24 พ.ย. 2020 เวลา 12:47 • สุขภาพ
โลกของจิตใจ
เมื่อเห็นว่าการได้ทำอะไรตามใจนั่นคือดี ไม่ชอบการแลกเปลี่ยนความคิดหรือถูกก้าวก่าย สุดท้ายก็จะจบลงที่กลายเป็นคนบ้าคือ มีชีวิตอยู่ในโลกของตัวเอง ซึ่งแท้จริงไม่ได้ต่างจากเด็กติดเกมส์เลย รากความคิดเดียวกัน
แต่มันเป็นโลกที่ไม่ใช่ความจริง มันดำเนินอยู่ไม่ได้ มนุษย์ต้องดำเนินอยู่ด้วยการพึ่งพิงกันและกัน เพราะมนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่ขาดไม่สมประกอบเหมือนคนพิการ สมบูรณ์ไม่ได้ในตัวเอง ถ้าเป็นผู้ใหญ่ก็ควรเข้าใจกับความจริงเหล่านี้
มนุษย์ทุกคนเป็นครอบครัวเดียวกันคือคริสตจักร มีพระเจ้าพระเยซูเป็นพ่อแม่ ทุกคนเป็นพี่น้องกัน ของประทานความสามารถพระเจ้าให้แตกต่างกันไปเพื่อเสริมสร้างกันและกัน แต่คนมากมายก็กำลังอยู่ในสถานะแยกตัวเอง อยู่แต่กับคนที่คิดคล้ายๆตัวเองเท่านั้น มีบ้านมีกลุ่มของตัวเองแยกต่างหากจากคริสตจักรของพระเจ้า
พระเยซูก็มายังโลกเพื่อตายไถ่บาปที่อาดัมก่อขึ้น จนเป็นเหตุให้นำมาซึ่งการแตกแยกของมนุษย์ออกจากพระเจ้า มนุษย์เลิกเชื่อพระเจ้า(พระคำ)​แต่หันไปเชื่อมารซาตานแทน(ความคิด)
ตอนนี้ในโลกมนุษย์ก็เลยมีหลายกลุ่ม เหมือนเม็ดทรายที่กระจัดกระจาย แต่พระเจ้าก็ยกโทษให้ผ่านการตายของพระเยซูแล้ว มนุษย์สามารถกลับไปหาพระเจ้าได้แล้ว และประกาศความจริงเหล่านี้ด้วยพระคัมภีร์ไบเบิ้ลผ่านทางบรรดาผู้ที่เชื่อหรือคริสเตียน ความจริงหรือข่าวประเสริฐนี้จึงเหมือนน้ำที่สามารถช่วยประสานเม็ดทรายให้กลับกลายมาเป็นดินก้อนเดียวกัน
มนุษย์ทุกคนซึ่งตลอดมาแบ่งแยกกันเพราะต่างมีธรรมบัญญัติหรือกฏของตัวเอง มาบัดนี้ได้ถือเป็นโมฆะแล้วเพราะมันเป็นกฏที่มีแต่ฆ่าทำลายมนุษย์ถ้ายังขืนใช้ต่อไป มันไม่ได้ช่วยชีวิตแต่กำลังทำลายชีวิตทั้งตัวเองและผู้อื่น
"กลับมาหาพระเจ้า" คือทางรอดเดียวเท่านั้นสำหรับมนุษย์ที่พระเจ้าได้จัดเตรียมเอาไว้ให้ ผ่านทางพระคัมภีร์ไบเบิ้ลพระเจ้าได้เปิดเผยความจริงของเสียงที่กำลังจูงนำชีวิตของทุกคน ระหว่างเสียงของพระเจ้าที่กำลังนำไปสู่ชีวิต กับเสียงของมารซาตานที่กำลังนำไปสู่ความตาย
เสียงของพระเจ้านำไปสู่การเป็นหนึ่งเดียวกันด้วยการทิ้งความคิดเชื่อพระคัมภีร์ไบเบิ้ล มารซาตานจึงใช้ศาสนาหรือธรรมบัญญัติเป็นเครื่องมือหลอกให้คนมุ่งเป็นหนึ่งเดียวกัน เพราะศาสนาไม่สามารถทำให้มนุษย์กลายมาเป็นหนึ่งเดียวกันได้ ตรงกันข้ามศาสนากลับกำลังส่งเสริมการแตกแยกของมนุษย์
เพราะศาสนาเป็นกฏข้อบัญญัติต่างๆ ให้มนุษย์ประพฤติถือปฏิบัติตาม ซึ่งแท้จริงมนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่โดยธรรมชาติทำตามกฏที่ว่าเหล่านั้นไม่ได้ เพราะธรรมชาติมนุษย์ไม่ได้ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อให้ทำเช่นนั้น แต่ถูกพระเจ้าสร้างขึ้นมาเพื่อให้ดำเนินอยู่ได้โดยการเชื่อวางใจพระเจ้าเท่านั้น แต่มารซาตานต่างหากที่กำลังล่อลวงให้ผู้คนพยายามที่จะมีชีวิตอยู่ด้วยธรรมบัญญัติศาสนา
ตอนนี้กับคนที่กำลังพยายามใช้ศาสนาเพื่อสร้างความเป็นหนึ่งเดียวกันก็จะไม่มีทางเกิดขึ้นเป็นจริงได้ เหมือนคนที่กำลังพยายามจะรวบรวมเม็ดทรายให้เป็นก้อนๆเดียว มันเป็นไปไม่ได้นอกเสียจากว่าต้องมีน้ำ ซึ่งพระเจ้าก็กำลังใช้พระเยซูกับพระคำทำหน้าที่ตรงนี้อยู่
