21 พ.ย. 2020 เวลา 02:42 • อาหาร
Matcha Cheese Cake
ชีสเค้กชาเขียวราดถั่วแดงแบบไม่อบ
freepik
การทำชีสนั้นครั้งแรกนั้น เชื่อกันว่าเกิดขึ้นมาครั้งแรกตั้งแต่สมัยเมื่อ2,000ปีก่อน
เนื่องจากพบหลักฐานเป็นแม่พิมพ์สำหรับการทำเนยแข็ง
ส่วนชีสเค้กสมัยแรกนั้นเกิดในยุคกรีกโบราณ
มีจุดมุ่งหมายเพื่อเป็นอาหารพลังงานสูงสำหรับนักกีฬาโอลิมปิค
freepik
โดยชีสเค้กในยุคแรกนั้นใช้ ricotta cheeseในการทำ
และใช้น้ำผึ้งในการให้ความหวานแทนน้ำตาล
ต่อมาชาวอมเริกันได้พัฒนาโดยการใช้ครีมชีส และแคร็กเกอร์ผสมเนยรองเป็นฐานขนม
www.amazon.in
ในปี 1872 ครีมชีสถูกคิดค้นขึ้นโดยบังเอิญ
โดยชายอเมริกันที่ชื่อ William Lawrence ซึ่งมีอาชีพเป็นคนรีดนมวัว
ซึ่งกำลังหาเลีบนแบบหาวิธีทำชีสที่ชื่อ neufchtel ของฝรั่งเศส
หลังจากนั้นอีกแปดปี จากความผิดพลาดที่ส่งผลบังเอิญให้ได้ผลิตภัณฑ์ชนิดใหม่
Lawrence จึงตัดสินใจวางจำหน่าวครีมชีสของตัวเอง
โดยมีเอกลักษณ์คือบรรจุอยู่ในห่อฟอลย์อย่างที่เราเห็นทุกวันนี้
เพียงแต่ที่ฉลากในสมัยนั้น มีการพิมพ์คำว่า
"not Neufchâtel"—Philadelphia Brand Cream Cheese
เพื่อป้องกันไม่ให้ลูกค้าเกิดความสับสน
หลังจากนั้น บริษัท Phoenix Cheese Company
ก็ได้ซื้อกิจการของ Lawrence ไปในปี 1903
และจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า ของสินค้าชนิดนี้ในชื่อPhiladelphia
หลังจากนั้นอีก25ปี
บริษัท kraft ของเองก็ได้ติดต่อเข้ามาขอซื้อครีมชีสยี่ห้อนี้
และจัดจำหน่าย philadelphia cream cheese ในรูปแบบ pasteurized
และยังใช้กล่องสีเงิน เพื่อให้สื่อถึงวิธีการจัดจำหน่ายโดยการห่อฟอลย์
และยังคงเป็นเจ้าของมาจนถึงทุกวันนี้
ด้วยรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์และพัฒนาสูตรไปมาก
จึงยังทำให้ไร้คู่แข่งที่สามารถผลิตออกมาได้มีรสชาติสูสีกัน
และยังคงมียอดขายที่ดี เนื่องจากหากนึกถึงครีมชีส
แทบทุกคนจะนึกถึงยี่ห้อ philadelphia cream cheese
พร้อมทั้งนึกถึงกล่องสีเงิน ที่มีโลโก้เป็นวงรีขึ้นมาเป็นอันดับแรก
freepik
ชีสเค้กเองนั้น
มีทั้งแบบอบและไม่อบ
โดยในแบบอบนั้น แยกย่อยออกได้เป็นสองแบบ
