1 พ.ย. 2020 เวลา 02:34 • สุขภาพ
เราถูกสอนมาให้กลัวคลอเรสเตอรอล เข้าโรงพยาบาลก็ตรวจคลอเรสเตอรอล กินไข่ระวังคลอเรสเตอรอลสูง ในไข่มีคลอเรสเตอรอลสูง เราถูกปลูกฝังเรื่องไขมันมาแบบผิดๆ ไขมันที่มีโทษต่อร่างกายจริงๆ เรากลับไม่พูดถึงกัน
ขอบคุณภาพจาก Pixabay
ถ้าจะกล่าวถึงวิถีสุขภาพดี จะไปพูดถึงไข่คงไม่ได้ ไข่มีประโยชน์มากแต่ที่เป็นโทษก็อยู่ที่วิธีการกินนี่ล่ะ กินไข่ให้อร่อยก็ไข่เจียวกับข้าวสวยร้อนๆ ปัญหาอยู่ที่น้ำมันที่ใช้เจียว น้ำมันถ้าถูกความร้อนจนเกินจุดที่เกิดควันโครงสร้างไขมันจะเปลี่ยน
เป็นไขมันทรานส์ ร่างกายเอาไปใช้ประโยชน์ไม่ได้ เป็นสาเหตุการอักเสบ และสาเหตุของการเกิดโรคเสื่อมทั้งหมด น้ำมันที่เราใช้เจียวส่วนใหญาเป็นน้ำมันที่ผ่านกระบวนการเติมไฮโดรเจนคือไขมันทรานส์ สาเหตุก่อโรค
ดังนั้นกินไข่ให้ได้ประโยชน์ ควรกินไข่ต้ม ไข่ตุ๋น ไข่นึ่ง หลีกเลี่ยงการทอด
มหาวิทยาลัย นอร์ทโคโรไลนา อเมริกา สนับสนุนให้กินไข่ได้ทุกวัน เพราะในไข่มีสารอาหารที่จำเป็นสูงที่สำคัญมีโคลีนมากในไข่แดง
โคลีนบำรุงสมอง ยังมีซีลีเนียมมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระแล้ว ยังกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน ทำให้ป้องกันการติดเชื้อต่างๆ สำหรับคนที่เป็นหวัดบ่อยๆ แพ้ง่าย กินไข่ต้มทุกวันจะลดอาการดังกล่าวลงได้
ที่สำคัญยังมีไบโอติน 50ไมรโครกรัมต่อไข่แดง 100 กรัม ไบโอตินทำงานคู่กับฮอร์โมนอินซูลินเพื่อลดระดับน้ำตาลในเลือด ถ้าขาดไบโอติน ผมร่วง ผมเปราะ ผมแห้ง เหนื่อยง่าย ซึมเศร้า เห็นภาพหลอน ผิวแห้งเป็นสะเก็ดโดยเฉพาะรอบจมูกและปาก
ยังมีวิตามืนในกลุ่ม วิตามินบี บี1 บี2 บี3 บี12 กำมะถัน ปริมาณกำมะถันไม่สามารถแสดงจำนวนได้ แต่ก็เพียงพอที่จะช่วยร่างกาย ในการสลายพิษของโลหะหนักต่างๆ ได้ หรือคนที่ประจำเดือนมามากผิดปกติลองกินไข่ต้มวันละสามถึงห้าฟองต่อวัน จะช่วยเพิ่มปริมาณวิตามินเค ที่ทำให้เลือดออกแล้วหยุดยาก
วิตามินเอในไข่ ช่วยรักษาโรคสะเก็ดเงิน โรคมะเร็งโดยวิตามินเอจะไปลดสารบางชนิดที่ไปกระตุ้นเซลล์มะเร็งลง บำรุงดวงตา รักษาคนที่มีปัญญาระบบทางเดินหายใจ ถ้าขาดวิตามินเอจะทำให้คุณติดเชื้อง่ายกว่าคนปกติ
สรุปสารอาหารในไข่ หนึ่งฟอง เราจะได้สารอาหารที่เราควรจะได้รับในแต่ละวัน RDA :
Recommended Dietary Allowances ปริมาณสารอาหารที่แนะนําให้บริโภคในแต่ละวัน สําหรับคนปกติซึ่งจะครอบคลุมความต้องการสาร อาหารของประชากร 97-98%
ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับอายุเพศ และภาวะร่างกาย เช่น หญิงตั้งครรภ์ ให้นมบุตร
ในไข่มีวิตามินเอ ร้อยละ 6 ของRDA
โฟเลท ร้อยละ 5
วิตามินบี 5 ร้อยละ 7
วิตามินบี12 ร้อยละ 9
วิตามินบี 2 ร้อยละ 15
ซีลีเนียม ร้อยละ 22
ยังมีสารอาหารอื่นๆอีกมาก
ไข่ 1 ฟองปริมาณ 100 กรัม
ไขมันทั้งหมด 11 กรัม
ไขมันอิ่มตัว 3.3 กรัม
ไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อน 1.4 กรัม
โปรตีน 13 กรัม
วิตามินเอ 535 ไมรโครกรัมต่อไข่แดง 100 กรัม
แคลเซียม 50 กรัม
วิตามินดี 1.75 ไมรโครกรัมต่อไข่ทั้งฟอง 100 กรัม
วิตามินบี 1 0.3 ไมรโครกรัมต่อไข่แดง 100กรัม
วิตามินบี 2 0.35 มิลลิกรัมต่อไข่ทั้งฟอง 100 กรัม
วิตามินบี3 0.38 มิลลิกรัมต่อไข่ทั้งฟอง 100 กรัม
วิตามินบี 12 2.5 มิลลิกรัมต่อไข่ทั้งฟอง 100 กรัม
นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมเราถึงต้องกินไข่ทั้งฟอง แทนการเลือกกินแค่ไข่ขาวหรือไข่แดง
มีไบโอติน 50 ไมรโครกรัมต่อไข่แดง 100 กรัม
ส่วนสารอาหารอื่นๆ มีการยืนยันว่ามีแต่ไม่สามารถแสงจำนวนตัวเลขออกมาได้ แค่นี้คงเป็นเหตุผลที่เพียงพอว่าทำไมเราถึงต้องกินไข่มุกวัน
การกินไข่ให้ระวังวิธีการปรุง ไข่ต้ม ไข่นึ่ง ปลอดภัยที่สุด ไข่ดาวไข่ทอดให้ระวังน้ำมันที่ใช้ทอดน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็นปลอดภัยกว่าน้ำมันพืชทุกชนิดในท้องตลาด ไข่เจียว ไข่ดาว น้ำมันที่ทอดร้อนจัดเกินจุดเกิดควัน
ทอดไข่น้ำมันร้อนๆ ทอดนานๆ จะได้ไขมันทรานส์เป็นของแถม ไข่ตุ๋นให้ระวังสารปรุงรสทั้งหมด ปรุงแค่เกลือธรรมชาติจะปลอดภัยกว่าเช่นดอกเกลือ เกลือชมพู
การเลือกกินไข่เป็ดได้ประโยชน์มากกว่าการกินไข่ที่มาจากระบบฟาร์ม
อ้างอิง
อแมนดา เฮอร์เซล. (2548). คูมือดูแลสุขภาพด้วยวิตามินและเกลือแร่.(Vitamins & Minerals Handbook).(สรจักร ศิริบริรักษ์ สุรศักดิ์ รักหมาย, แปล) กรุงเทพมหานคร: ซีเอ็ดยูเคชั้น.
โฆษณา