ด่วน !! ไทยมีความหวังจะได้ฉีดวัคซีนโควิดเร็ววันนี้ เพราะ AstraZeneca ประกาศความสำเร็จวัคซีนป้องกันได้ถึง 70% แต่ราคาถูก และเก็บรักษาง่ายกว่า
มีรายงานจากบริษัท AstraZeneca บริษัทวัคซีนรายใหญ่ของอังกฤษซึ่งร่วมมือกับมหาวิทยาลัย Oxford ได้ประกาศความสำเร็จเบื้องต้นของวัคซีนโควิด ที่ป้องกันโรคได้ 70%
เมื่อเปรียบเทียบกับของบริษัท Pfizer และ Moderna ของสหรัฐ ซึ่งป้องกันได้ถึง 95% จะดูเหมือนความสามารถของ Astra จะต่ำกว่า
อย่างไรก็ตาม การที่วัคซีนป้องกันได้ 50% ขึ้นไป
ก็ถือว่าใช้ได้แล้ว และวัคซีนของบริษัท Astra ยังมีข้อดีที่เหนือกว่าอีกสองประการได้แก่
หนึ่ง ราคาถูกกว่า คือ ราคาเพียง 3 ปอนด์หรือ 120 บาท เมื่อเทียบกับของไฟเซอร์ที่ 15 ปอนด์หรือ 600 บาท และโมเดิร์นนาที่ 25 ปอนด์หรือ 1000 บาท
สอง การดูแลรักษาวัคซีนง่ายและสะดวกกว่า เพราะเก็บที่อุณหภูมิตู้เย็นธรรมดา 2-8 องศาเซลเซียส ได้นานถึง 6 เดือน ในขณะที่วัคซีนของสองบริษัทสหรัฐอเมริกาต้องเก็บในตู้เย็นที่อุณหภูมิติดลบ ทำให้การกระจายวัคซีนทำได้ลำบากกว่ามาก
ขณะนี้รัฐบาลอังกฤษ ได้สั่งจองวัคซีนดังกล่าวไว้ 100 ล้านเข็ม เพียงพอสำหรับฉีด 50 ล้านคน ขณะนี้บริษัทมีวัคซีนในมือแล้ว 4 ล้านเข็ม
ส่วนของไทยในเบื้องต้น ได้รับสิทธิ์การผลิตวัคซีนจำนวน 26 ล้านเข็ม เพียงพอสำหรับฉีด 13 ล้านคนกลุ่มเสี่ยง คิดเป็นร้อยละ 20
นายกรัฐมนตรี Boris Johnson แถลงว่าเป็นข่าวดีและน่าตื่นเต้นมาก ที่ทางมหาวิทยาลัย Oxford ร่วมกับบริษัทเเอสต้าสามารถคิดพัฒนาวัคซีนได้สำเร็จ แม้ยังจะต้องทำการตรวจดูเรื่องความปลอดภัยเพิ่มเติม
การเร่งพัฒนาวัคซีนซึ่งปกติต้องใช้เวลาถึง 10 ปี
แต่สามารถทำสำเร็จภายใน 10 เดือน ถือว่าเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่มาก
รายละเอียดเกี่ยวกับวัคซีนนั้นพบว่า
ในกลุ่มที่ฉีดวัคซีนขนาดสูงทั้งสองเข็ม ห่างกันหนึ่งเดือน มีประสิทธิภาพในการป้องกันได้ 62%
เป็นกลุ่มตัวอย่างในบราซิล 10,300 คน
ส่วนอีกกลุ่มตัวอย่าง 12,390 คนในอังกฤษ ฉีดวัคซีนขนาดต่ำในเข็มแรก และสี่สัปดาห์ต่อมาฉีดวัคซีนขนาดสูงเป็นเข็มที่ 2 พบว่าประสิทธิภาพในการป้องกันโรคสูงถึง 90%
เมื่อนำสองกลุ่มมารวมกัน ได้ค่าเฉลี่ยของการป้องกันโรคที่ 70%
โดยกลุ่มตัวอย่างจำนวน 23,000 คน พบว่ามีผู้ติดเชื้อจำนวน 131 ราย เป็นกลุ่มที่ฉีดวัคซีน 30 รายและไม่ได้ฉีดวัคซีน 101 ราย คิดเป็นประสิทธิภาพในการป้องกันโรคได้ 70%
ไม่มีใครในกลุ่มที่ติดเชื้อดังกล่าว ที่มีอาการรุนแรงหรือต้องนอนโรงพยาบาลแต่อย่างใด
คณะกรรมการอิสระในการตรวจสอบและติดตามเป็นผู้ที่ประเมินตัวเลขและข้อมูลต่างๆทั้งหมด
รายงานข่าวแจ้งต่อไปว่า ทางบริษัทจะเร่งดำเนินการยื่นขอจดทะเบียนเพื่อใช้ในสถานการณ์ฉุกเฉิน(EUA)กับองค์การอนามัยโลกและประเทศต่างๆทั่วโลก
โดยความสามารถที่จะผลิตวัคซีนของบริษัทอยู่ระดับพันล้านเข็มในปี2564
บริษัทเคยประกาศโยบายชัดเจนเรื่องการไม่หวังผลกำไร(No-profit) จากการผลิตวัคซีนนี้
วัคซีนของบริษัท AstraZeneca ที่พัฒนาร่วมกับมหาลัย Oxford จึงเป็นความหวังของชาวโลก โดยเฉพาะประเทศกำลังพัฒนาที่ไม่ร่ำรวย
เทคนิคของวัคซีนที่ชื่อ AZD 1222 เป็นการใช้ไวรัสของลิงชิมแปนซีเป็นพาหะ(Viral Vector) ซึ่งจะทำให้เกิดการสร้างส่วนโปรตีนที่เป็นหนาม(Spike-protein) และกระตุ้นให้ร่างกายสร้างภูมิต้านทานเพื่อต่อสู้กับโควิด-19 ต่อไป
เป็นข่าวดีลำดับที่สามของโลกเรา ที่มีวัคซีนที่มีประสิทธิภาพป้องกันโรคได้มากกว่า 50%
คงรอข่าวดีจากบริษัทในประเทศจีนอีกสามวัคซีน และในสหรัฐอเมริกาสองวัคซีน รัสเซียหนึ่งวัคซีนแคนาดาหนึ่งวัคซีน และอินเดียอีกหนึ่งวัคซีน
ทั้งหมดรวมกันภายในปีหน้า อาจจะมีวัคซีนฉีดให้ประชากรโลกนับพันล้านคน แต่ประชากรส่วนใหญ่ในประเทศที่ยากจนกำลังพัฒนาจะได้รับผลเต็มที่จากวัคซีนของบริษัทแอสต้า เพราะราคาถูก ไม่หวังผลกำไร และขนส่งไปฉีดตามที่ต่างๆได้ง่ายและสะดวกกว่า
สำหรับประเทศไทย ก็ต้องถือเป็นข่าวดีอย่างมากเพราะเราได้ทำความตกลงกับทางบริษัทแอสตร้าไว้แล้ว เมื่อวัคซีนของแอสตร้าประสบความสำเร็จ ก็จะทำให้ประเทศไทยเรามีโอกาสได้ใช้วัคซีนนี้ภายในปี 2564 ด้วยครับ
Reference
- 154
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
