22 พ.ย. 2020 เวลา 13:12 • ความคิดเห็น
ขอเล่าเรื่องผี ที่ไม่ใช่แค่เรื่องคนที่ตายไปแล้ว เป็นการระลึกถึงความเชื่อและสิ่งที่เกิดขึ้นในใจของคนเรา เมื่อรู้ว่านั้นอาจเป็นเรื่องจริงหรือแค่เรื่องเล่า (ถ้าไม่เชื่อเรื่องวิญญาณโปรดเลยผ่านไป)
เรื่องนี้เป็นเรื่องเล่าที่เกิดขึ้นจริง คนที่ตายไปแล้วและเชื่อว่ายังมาปรากฏกายให้คนเห็น กลายเป็นเรื่องค้านความรู้สึก โปรดใช้วิจารณญาณในการตัดสิน
1
เมื่อหลายปีมาแล้ว ตึกที่ทำงานเป็นตึกเก่ามาก เป็นโครงสร้างของตึกโบราณที่ซอยออกเป็นยูนิตเพื่อใช้เป็นอาคารรับผู้ป่วยหลายแผนก
1
ชั้นล่างสุดด้านในเป็นส่วนที่ดูแลคนไข้หนัก แบ่งเป็นห้องแยก1ห้องมี1เตียง และด้านในห้องใหญ่กว่ามีอีก 4 เตียง
ห้องแยกเป็นห้องที่มีปัญหา ตลอดเพราะคนป่วยที่มานอนพัก จะรู้สึกวังเวงเพราะ ส่วนที่เป็นเคาน์เตอร์ให้การพยาบาลก็อยู่ด้านใน มีเพียง
กระจกที่มองจากด้านในเป็นช่องสี่เหลี่ยมให้ไว้สังเกตดูเท่านั้น เวลาจะเข้าไป ต้องเข้าทางประตูด้านหน้าได้เพียงด้านเดียว
แต่เดิมพยาบาลที่ขึ้นปฏิบัติงาน จะมีเพียง 2 คนเท่านั้นแม้จะเป็นหออภิบาลผู้ป่วยหนัก แต่การแบ่งอัตรากำลังยังไม่ได้รับการ จัดสรรให้
ตามภาวะที่ควรจะเป็น คือผู้ป่วยวิกฤตหรือว่าผู้ป่วยทั่วไป(ช่วงหลังนำ
มาพิจารณาแยกแล้ว)
ช่วงปลายเดือนพฤศจิกา ลมหนาวมาแล้ว วันนี้เวรดึกมีพยาบาลขึ้นทำงานสองคน หลังการรับส่งเวรก็จะแยกกันไปทำหน้าที่ก่อนอื่น
ก็คือเข้าไปเยี่ยมผู้ป่วยที่ได้รับมอบหมาย ทุกคนต้องสวมหมวกเก็บผม
ให้เรียบร้อยผมของฉันสั้นๆ ทำให้รวบใส่หมวกได้ง่าย พวกเราส่วนใหญ่จะตัดผมเพราะถ้าผมยาวมักจะถุกดุถ้าไม่รวบจนตึง ผมจะลุ่ยลงมา
ไม่เรียบร้อยเสมอ
มีพี่ไม่กี่คนที่ชอบไว้ผมยาว พี่เหล่านั้นจะอยู่เวรเช้ากันเป็นส่วนใหญ่
วันนี้คนป่วยที่นอนห้องแยก เป็นชายสูงวัยแล้ว ท่านหลับสนิทช่วงเที่ยงคืน หลังจากเช็คมอนิเตอร์ต่างๆ เราปล่อยให้ท่านได้พักผ่อน เพราะส่วนใหญ่แต่ละท่านจะได้ยาคลายเครียดเพื่อให้ได้หลับพักผ่อนช่วงกลางคืน พวกเราจะรวบไปวัดสัญญาณชีพทุกอย่างช่วงใกล้ตี 2 แทน เพื่อคนป่วยจะได้หลับสนิท
ประมาณตีสามเสียงโทรศัพท์ที่เคาน์เตอร์กลางดังขึ้น เสียงพี่ผู้ตรวจการที่ฉันรู้จักดี ส่งเสียงดุมาตามสาย เรียกให้ไปตามพี่ที่ขึ้นเวรด้วยกันมารับสาย ฉันตามพี่มารับสายเสียงพี่ผู้ตรวจการแว่วมาพอได้ยินว่า กำลังตำหนิพี่ ที่แต่งตัวไม่เรียบร้อยปล่อยผมสยาย ไปให้การพยาบาลผู้ป่วยที่ห้องแยก เสียงพี่พยาบาลที่ตอบกลับไปด้วยเสียงสูงว่าไม่ใช่หนูค่ะ หนูใส่หมวกเรียบร้อยแล้วก็ไม่ได้ผมยาวด้วย
