่รองรับธุรกรรมดังกล่าวสักเท่าไร
เขาจึงได้ก่อตั้งบริษัท Confinity Inc. ร่วมกับเพื่อน เพื่อพัฒนาแพลตฟอร์มให้บริการจ่ายเงินออนไลน์ ในปี 1998
1
ในช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน ก็มีอีกบริษัทที่ตั้งขึ้นมาประกอบธุรกิจ Online Banking โดยบริษัทนั้นคือ X.com ที่มี อีลอน มัสก์ เป็นตัวตั้งตัวตีในการก่อตั้งบริษัทนี้
ซึ่งหนึ่งปีถัดมา Confinity และ X.com ที่ต่างบริษัทต่างก็มีชื่อเสียงด้านแพลตฟอร์มให้บริการธุรกรรมการเงินออนไลน์ในขณะนั้น ก็ได้ควบรวมกิจการกัน และเปลี่ยนชื่อบริษัทใหม่เป็น “PayPal”
Cr. China Banking News
ในปี 2002 บริษัท PayPal จดทะเบียนเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ NASDAQ และต่อมาไม่นาน ก็ตกลงขายกิจการให้กับ eBay เว็บไซต์ซื้อขายสินค้าออนไลน์ ด้วยมูลค่าสูงถึง 47,000 ล้านบาท
1
ทำให้ ปีเตอร์ ธีล ที่ถือหุ้นของ PayPal ณ ขณะนั้นอยู่ 3.7% ได้รับเงินจากดีลครั้งนี้ไปราว 1,700 ล้านบาท
ในเวลาต่อมา เขาได้นำเงินก้อนนั้นไปก่อตั้งกองทุนเฮดจ์ฟันด์ และ Venture Capital เพื่อหาโอกาสลงทุนในกิจการสตาร์ตอัปต่างๆ ที่น่าสนใจ
และเหตุการณ์สำคัญ ก็เกิดขึ้นในปี 2004
เมื่ออดีตเพื่อนร่วมงานที่ PayPal แนะนำให้ธีลรู้จักกับ มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ในวัย 20 ปี
1
หลังจากการพูดคุยกัน ทำให้ธีลสนใจในธุรกิจโซเชียลเน็ตเวิร์กแบบใหม่ของ Facebook เป็นอย่างมาก และตกลงเข้าร่วมลงทุนด้วยเงิน 15.6 ล้านบาท เพื่อแลกกับหุ้นสัดส่วน 10.2% ของบริษัท
ซึ่งการลงทุนในครั้งนั้น คือการที่ Facebook ได้รับเงินลงทุนจากคนนอกเป็นครั้งแรก จึงทำให้ ธีล กลายเป็นนักลงทุนรายแรกของ Facebook นั่นเอง
ทั้งนี้ ธีลยังได้เข้ามาเป็นผู้บริหาร Facebook และมีบทบาทสำคัญในเรื่องการเงิน โดยเฉพาะการจัดระดมทุนได้สำเร็จ ก่อนจะเกิดวิกฤติซับไพรม์ในปี 2008
1
จนกระทั่งปี 2012 Facebook ได้ดำเนินการ IPO เข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ NASDAQ โดยขณะนั้นบริษัทมีมูลค่าอยู่ที่ราว 3.1 ล้านล้านบาท
Cr. The New York Times
ซึ่งธีลก็ตัดสินใจขายหุ้นที่เขาถืออยู่จำนวนมากออกไป ทำให้เขาได้รับเงินไปประมาณ 31,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นมูลค่ามหาศาลเมื่อเทียบกับมูลค่าที่เขาลงทุนไปในตอนแรก
