ทำไม Starbucks มีหนี้มหาศาล
หากเราเจอธุรกิจที่เป็น “หนี้มหาศาล”
เราก็อาจจะคาดการณ์ได้ว่าบริษัทนั้นกำลังมีความเสี่ยงทางการเงินสูง
ยิ่งบริษัทแห่งนั้นมี หนี้ ที่ว่ามากกว่าสินทรัพย์ทั้งหมดของทั้งบริษัท
เราก็อาจสรุปได้ทันทีว่าบริษัทแห่งนั้นมีแนวโน้มที่จะล้มละลาย จากการที่มีหนี้สินล้นพ้นตัว
แต่รู้หรือไม่ว่า หนึ่งในบริษัทที่มีหนี้มหาศาลจนมากกว่าสินทรัพย์
คือบริษัทที่เป็นเจ้าของเชนร้านกาแฟที่เรารู้จักกันดี
บริษัทแห่งนั้นก็คือ "Starbucks"
ปี 2019 บริษัท Starbucks มีสินทรัพย์ 5.8 แสนล้านบาท
แต่มีหนี้สินมากถึง 7.7 แสนล้านบาท
ในทางบัญชีนั้น สินทรัพย์จะมีมูลค่าเท่ากับหนี้สินรวมกับส่วนของผู้ถือหุ้น
จากตัวเลขข้างต้น จะเห็นได้ว่า Starbucks กำลังมีส่วนของผู้ถือหุ้นติดลบกว่า 1.9 แสนล้านบาท
เคสดังกล่าวหากเกิดขึ้นในประเทศไทย
เราก็อาจจะสรุปได้เลยว่าบริษัทนั้นกำลังมีหนี้ท่วม
หรือมีการขาดทุนสะสมจนกินส่วนของผู้ถือหุ้น
แต่สำหรับ Starbucks นั้นต่างออกไป..
เพราะหนี้มหาศาลของบริษัทเกิดขึ้นจากการที่ Starbucks ซื้อหุ้นคืนมหาศาล
มหาศาลในที่นี้ หากเรานับตั้งแต่ปี 2017 ถึงปี 2019 Starbucks ซื้อหุ้นคืนไปแล้ว 5.8 แสนล้านบาท
มูลค่าดังกล่าวสามารถนำไปซื้อบริษัท ADVANC เจ้าของ AIS เครือข่ายสัญญาณมือถือที่ใหญ่สุดในประเทศไทยได้ทั้งบริษัท แถมยังได้รับเงินทอน
แล้วทำไมการซื้อหุ้นคืนจึงทำให้หนี้ มากกว่าสินทรัพย์ได้?
การซื้อหุ้นคืนจะเป็นการใช้เงินสดของทางบริษัทเข้าไปซื้อหุ้นคืนจากตลาด และเมื่อได้หุ้นคืนมาแล้ว บริษัทก็จะลดทุนลง โดยการตัดจำนวนหุ้นของบริษัทออก และทำให้ส่วนของผู้ถือหุ้นลดลง
เมื่อเราทำการบันทึกบัญชีก็จะทำให้ฝั่งของสินทรัพย์ หรือเงินสดนั้นหายไป และฝั่งส่วนผู้ถือหุ้นมีมูลค่าลดลง อย่างในกรณีของ Starbucks ส่วนของผู้ถือหุ้นนั้นก็ได้ลดลงจนมีมูลค่าติดลบ..
ซึ่งนอกจาก Starbucks จะใช้เงินสดในการซื้อหุ้นคืนแล้ว
เงินอีกส่วนหนึ่งที่ Starbucks ใช้ในการซื้อหุ้นคืน มาจากการกู้
โดยในปี 2019 บริษัทมีเงินกู้ยืมระยะยาวอยู่ 3.4 แสนล้านบาท
แม้ว่าจะดูเป็นมูลค่าที่สูง แต่สำหรับ Starbucks ที่ผลิตกำไรได้ประมาณปีละ 1.1 แสนล้านบาท
ก็จะสามารถจ่ายคืนเงินต้นที่กู้มาได้หมดได้ภายในระยะเวลาเพียง 3 ปี
แล้วคำถามถัดไปก็คือ ทำไมถึงต้องซื้อหุ้นคืน?
คำตอบก็คือ การซื้อหุ้นคืนจะช่วยเพิ่มผลตอบแทนให้กับผู้ถือหุ้น
โดยกลไกหลังจากการซื้อหุ้นคืนที่เห็นผลทันทีก็คือ จำนวนหุ้นจะน้อยลง
ซึ่งส่งผลให้เงินปันผลต่อหุ้นมากขึ้น กำไรต่อหุ้นมากขึ้น
และเมื่อกำไรต่อหุ้นมากขึ้น ถ้าตลาดยังซื้อขายกันที่ P/E เท่าเดิม ราคาหุ้นของบริษัทก็จะเพิ่มขึ้นตามไปด้วย
ถึงตรงนี้ เราก็น่าจะพอเข้าใจแล้วว่าแม้ Starbucks จะมีหนี้มหาศาล แต่หนี้ที่เกิดขึ้นไม่ได้มาจากการที่บริษัททำธุรกิจย่ำแย่
แต่แท้จริงแล้ว บริษัทกำลังซื้อหุ้นคืน เพื่อเพิ่มผลประโยชน์ให้กับผู้ถือหุ้นต่างหาก..
"THE BRIEFCASE" เพจใหม่ของทีมลงทุนแมน เพจที่จะสรุปเรื่องที่ ผู้บริหารยุคนี้ต้องรู้ แบบกระชับ ซึ่งจะรวมไปถึง การพัฒนาทักษะ กรณีศึกษาธุรกิจ ข่าวเศรษฐกิจ ที่จะถูกย่อยในฉบับเข้าใจง่าย เสมือนเป็นกระเป๋าเอกสารคู่ใจ ของผู้นำธุรกิจเช่นคุณ ลองกดติดตามกันได้เลย..
- 106
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