1
เสียงพี่ผู้ตรวจการยืนยันว่าเขาเห็นกับตายังจะมาบอกว่าไม่ใช่ เพราะทางเดินลงจากชั้น2 ของอาคารใกล้เคียงที่เป็นห้องพักเวร ของพี่ที่เข้าเวรผู้ตรวจการช่วงกลางคืนใช้ห้องนั้น และถ้าเข้าออกจะสามารถมองทะลุลงมาที่ห้องแยกได้ แต่คนทั่วไปจะไม่ใช้เส้นทางนี้ยกเว้นพวกพี่ผู้ตรวจการเท่านั้น คืนนี้พี่เขาเดินคู่จึงเห็นพร้อมกันว่ามีพยาบาลที่ผมยาวยืนทำการพยาบาลและปล่อยผมสยายด้วย
เราสองคนแจ้งพี่ไปว่าให้พี่ลงมาตรวจสอบเพื่อยืนยันว่า เราสองคนไม่ได้โกหกหรือปิดบัง พี่เดินลงมาด้วยหน้าตาตื่นๆ และไม่มาคนเดียวมากับเพื่อนที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมด
เมื่อพี่เข้ามาเราไหว้สวัสดี และถอดหมวกให้ตรวจสอบว่าเราสองคนนั้นผมสั้นทั้งคู่ และก็ไม่ชอบที่จะถอดหมวกเวลาทำงานด้วย
1
ผู้ตรวจการทั้งสองคนนั่งนิ่ง มีท่าทางอึกอัก เพราะทั้งคู่ มีความตั้งใจ
จะมาจัดการน้องที่ไม่ปฏิบัติตัวตามระเบียบ เพราต่างก็เห็นพยาบาลที่กำลังปรับน้ำเกลือให้ผู้ป่วยที่ห้องแยก อีกทั้งจดจำใบหน้าและผมที่ปล่อยสยายนั้นได้ชัดเจน
เราทั้ง 4 คนตัดสินใจเข้าไปพิสูจน์ที่ห้องแยกกันทั้งหมด เราเดินเกาะกลุ่มเข้าไป โดยพี่กับฉันนำหน้า เวลานั้นนาฬิกาที่ผนังบอกเวลา ตีสามสิบห้านาที
คุณลุงที่นอนพักท่านลืมตาตื่น เอยทักพวกเราขึ้นว่า วันนี้คึกคักกันนะ
มาพร้อมๆกัน 4คนเลย เมื่อกี้หนูคนสวยๆผมยาวๆก็เพิ่งออกไป เป็นโรงพยาบาลที่ดีนะ กลางคืนพยาบาลก็ขึ้นเวรกันหลายคน คนไข้ก็อุ่นใจ
ฉันจิกเล็บลงที่มือพี่เพราะกำมือพี่ไว้แน่น ก่อนที่พวกเราจะทักทายและบอกให้คุณลุงพักผ่อนต่อ พร้อมห่มผ้าให้คุณลุงอย่างมิดชิด เนื่องจากบ่นว่าวันี้อากาศเย็นทั้งที่ไม่ได้เปิดแอร์
พวกเราค่อยๆเดินเกาะกลุ่มกันมาช้าๆ เมื่อก้าวพ้นห้องแยกพี่ที่เป็นคู่เวรกับฉันลากฉันดิ่งแซงหน้าผู้ตรวจการอย่างไม่เกรงใจ และผู้ตรวจการก็ไม่รอช้าพุ่งพรวดไปออกันที่หน้าหิ้งพระ ก่อนที่พี่คู่เวรของฉันจะพูดขึ้นว่า
" พี่ดาวมาอีกแล้ว "
พี่ดาวเป็นใคร และทำไมต้องมาทำงานตอนเวรดึกช่วงตีสาม ติดตามและกดไลค์ไว้เยอะๆนะ จะกลับมาเล่าต่อ
รักผู้ติดตามทุกคน ขอพระคุ้มครองให้ทุกท่านมีความสุข 🙏❤
ขอบคุณภาพจาก
x-files tenee.com
line me today
โฆษณา