25 พ.ย. 2020 เวลา 02:40 • ธุรกิจ
เจ้าของ Agoda เลิกจ้างพนักงาน 1 ใน 4
ถ้าหากวันหนึ่ง เพื่อนร่วมงานของเราทุกๆ 4 คน จะต้องถูกเลิกจ้าง 1 คน
เราจะรู้สึกอย่างไร?
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นจริงกับบริษัท Booking Holdings ที่เป็นเจ้าของ Agoda แพลตฟอร์มจองโรงแรมและที่พักที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย
เรื่องดังกล่าวกำลังเกิดขึ้นแล้วกับหลายบริษัทที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับการจองโรงแรมและที่พัก
ที่ต้องเผชิญกับมรสุมวิกฤติโรคระบาดโควิด 19
แล้วสถานการณ์ในตอนนี้เป็นอย่างไร?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
โควิด 19 คือตัวการสำคัญ ที่ทำให้ธุรกิจเกี่ยวกับการจองที่พัก โรงแรม ได้รับผลกระทบหนักจากการไม่ออกเดินทางของคนทั่วโลก
มีการคาดการณ์กันว่า ยอดการจองที่พักและโรงแรมทั่วโลกในปีนี้จะหายไปมากถึง 42% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา
เรื่องที่เกิดขึ้นนี้ นอกจากจะส่งผลกระทบกับเจ้าของที่พักทั่วโลกแล้ว
อีกหนึ่งธุรกิจที่กระทบหนักไม่แพ้กัน คือ เจ้าของแพลตฟอร์มจองโรงแรมและที่พัก
หนึ่งในนั้นก็คือ “Booking Holdings ” ที่เป็นเจ้าของแพลตฟอร์ม Agoda
Cr. Agoda
ก่อนหน้านี้ บริษัท Booking Holdings มีอัตราการเติบโตของรายได้เฉลี่ย 10% ต่อปี ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา
แต่พอเกิดการระบาดของโรคโควิด 19 ได้ขึ้น
รายได้ของ Booking Holdings ได้หายไปแล้วกว่า 40% ในช่วง 12 เดือนล่าสุด
ผลกระทบที่เกิดขึ้น ทำให้ในช่วงเดือนมีนาคม ราคาหุ้นของ Booking Holdings ก็ได้ปรับตัวลดลงจากจุดสูงสุดในช่วงต้นปี ถึงเกือบ 44% ซึ่งคิดเป็นมูลค่ากว่า 1.1 ล้านล้านบาท
1
แล้ว Booking Holdings ทำอย่างไร ภายใต้สถานการณ์ที่มีแต่ความไม่แน่นอน
สิ่งที่ Booking Holdings ตัดสินใจทำทันทีก็คือการลดค่าใช้จ่ายโดยรวมของบริษัท
ซึ่งหลักๆ แล้ว แบ่งออกเป็น
1. ลดเงินเดือนพนักงานอาวุโสลง 20% ในช่วงกลางปีที่ผ่านมานี้
2. ปลดพนักงาน 25% ทั่วโลก
โดยก่อนหน้าจะเกิดวิกฤติขึ้น Booking Holdings มีพนักงานทั่วโลกมากกว่า 17,000 คน
นั่นจึงหมายความว่า มีพนักงานกว่า 4,250 คน ที่ต้องตกงานทันที
สำหรับ Agoda ที่เป็นแบรนด์ในเครือ ก็มีการลดพนักงานไปแล้วกว่า 1,500 คน ในช่วงเดือนพฤษภาคม และสิงหาคมที่ผ่านมา เช่นกัน
ถึงแม้ว่าในขณะนี้ Agoda จะเริ่มมีการเปิดรับพนักงานในช่วงไตรมาสที่ 4 เพิ่มกลับขึ้นมา แต่ก็ยังน้อยกว่าช่วงที่ปลดออกไปอยู่มาก
วิกฤติครั้งนี้ เลวร้ายถึงกระทั่งหัวเรือใหญ่ของ Agoda ในประเทศไทย อย่างคุณ John Brown ออกมากล่าวว่า “นี่เป็นวิกฤติที่หนักที่สุดในประวัติการณ์เท่าที่ผมเคยทำงานมา และผมไม่เคยเห็นเพื่อนร่วมงานที่ต้องออกจากงาน มีจำนวนเยอะขนาดนี้มาก่อน”
Cr. Travel Daily Media
อย่างไรก็ตาม ภาพรวมของธุรกิจท่องเที่ยวในหลายๆ ประเทศทั่วโลก ก็เริ่มจะฟื้นตัวได้ดีขึ้นในช่วงที่ผ่านมา
อีกทั้งเมื่อไม่นานมานี้ ก็เริ่มมีข่าวดีจากบริษัทที่คิดค้นวัคซีนอย่าง Pfizer และ Moderna ที่ต่างได้ออกมาประกาศว่าวัคซีนที่กำลังพัฒนาให้ผลอันเป็นที่น่าพอใจ
เรื่องดังกล่าวทำให้ภาพรวมของตลาดทุนกลับมาคึกคักอีกครั้ง โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจที่ได้รับผลกระทบหนักจากการไม่ออกเดินทางของคนอย่างเช่น Booking Holdings
ซึ่งราคาหุ้นของ Booking Holdings ก็สะท้อนความคาดหวังดังกล่าว และได้ปรับตัวเพิ่มขึ้น จนสูงกว่าช่วงก่อนเกิดการระบาดของโควิด 19 ไปแล้ว
แต่นั่นก็อาจจะเป็นเพียงอารมณ์ของนักลงทุน
ที่ได้สะท้อนไปยังตลาดหุ้นว่าผู้คนทั่วโลกกำลังจะได้รับวัคซีนเร็วๆ นี้
แต่ถ้าลองมาดูในความเป็นจริง
ถ้าเราไปถามคนที่ทำธุรกิจโรงแรม
ว่าหลังจากมีข่าวดีเรื่องวัคซีนออกมา
ยอดจองหรือยอดการเข้าพักกลับมาเหมือนก่อนโควิด 19 หรือไม่
เราก็น่าจะได้คำตอบว่า “ยังไม่เหมือนเดิม”
เพราะกว่าที่ทุกอย่างจะกลับมาเป็นเหมือนเดิม
ก็คงต้องรอให้ทุกอย่างคลี่คลาย จนทั่วโลกรวมถึงประเทศไทย
กลับมาเปิดรับนักท่องเที่ยวได้เหมือนเดิมอีกครั้ง
และกว่าจะถึงวันนั้น ก็ไม่แน่ใจว่า เพื่อนร่วมงานในอุตสาหกรรมนี้ จะอยู่ถึงวันนั้นหรือไม่..
โฆษณา