17 พ.ย. 2020 เวลา 16:20 • นิยาย เรื่องสั้น
The Adventures of จ.Jump ตอน ดงกระสุนกราดเมือง
สวัสดีคนอ่านคนดูคนเหลือบมองทุกคนกับผมนายจั๊มพ์ครับ หลังจากบุกป่าเจอแวมไพร์กับตอนที่แล้วมาครั้งนี้ก็เสียวไส้ไม่แพ้กันเมื่อเมืองแถวชนบทในต่างประเทศเกิดการยิงถล่มยังกับเปิดศึกสงคราม และคนที่ติดอยู่ในเหตุการณ์อย่างผมจะหาวิธีรอดได้อย่างไรนั้นสามารถลุ้นหาคำตอบร่วมกันได้กับตอนที่ชื่อว่า ดงกระสุนกราดเมือง
ลำแสงของรุ่งอรุณสีทองกำลังเคลื่อนตัวจากขอบหน้าต่างตกทะลุมายังพื้นไม้ลามิเนตที่ผ่านการเหยียบย่ำมาแล้วไปกว่านับล้าน ๆ ครั้ง
ตัวผมที่สะลึมสะลือจึงต้องตื่นขึ้นเพื่อลุกไปดึงม่านกั้นไม่ให้แสงของเช้าวันใหม่ได้ฉายต่อในห้องที่กำลังนิทราเริงรมย์
ถึงจะสำเร็จภารกิจกระชากความมืดในห้องให้กลับมาเหมือนเดิมแต่ถ้าไม่ได้ทำหน้าที่ระบายของเหลวในร่างกายซักหน่อยคงหวนไปนอนต่อบนเตียงไม่ได้เป็นแน่แท้
ผมจึงจำใจต้องก้าวไปหาสุขภัณฑ์ชักของลับงัดออกมาให้พ้นเหนือขอบกางเกง
ซึ่งระหว่างปลดทุกข์ไปด้วยยืนเคลิ้มไปด้วยเสียงเปรี้ยงปร้างก็ดังระงมทำเอาน้ำสีเหลืองระบายเละขอบเลยจุดกำหนดราดไปทั่ว
ผมที่ตกใจสองเด้งเลยตาสว่างในทันที พยายามทำสิ่งที่ทำอยู่ให้ถึงที่สุดก่อนจะวิ่งออกจากห้องน้ำแล้วหันไปลอบมองทางต้นเสียงที่ดังมาจากข้างนอก
แต่ไม่ทันจะได้เหลียวมองกระจกหน้าต่างที่คิดว่าจะใช้ส่องดูก็แตกดังเพล้งแล้วตามมาด้วยเสียงกัมปนาทอีกนับไม่ถ้วน
ความผวาที่มาแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัวเล่นเอาผมต้องต้องหนีลงมาจากห้องพักหลบฉากจากไปด้วยเสื้อผ้าที่ใช้ใส่นอนเมื่อวาน
แม้จะวิ่งไปกระโดดไปเสียงเปรี้ยงปร้างยังคงตามราวีผมไปทุกหนทุกแห่ง
แม้จะย่องมาซ่อนแถวหลังบ้านคนอื่น หรือปีนไปขึ้นต้นไม้สูงกว่าสามเมตรก็ไม่แคล้วจะอยู่รอดปลอดภัย
ซึ่งจังหวะที่กำลังมองหาที่หลบภัยใหม่เสียงของใครบางคนกลับดังขึ้นกลบบริเวณโดยรอบให้เงียบสงัดคล้ายสาสน์ที่อยากส่งต่อให้คนฟังได้ยิน
ภายหลังข้อความคำพูดจบลงเสียงสรวลเสเฮฮาและเสียงเปรี้ยงปร้างยิ่งทวีคูณความรุนแรงยิ่งกว่าเดิม
เท่าที่ผมคิดได้เสียงที่ได้ยินซักครู่คงเป็นการปลุกขวัญกำลังใจอะไรซักอย่างที่ทำให้ประชาชนคนในเมืองเกิดความบ้าคลั่งไล่ยิงคนไปทั่ว
ถึงจะยังไม่เห็นปืนที่ใช้ยิงแต่ผมมั่นใจเสียงดังกล่าวต้องมาจากการประทุของดินปืนที่ถูกจุดระเบิด และเสียงที่ทำอย่างนั้นได้มีแค่ปืนพกเท่านั้น
และสิ่งที่รับประกันว่าความคิดของผมถูกต้องคือหลักฐานที่เมื่อมองลงมาจากต้นไม้เห็นเด็กหนุ่มสองคนกำลังควงปืนเล่นตั้งท่าพร้อมจะยิงอีกฝ่ายให้ดาวดิ้น
ผมอาจไม่เข้าใจสถานการณ์ของเมืองนี้อย่างถ่องแท้แต่ที่เข้าใจแน่นอนหากนักท่องเที่ยวคนต่างถิ่นถูกพบคงหมดโอกาสได้ใช้ชีวิตที่เหลือต่อ
ดังนั้นก่อนที่จะมีชาวบ้านไหวตัวทันมองเห็นคนหลบหนีอยู่บนต้นไม้ ผมควรรีบเผ่นออกจากเมืองนี้ให้เร็วที่สุดต่อให้ข้าวของกระเป๋าเงินกระเป๋าเดินทางจะยังอยู่ในห้องพักก็ตาม
