ปิดฉากธุรกิจค้าปลีก CP รวบตึงต้นน้ำยันปลายน้ำ
หลังคณะกรรมการ ชี้ขาดเปิดทางปิดดีล “เทสโก้ โลตัส”
หลังจากที่มีข่าวแพร่สะพัดมานานว่าเจ้าสัว ซีพี ต้องการปิดดีลธุรกิจค้าปลีกที่ในอดีตเคยจำยอมต้องขายไป เพื่อให้ธุรกิจทั้งเครืออยู่รอด จนเรียกว่าเป็นธุรกิจลูกรัก นั่นคือ “เทสโก้ โลตัส” โดยท่านเจ้าสัวเคยกล่าวไว้เองว่า… ตอนวิกฤตผมขายไป ฝากคนอื่นไปเลี้ยง ทีนี้จะเอาของจากคนที่เลี้ยงลูกผม จะขายลูกออกมา ผมต้องซื้อ
เมื่อเจ้าสัวตระกูลเจียรวนนท์ แห่งเครือเจริญโภคภัณฑ์ ผู้เป็นมหาเศรษฐีอันดับหนึ่งของไทย รวยที่สุดอันดับ 21 ของโลก และมีทรัพย์สินกว่า 982,400 ล้านบาท มั่นใจแล้วว่าต้องได้ มีหรือจะทำการซื้อธุรกิจที่ตนเองเชื่อมั่นให้กลับมาอยู่ในอาณาจักรนี้ไม่ได้
ฉะนั้นดีลการประมูลซื้อกิจการ “เทสโก้ โลตัส ในประเทศไทย” รวมถึง “เทสโก้ มาเลเซีย” จึงเกิดขึ้น ด้วยมูลค่าสูงถึง 10,600 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 333,640 ล้านบาท
การซื้อธุรกิจด้วยมูลค่าสูงถึง 3 แสนล้านก็ถือว่าเป็นดีลขนาดใหญ่มากๆ เพราะมีการประเมินมูลค่าการซื้ออยู่ที่ 282,000 ล้านบาทเท่านั้น แถมตอนแรก ซีพี ก็ไม่ใช่ตัวเต็งด้วยซ้ำ
การแข่งขันครั้งนี้ก็ใช่ว่าจะได้มาอย่างง่ายดายเสียเมื่อไหร่ ด้วยคู่แข่งก็จับจ้องกันตาเป็นมันจาก 3 มหาเศรษฐีของไทย คือ
กลุ่มซีพี ของเจ้าสัวธนินท์
กลุ่มเซ็นทรัล ของตระกูลจิรธิวัฒน์
กลุ่มเบอร์ลี่ ยุคเกอร์ ของเจ้าสัวเจริญ ศิริวัฒนภักดี
ซึ่งกลุ่มเจ้าสัวเจริญนี่แหละถือเป็นะตัวเต็งที่คาดว่าจะคว้าดีลนี้ เจ้าของอาณาจักรน้ำเมารายใหญ่ ซึ่งก็มีห้างค้าปลีกของตัวเองอยู่ในมืออยู่แล้วก็คือ บิ๊กซี
การเข้าซื้อกิจการครั้งนี้มีด่านสำคัญอยู่ที่ คณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า หรือ กขค. ที่จะเป็นผู้ชี้ขาดว่าติดขัดกับกฎหมายการแข่งขันทางการค้าหรือไม่ เนื่องจากอย่าลืมว่า อาณาจักร ซีพี ยังมีธุรกิจค้าปลีก - ค้าส่งเดิมอยู่แล้ว ทั้งบริษัท ซีพี ออล์ จำกัด (มหาชน) ที่มีร้านสะดวกซื้อ 7 - Eleven นับหมื่นสาขาที่ผุดขึ้นทุกหัวระแหง รวมถึงธุรกิจค้าส่งอย่าง บริษัท สยามแม็คโคร โฮลดิ้ง (ประเทศไทย) ซึ่งก็มีห้างแม็คโคร เป็นผู้ครอบครองสัดส่วนการขายปลีกให้แก่ ยี่ปั๊ว - ซาปั๊ว หรือร้านชำ เป็นต้น
ไม่รวมกับธุรกิจอาหาร ธุรกิจเกษตร ธุรกิจรถไถ ธุรกิจอสังหาฯ ธุรกิจอาหารสัตว์ ธุรกิจข้าว - อาหารแปรรูป ธุรกิจสื่อสารโทรคมนาคม ธุรกิจยานยนต์ และธุรกิจโครงสร้างพื้นฐาน อีกมากกว่า 30 บริษัท เรียกได้ว่าตั้งแต่ตื่นจนตายเราก็อยู่ในระบบนิเวศของกลุ่มซีพี เหมือนที่เกาหลีใต้ก็มีระบบนิเวศของกลุ่มธุรกิจแชโบลอย่าง "ซัมซุง" ที่แทรกซึมในทุกๆ การใช้ชีวิตของคนเกาหลีใต้นั่นเอง
ถามว่าทำไม เทสโก้ ต้องขายกิจการในไทย?