นอกจากนั้น ธีลยังลงทุนในสตาร์ตอัปชื่อดัง อีกกว่า 80 บริษัท ตั้งแต่ช่วงแรกของกิจการ ตัวอย่างเช่น
Airbnb แพลตฟอร์มจองที่พักแบบ Sharing Economy
Linkedin แพลตฟอร์มโซเชียลสำหรับคนทำงาน
SpaceX บริษัทขนส่งทางอวกาศ
Spotify แพลตฟอร์มฟังเพลง Streaming ออนไลน์
Quora แพลตฟอร์มโซเชียล ถาม-ตอบ
Yammer แพลตฟอร์มโซเชียลสำหรับองค์กร
DeepMind บริษัทพัฒนาเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์
4
รวมถึงการลงทุนใน Cryptocurrency อย่าง Bitcoin ที่เขามองว่าน่าจะเป็นสกุลเงินสำคัญของธุรกรรมการเงินออนไลน์ในอนาคตอีกด้วย
ล่าสุด จากการประเมินทรัพย์สินและจัดอันดับของ Forbes
ปีเตอร์ ธีล มีทรัพย์สินส่วนตัวอยู่ที่ประมาณ 78,000 ล้านบาท
ซึ่งถูกจัดเป็นบุคคลที่รวยที่สุดในโลก อันดับที่ 391
Cr. Tech.eu
ทั้งนี้ ธีลเคยให้มุมมองเอาไว้ว่า บริษัทที่ประสบความสําเร็จ และสร้างผลตอบแทนมหาศาลให้กับผู้ถือหุ้น มักจะมีลักษณะคล้ายคลึงกันอยู่หนึ่งอย่าง
1
นั่นคือ การเป็นผู้สร้างสินค้า นวัตกรรม หรือตลาด ขึ้นมาใหม่
จึงทำให้บริษัทยังไม่มีคู่แข่งมากนักในช่วงแรกๆ เหมือนกรณีของ PayPal และ Facebook
4
ในขณะที่อุตสาหกรรมอื่นๆ ที่มีผู้เล่นหลายราย เช่น ธุรกิจสายการบิน แม้จะมีขนาดใหญ่ แต่ก็เต็มไปด้วยการแข่งขันด้านราคา ซึ่งส่งผลให้กำไรไม่เติบโต และมูลค่าบริษัทปรับตัวลงมาต่ำกว่าสตาร์ตอัปเกิดใหม่บางรายเสียอีก
2
ปิดท้ายด้วยเรื่องที่น่าสนใจ
นอกเหนือจาก ปีเตอร์ ธีล แล้ว กลุ่ม PayPal มาเฟีย ยังแยกย้ายกันไปสร้างธุรกิจ จนประสบความสำเร็จอีกหลายคน ไม่ว่าจะเป็น
รีด ฮอฟฟ์แมน ผู้ร่วมก่อตั้ง LinkedIn และ เดวิด แซกส์ ผู้ร่วมก่อตั้ง Yammer
ซึ่งธีลร่วมลงทุนในทั้งสองบริษัท และสุดท้ายทั้ง LinkedIn และ Yammer ก็ถูก Microsoft ซื้อกิจการไป
2
แชด เฮอร์ลีย์, สตีฟ เฉิน และ ยาวีด คาริม ร่วมกันก่อตั้งแพลตฟอร์มวิดีโอออนไลน์ YouTube จนถูก Google ซื้อกิจการไป
2
และคนที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของกลุ่ม คงหนีไม่พ้น อีลอน มัสก์
เขาเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ PayPal และได้รับเงินจากการขายกิจการให้ eBay สูงถึง 5,100 ล้านบาท
ซึ่ง อีลอน มัสก์ ได้นำเงินที่ได้มาไปลงทุนในบริษัท SpaceX ซึ่งก็มีธีลร่วมลงทุน
และ อีกบริษัทที่อีลอน มัสก์ ได้ลงทุนก็คือ Tesla ที่ตอนนี้กลายเป็นบริษัทรถยนต์มูลค่ามากสุดในโลกไปแล้ว นั่นเอง..
1
Cr. Teslarati
โฆษณา