แบบแรก ทำเหมือนชีสเค้กธรรมดาทั่วไป แต่มีการผสมไข่แดงและแป้งลงไปนิดหน่อย
มีจุดมุ่งหมายเพื่อสร้างพื้นผิวและลดความชื้นออกจากเนื้อเค้กบางส่วน
เช่นชีสเค้กของร้าน LeTAO
อีกแบบ มีจุดมุ่งหมายเพื่อสร้างเนื้อสัมผัสให้เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง
โดยมีต้นกำเนิดที่เรียกว่า Souffle’ Cheesecake
หรือที่เราๆพบเจอในรูปแบบที่เราเรียกกันว่า ชีสเค้กญี่ปุ่น
ที่พบเห็นได้ตามห้างสรรพสินค้าทั่วไปอย่างเช่น BreadTalk นั่นเอง
ในส่วนของชีสเค้กแบบไม่อบนั้น
ทำได้ง่ายกว่ามาก อีกทั้งยังเหมาะกับการทำหรือนำไปสอนเด็กเล็กๆ
เนื่องจากไม่ต้องใช้เตาและมีดคมๆในการทำ
ภาพบนจาก freepik
โดยชีสเค้กชนิดนี้ทำง่ายถูกจริตผู้เขียนกว่ามาก
เนื่องจากไม่ต้องมาคุมไฟและใช้มือตีเบาๆ
เริ่มจากกระหน่ำทุบตีแคร็กเกอร์ให้ป่นเป็นผุยผง
มีแรงเท่าไหร่ใส่ได้ไม่ยั้ง ประหนึ่งดั่งได้ออกกำลังกาย
ทุบเสร็จเมื่อไหร่ก็ใส่เนยละลายเข้าไป
จะบีบคลึงเค้นขยำแรงแค่ไหนขนมปังก็ไม่เจ็บปวด
ไดที่ดีละก็บดๆๆกดๆๆใส่ในพิมพ์ หรือหากใครอยากใส่ถ้วยใส่แก้วสวยๆก็ได้ไม่ว่ากัน
แต่ต้องกดให้แน่นจริงๆ เพื่อให้เมื่อนำไปแช่เย็นจะได้ออกมาดูดีก่อนเทชีสลงไป
หากใครอยากใช้เป็นโอรีโอ้หรือคุ้กกี้กลิ่นรสอื่นใดก็ได้ไม่ห้ามกัน
ขั้นตอนการทำก็ตามนั้นเลย
ส่วนใครอยากทำเป็นรสชาเขียว ก็ให้นำผงชาผสมกับน้ำอุ่นๆและละลายเจลาตินลงไป
เพิ่มน้ำตาลและลดปริมาณมะนาวเหลือง
เนื่องจากชีสยี่ห้อ philadelphia cream cheese นั้นมีรสเปรี้ยวพอแล้วสำหรับการทำชีสเค้กรสอื่นๆที่ไม่ใช่รสผลไม้ เนื่องจากในสูตรเองไม่ได้ใช้ครีมชีสยี่ห้อนี้เพราะมันเปรี้ยวเกินไป
ส่วนถั่วแดงต้ม
แนะนำให้แช่น้ำก่อน1คืน
ข้อสำคัญคือ ต้องแบ่งใส่น้ำตาลอย่างน้อยสามรอบ
เพื่อให้น้ำระเหยออกได้เต็มที่ ป้องกันไหม้และได้เนื้อสัมผัสที่เหนียวข้น
ตอนนำเค้กออกจากพิมพ์ที่แช่แข็งไว้
หากไม่ได้ทาเนยอาจแกะออกได้ยากนิดนึง
แนะนำให้เอาไฟเผารอบพิมพ์นิดหน่อย จะดึงออกมาง่ายมาก
หากมีกระชอบก็โรยผงชาเขียนด้านบนเสียหน่อย
โรยตามด้วยถั่วแดงต้ม
จานก็เอาผงชาเขียวเนี่ยแหละสาดๆไปซักหน่อย หรือใครอยากประดิษฐ์ประดอยทำช็อคโกแลตขูดฝอยก็ไม่วว่ากัน
โฆษณา