สืบย้อนไปก็จะพบว่าช่วงปีก่อนหน้านี้ บริษัทแม่ของเทสโก้ มีประกาศปลดคนงานในอังกฤษ ขายธุรกิจในหลายประเทศ ไม่ว่าจะเป็น สหรัฐอเมริกา จีน ญี่ปุ่น และตุรกี เพื่อเร่งหาเงินไปจัดการหนี้สินกว่า 7 แสนล้านที่ติดตัวอยู่นั่นเอง
ส่วนผลการพิจารณาของ สำนักงานคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า ก็ได้เปิดเผยคำสั่งการผลการขออนุญาตรวมธุรกิจ ระหว่างบริษัท ซีพี รีเทล ดีเวลลอปเม้น จำกัด และบริษัทเทสโก้ สโตร์ส (ประเทศไทย) จำกัด มาแล้ว นั่นคือ “คณะกรรมการเสียงข้างมากเห็นว่า การรวมธุรกิจดังกล่าว ส่งผลให้ ซีพี และ เทสโก้ โลตัส เป็นผู้ประกอบธุรกิจที่มีอำนาจเหนือตลาดในร้านค้าปลีกสมัยใหม่สินค้าอุปโภคบริโภคประเภทร้านค้าปลีกขนาดเล็กทำให้มีอำนาจตลาดเพิ่มมากขึ้น แต่… “ไม่เป็นการผูกขาด” เพราะการรวมธุรกิจดังกล่าว มีความจำเป็นทางธุรกิจและทำให้เกิดประโยชน์ต่อการส่งเสริมการประกอบธุรกิจมากขึ้น และอาจทำให้การแข่งขันลดลง แต่ไม่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อเศรษฐกิจอย่างร้ายแรง และไม่กระทบผู้บริโภคส่วนรวม
เมื่อออกมาในรูปนี้ ย่อมต้องมีเหตุผลที่ฟังขึ้นให้สังคมด้วยเช่นกัน… ทางออกจึงเป็นการกำหนดมาตรการเพื่อลดหรือเยียวยาผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้น ห้ามทำการรวมธุรกิจกับผู้ประกอบธุรกิจรายอื่นในตลาดร้านค้าปลีกค้าส่งสมัยใหม่สินค้าอุปโภคบริโภค เป็นระยะเวลา 3 ปี แต่ยังเปิดช่องให้กับตลาดอีคอมเมิร์ซ
ข้อต่อมาคือ ซีพี ต้องเพิ่มสัดส่วนของยอดขายสินค้าที่มาจากผู้ประกอบธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ในอัตราเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาไม่น้อยกว่า 10% ต่อปี เป็นระยะเวลา 5 ปี
ห้ามมิให้ผู้ประกอบธุรกิจที่ได้รับอนุญาตใช้ข้อมูลร่วมกันหรือแลกเปลี่ยนข้อมูลด้านการตลาดที่เกี่ยวข้องกับผู้ผลิตและผู้จัดจำหน่ายสินค้าหรือวัตถุดิบ โดยให้ถือว่าเป็นความลับทางการค้า ป้องกันการแชร์ข้อมูลของลูกค้าในระบบ
นอกจากนี้ยังกำหนดว่า “โลตัส” ต้องคงไว้ซึ่งเงื่อนไขของสัญญาและข้อตกลงระหว่างผู้ผลิต ผู้จัดจำหน่ายสินค้าหรือวัตถุดิบรายเดิม ที่ได้มีการทำสัญญาหรือข้อตกลงไว้ เป็นระยะเวลา 2 ปี รวมถึงให้สินเชื่อการค้า (Credit Term) กับรายย่อยเพิ่มเป็นระยะเวลา 30 – 45 วัน นับจากวันที่ยื่นเอกสารเรียกเก็บเงิน เป็นระยะเวลา 3 ปี
ต้องรายงานผลการประกอบธุรกิจตลอดทุกไตรมาสเป็นระยะเวลา 3 ปี และสุดท้ายคือ กำหนดมาตรฐานในการปฏิบัติทางการค้าที่ดี เพื่อเผยแพร่ต่อสาธารณชน และถือปฏิบัติตามมาตรฐานดังกล่าว
ขณะที่ นายประสิทธิ์ บุญดวงประเสริฐ ประธานคณะผู้บริหาร ซีพีเอฟ ยืนยันว่า ไม่ได้เป็นการผูกขาด ด้วยผู้ประกอบการในตลาดก็มีอยู่หลายเจ้า ทั้ง แฟมิลี่มาร์ท ลอว์สัน ซีเจมาร์ท ไม่นับร้านค้าท้องถิ่นอีก
หากนำข้อมูลกันมาดูจริงๆ ว่าหลังจากคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า เปิดทางให้เกิดการควบรวมธุรกิจ แล้วจะส่งผลให้ เจ้าสัวธนินท์ ครอบครองอาณาจักรค้าปลีก - ค้าส่งได้ใหญ่โตแค่ไหน?
➡️ ธุรกิจค้าส่ง = สยามแม็คโคร
มีสาขารวมทั้งหมด 129 สาขา
➡️ ธุรกิจไฮเปอร์มาร์เก็ต = เทสโก้ โลตัส
มีสาขารวมทั้งหมด 214 สาขา / ตลาดโลตัส 179 สาขา
➡️ ธุรกิจร้านสะดวกซื้อ = เซเว่นอีเลฟเว่น
มีสาขารวมทั้งหมด 11,640 สาขา / เทสโก้ เอ็กซ์เพรส 1,574 สาขา
เท่านี้ผู้อ่านก็คงตอบมีคำตอบในใจได้แล้วว่าความจริงที่แท้ “ทรู” เป็นอย่างไร…
- 139
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