เรื่องของพระเยซูกับพระคำจึงไม่ใช่เรื่องหลักของการประพฤติแบบธรรมบัญญัติหรือศาสนาทั่วไป แต่เป็นเรื่องหลักของความเชื่อเท่านั้น
ตอนนี้ผมเองก็ได้กลับเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของคริสตจักรครอบครัวของพระเจ้าแล้ว แต่ยังปรับตัวไม่ได้ดีนัก ยังแปลกแยกอยู่ ใช้ชีวิตอยู่กับตัวเองมานานจนชิน พอจะต้องใช้ชีวิตแบบก้่าวไปพร้อมๆกันกับครอบครัวของพระเจ้าก็ไม่ง่าย ก็กำลังถูกฝึกอยู่ ตอนแรกเข้ามาก็คิดว่าน่าจะง่าย เอาเข้าจริงๆก็ไม่ง่ายเลย แม้อยู่มาก็สิบสองปีแล้ว ถ้าเป็นนักฟุตบอลก็ยังทำผิดกฏกติกาอยู่บ่อยๆ
ความกังวลเกี่ยวกับเรื่องปากท้อง เรื่องความรับผิดชอบของพระเจ้าและลาภยศสรรเสริญของโลก ก็เป็นสิ่งที่มารซาตานกำลังใช้ใส่เข้ามาในความคิด เพื่อดึงผมกลับออกไปใช้ชีวิตแบบเดิมดีกว่าคืออิสรตามใจ คือพยายามจะทำให้เชื่อไม่ได้ว่าพระเจ้าจะสามารถดูแลรับผิดชอบกับชีวิตของตัวเองได้จริงๆ
แต่พอย้อนกลับมาดูตัวเอง มันสามารถจะดูแลรับผิดชอบกับชีวิตตัวเองได้จริงๆเหรอ? ก็ไม่สามารถจะมั่นใจได้อีก ยิิ่งถ้ามองพระคำก็ฟันธงให้เลยว่ามนุษย์ไม่สามารถจะรับผิดชอบกับชีวิตของตัวเองได้ มีแต่การสาปแช่งเท่านั้นที่จะเข้ามาสำหรับคนที่พยายามจะทำให้ได้ และพระคัมภีร์ไบเบิ้ลถ้าหากได้ลงลึกกับแต่ละเรื่องที่เขียนไว้ มันปฏิเสธไม่ได้เลยว่านั่นไม่ใช่ความจริงกับจิตใจแท้จริงของมนุษย์ พระคัมภีร์ไบเบิ้ลเจาะลึกเข้าไปได้ถึงขนาดนั้น ถ้ามนุษย์แต่งขึ้นจะสามารถเข้าไปรู้ถึงโลกของจิตใจคนเราขนาดนั้นได้ยังไง? เหมือนกระจกส่องทะลุเข้าไปถึงโลกของจิตใจ
ตอนนี้ผมก็เลยได้แต่รอคอยครับ ก็นึกถึงพระคำอิสยาห์40. "พระองค์ประทานกำลังแก่คนอ่อนเปลี้ย และแก่ผู้ที่ไม่มีกำลัง พระองค์ทรงเพิ่มแรง  แม้คนหนุ่มๆจะอ่อนเปลี้ยและเหน็ดเหนื่อย และชายฉกรรจ์จะล้มลงทีเดียว  แต่เขาทั้งหลายผู้รอคอยพระเจ้าจะเสริมเรี่ยวแรงใหม่ เขาจะบินขึ้นด้วยปีกเหมือนนกอินทรี เขาจะวิ่งและไม่เหน็ดเหนื่อย เขาจะเดินและไม่อ่อนเปลี้ย"
อิสยาห์ 40:29‭-‬31 TH1971
เพราะถูกอาจารย์ไล่ออกมาให้อยู่คนเดียวครับ ก็พยายามจะช่วยผมอยู่ ปัญหาผมก็อย่างที่อธิบายไปแล้วครับ มันทิ้งตัวเองไม่ได้ครับ มันเป็นรากปัญหาใหญ่ของคนเรา มันชินไปแล้วกับการใช้ชีวิตแบบเชื่อมั่นตัวเอง อาจารย์ก็อดทนมากกับการฝึกแต่ละคนในคริสตจักร เพื่อให้สามารถออกจากตัวเองได้ ถ้าเป็นครูฝึกปกติทั่วไปคงไม่มีใครที่จะอดทนรอได้ถึงสิบสองปีแบบนี้นะผมว่า ไม่มีเงินค่าจ้างจะจ่ายด้วย มีแต่มาเป็นภาระเพิ่มให้อย่างเดียวเลย นอกจากครูที่มีพระเจ้าในใจเท่านั้นที่จะทำงานแบบนี้ได้.. นี่ก็เป็นสิ่งน่าอัศจรรย์อีกเรื่องในคริสตจักรที่ผมเห็นครับ
1
วันที่2-5นี้จะมีงานสัมมนาพระคัมภีร์ออนไลนพร้อมกันทั่วโลก ก็ลองจัดเวลาเข้าไปฟังดูนะครับ วันละสองรอบ ฟังแล้วเข้าใจไม่เข้าใจยังไงก็ทักเข้ามาคุยกันครับ ผมเห็นว่ามันสำคัญ เพราะดีกว่าแน่ๆ กับการที่เราจะเห็นปัญหาที่กำลังเริ่มก่อตัวขึ้นในจิตใจ จะได้รีบตัดไฟนับแต่ต้นลม ไม่ต้องรอให้มันเกิดเรื่องขึ้นก่อนแล้วมาตามแก้ บางทีมันอาจเป็นเรื่องที่ใหญ่มากจนยากที่จะแก้..
สันติ เบอร์, ไลน 085 083 5433, facebook: wajee poota, santi poottapanich
1
โฆษณา