#บอริสกร้าว
#สั่งเพิ่มงบกองทัพสวนกระแสCovid
วันนี้ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ นายบอริส จอห์นสัน ได้ประกาศนโยบายใหม่ในที่ประชุมสภาว่า เขาต้องการที่จะอัดฉีดงบประมาณให้กับกองทัพอังกฤษเพิ่มอีกกว่า 16,500 ล้านปอนด์ หรือมากกว่า 6.6 แสนล้านบ้าน เพื่อปรับปรุงยุทโธปกรณ์ยกชุด ให้ทันสมัยยิ่งกว่าเดิม เพื่อสอดรับกับนโยบาย Brexit ที่อังกฤษจะต้องออกจากการเป็นสมาชิก EU อย่างสมบูรณ์ภายในสิ้นปีนี้
โดยปกติแล้วกองทัพอังกฤษจะได้งบจากรัฐบาลราวๆ 42,000 ล้านปอนด์ (ประมาณ 1.68 ล้านล้านบาท) แต่บอริสจะเพิ่มงบให้อีก 16,500 ล้านปอนด์ ในอีกไม่เกิน 4 ปีข้างหน้า ซึ่งการเพิ่มงบทหารของบอริสในครั้งนี้ จะเป็นการอัดฉีดงบที่มากที่สุดตั้งแต่เคยมีมานับจากช่วงสงครามเย็นเลยทีเดียว
ซึ่ง บอริส จอห์นสันได้กล่าวว่า หลังจากที่ Brexit แล้ว อังกฤษจะต้องเป็นประเทศที่มีบทบาทสำคัญในเวทีโลกมากขึ้น ที่จะต้องพร้อมทั้งบู้ ทั้งบุ๋น ต่อจากนี้อังกฤษจะเป็นฝ่ายที่ยืนแถวหน้า หมดยุคที่จะถอยอีกต่อไปแล้ว
ซึ่งงบทหารที่เพิ่มเข้ามานี้ บอริสแจงว่า เขาตั้งใจที่จะใช้ซื้ออาวุธปืนเลเซอร์รุ่นใหม่ แทนอาวุธเก่าใช้กระสุนที่ล้าสมัย ยิงๆไป อ้าว กระสุนหมด ขาดความคล่องตัว เล็งยิงก็ยาก การพลาดเป้าก็สูง
นอกจากจะอัพเกรดคลังแสงในกองทัพแล้ว ก็จะพัฒนาเทคโนโลยีด้านการทหารใหม่ทั้งหมด มีการใช้ระบบ AI และอากาศยานโจมตีไร้คนขับ ที่จะทำให้อังกฤษเป็นกองทัพที่ทันสมัย น่าเกรงขาม
มีอยู่สิ่งหนึ่งที่น่าสนใจในถ้อยแถลงของนายบอริส จอห์นสัน คือ เขาได้เอ่ยถึงเรือ HMS Queen Elizabeth ซึ่งเป็นเรือบรรทุกเครื่องบินรบลำใหญ่ที่สุดของอักฤษ ตอนนี้พร้อมแล้วที่จะออกปฏิบัติภารกิจในปีหน้า โดยมีเป้าหมายที่ย่านเอเชียตะวันออก ตามการท้าทายของจีน ซึ่งเป็นเรื่องที่อังกฤษควรจะทำมาหลายปีแล้ว
นอกจากนี้ นายบอริส จอห์นสันยังบอกอีกว่า เขายังวางแผนที่จะส่งกองเรือรบ เข้าไปประจำในอีกหลายจุด ที่เป็นเส้นทางขนส่งสินค้าที่สำคัญของอังกฤษ
พอฟังถึงตรงนี้ ชาวอังกฤษบางส่วนถึงขั้นกรี๊ด....
บอริสสส..ทำไมอยู่ดีๆถึงห้าวเป้งปานนี้ ราวกับกินยาผิดขนาด
ทั้งๆที่อังกฤษยังมีปัญหาหนักเรื่อง Covid-19 อยู่เลย ยังเอางบประมาณแผ่นดินอัดฉีดงบทหารเพิ่ม จะไหวเหรอ
แต่บอริสก็ยังย้ำคำชัด ว่าจัดแน่ ถึงแม้ว่าเรื่อง Covid ยังบีบหัวใจ แต่ไม่มีเรื่องไหนสำคัญเท่ากับการปกป้องดินแดนของเรา และช่วงนี้ มีสถานการณ์ตึงเครียดในพื้นที่ต่างประเทศมากมาย อังกฤษจำเป็นต้องแสดงบทบาท ที่สามารถต่อสู้เคียงข้างพันธมิตรของเราได้ ดังนั้น การอัพเกรดอุปกรณ์ทหารของเราก็สำคัญ เวลาออกสนามรบจะได้ไม่น้อยหน้าเขา
อังกฤษเป็นประเทศที่มีการจัดสรรงบทหารสูงอยู่แล้ว และหากเพิ่มงบตามแผนการของบอริสอีก ก็จะทำให้อังกฤษกลายเป็นชาติที่ใช้งบประมาณในกองทัพสูงสุดเป็นอันดับ 2 ในกลุ่มชาติพันธมิตร NATO เป็นรองแค่เพียงชาติเดียว นั่นก็คือ สหรัฐอเมริกา
ก็น่าสนใจว่า หลังจาก Brexit แล้ว อังกฤษจะมี
นโยบายด้านการทหารในต่างประเทศอย่างไร โดยเฉพาะเขตที่เปราะบางที่สุดอย่างย่านทะเลจีนใต้ และความห้าวของบอริส จอห์นสัน จะเปลี่ยนบทบาทของอังกฤษอย่างไร ต้องมาจับตากันค่ะ
แหล่งข้อมูล
- 5
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