ผมค่อย ๆ ปีนลงจากต้นไม้มองหาช่องทางที่เหมาะสมในการลาจากตัวเมือง แม้ทางนั้นจะไม่ใช่ที่ให้คนเดินก็เถอะ
ท้ายที่สุดหลังจากลัดเลาะผ่านทุกสิ่งกีดขวางมาอีกแค่ประมาณสองร้อยเมตรจะพ้นเมืองนรกที่อยู่นี้ซักที
กระนั้นด่านที่ยากที่สุดเห็นทีจะอยู่ที่กลุ่มวัยรุ่นตรงหัวมุมของถนนทางออก ที่ผมรอมากว่าสิบห้านาทีแล้วยังไม่เห็นวี่แววจะเดินไปไหนเลย
เพราะแบบนั้นแทนที่จะเฝ้ารอให้เวลาผ่านไปผมจึงใช้วิธีขว้างก้อนหินเบี่ยงเบนความสนใจไปที่ถังขยะใบโตใกล้ ๆ ที่กลุ่มวัยรุ่นนั่งอยู่
ด้วยความแม่นแห่งโชคชะตาก้อนหินที่ปาไปหาได้กระทบถังขยะที่พุ่งเป้าไว้ แต่ดันกระแทกโดนเสาไฟแล้วกระเด็นไปโดนรถยนต์ที่ผ่านมาแทน
ความแรงที่ตกกระทบจากการขว้างไม่หยั่งมือทำเอากระจกหน้ารถแตกพร้อมส่งเสียงหวีดร้องสนั่นหวั่นไหวไปทั่วย่าน
ถึงเป้าหมายจะผิดจากที่คาดการณ์ไปโขผมก็ฉวยโอกาสรีบจ้ำอ้าววิ่งแบบไม่คิดจะหันหลังกลับไปมอง
ทว่าเบื้องหน้าทางออกอีกสิบเมตรเด็กน้อยตัวเปี๊ยกที่ไม่รู้โผล่มาจากไหนกำลังเล็งปืนกระบอกน้อยตรงมาที่หน้าผม
และกว่าจะรู้อะไรเป็นอะไร เสียงดังเปรี้ยงจากปลายกระบอกปืนก็ดังขึ้นอย่างช้า ๆ ด้วยนิ้วน้อย ๆ ที่คาอยู่ระหว่างไกปืน
***เฉลยปม***
หลังเสียงปืนเงียบลงผมที่ถูกยิงระยะเผาขนกลับไม่เป็นอะไร หรือบางทีหากปล่อยไว้ซักพักอาจมีเลือดไหลเหมือนในหนังก็ได้
แต่เท่าที่มองดูไม่มีจุดไหนเลือดพุ่งออกมาสรุปได้ว่าผมยังอยู่รอดปลอดภัยดี
และเมื่อมองดี ๆ ผมถึงเข้าใจสาเหตุที่ยังมีชีวิตอยู่เพราะปืนที่เด็กถืออยู่เป็นแค่ของเล่นที่ทำออกมาเหมือนจริงเกิน แถมเสียงที่เกิดจากการเหนี่ยวไกยังทำได้ดีจนแยกไม่ออกว่าเป็นแค่เสียงเลียนแบบ
ระหว่างนั้นเองคำตอบของทุกเรื่องก็เผยโฉมออกมา จากมุมที่ผมอยู่ถ้ามองย้อนกลับไปด้านขวามือจะเห็นขบวนพาเหรดกำลังเดินวนอยู่รอบตัวเมือง
ซึ่งทุกครั้งที่รถขบวนผ่านไปจะมีการจุดประทัดหรือพลุเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองงานเทศกาล และคนที่อยู่ด้านหน้าสุดน่าจะเป็นนายกเทศมนตรีของเมืองนี้ที่ผมได้ยินเสียงตอนหลบอยู่บนต้นไม้
ทั้งนี้เสียงฮือฮาของผู้คนที่คิดว่าโดนสะกดจิตให้บ้าคลั่งคงเป็นแค่การกู่ร้องหลังได้ฟังคำปราศรัยจากนายกเสียมากกว่า
รวมถึงเหตุการณ์ตอนแรกที่กระจกหน้าต่างห้องพักแตกก็มาจากความตื่นเต้นของเจ้าของที่ดีใจจนเกินเหตุเมื่อเมียยอมให้หยุดงานไปเที่ยวในเมืองเลยเผลอโยนอุปกรณ์ที่กำลังถือติดมืออยู่หลุดลอยเข้ามาทางหน้าต่างห้อง
สุดท้ายในวันเทศกาลสุดแสนเปรี้ยงปร้างก็ไม่มีใครถูกสอยด้วยลูกกระสุนปืน แต่ในวันนั้นกลับมีผู้เคราะห์ร้ายถึงสามรายที่ที่มีอาการบาดเจ็บสาหัส ซึ่งสองในสามล้วนเป็นกระจกจากหน้าต่างทั้งสิ้น ยกเว้นแต่เจ้าของห้องพักที่แม้ผมจะจากเมืองนี้ไปก็ยังคงมีบาดแผลตามใบหน้าเหมือนถูกทำร้ายอยู่ทุกวัน

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา