3 ธ.ค. 2020 เวลา 13:45 • ปรัชญา
# ความดื้อรั้นของคนระดับตำนานอย่าง Sylvester Stallone
ความดื้อรั้นและยืนกรานไม่ออกจากเส้นทางเดิมนั้นหลายครั้งมักจะนำมาแต่ผลลัพธ์ในทางลบ แต่คงไม่ใช่กับชายคนนี้ เขาทำเช่นไรนั้น ลองอ่านเรื่องราวต่อไปนี้แล้วคุณจะเข้าใจ
1
เด็กที่ไม่สมประกอบ
Michael Sylvester Gardenzio Stallone เกิดในเมืองนิวยอร์กซิตี้ ในปี 1946 โดยพ่อของเขาเป็นช่างทำผม ส่วนแม่ของเขาเป็นอดีตนักเต้น แม่ของเขา แจ็กกี้ มีปัญหาในการคลอดบุตร
จึงต้องใช้คีมช่วยทำคลอด ซิลเวสเตอร์ ออกมา ด้วยเหตุนี้ เสียงที่แปลก และการพูดไม่ชัด จึงเป็นผลมาจากความเสียหายของเส้นประสาทที่เกิดจากเหตุการณ์ในครั้งนั้น
อีกทั้ง ซิลเวสเตอร์ และ แฟรงค์ น้องชาย ก็ยัง ถูกเลี้ยงดูมาในสภาพแวดล้อมที่ไม่เป็นมิตรมากนัก เนื่องจากว่า แม่มักจะบอกเขาเสมอว่า เขาเป็นเด็กไม่สมประกอบ และพ่อก็มักจะบอกกับเขาว่า เขาเป็นเด็กไม่มีสมอง อีกทั้ง พ่อแม่ของเขาก็มักจะทะเลาะกันอยู่เสมอ จนกระทั่งทั้งสองคนตัดสินใจหย่าร้างกัน
การแตกแยก
หลังจากที่พ่อแม่ของเขาหย่าร้าง สองคนพี่น้องก็ถูกส่งตัวไปยังบ้านอุปถัมภ์หลายแห่ง แต่จนแล้วจนรอดพวกเขาก็ต้องกลับไปอยู่กับแม่ และเข้าเรียนในโรงเรียนพิเศษสำหรับเด็กที่มีปัญหาทางด้านอารมณ์
หลังจากผ่านเรื่องราวที่แสนเจ็บปวดทางใจมามากมาย เขาก็เกิดฉุดคิด และอยากที่จะสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้คนที่กำลังเผชิญกับความเจ็บปวดเช่นเดียวกับเขา และนี่คือตอนที่เขาตัดสินใจว่าจะเป็นนักแสดง
ซิลเวสเตอร์ จึงไปเรียนต่อที่ มหาวิทยาลัย ในรัฐไมอามีเพื่อศึกษาการแสดงละคร แต่ด้วยความปรารถนาของเขานั้นท่วมท้นมากจนทำให้เขาตัดสินใจลาออกและเดินทางไปที่นิวยอร์ก เพื่อเข้าคัดเลือกเป็นนักแสดง
เดินทางสู่ฝัน
เขาพยายามอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย เพราะเขาตั้งใจแล้วว่านี่คือสิ่งที่เขาอยากทำ แม้ว่าเขาจะถูกปฏิเสธครั้งแล้วครั้งเล่าก็ตาม อีกทั้ง คนที่คัดเลือกยังบอกกับเขาอีกว่า “วงการนี้ไม่มีที่สำหรับคนที่มีแผลเป็นบนใบหน้าหรอกนะ”
และแน่นอนว่า ภรรยาของเขา ก็มักจะบอกให้เขาหางานทำจริง ๆ จัง แต่ ซิลเวสเตอร์ ที่แน่วแน่ก็ไม่เคยคิดที่จะยอมแพ้เลยสักครั้ง
ด้วยเหตุนี้ ซิลเวสเตอร์ จึงต้องอาศัยอยู่ในอพาร์ตเมนต์เล็ก ๆ ที่ไม่มีเครื่องทำความร้อนกับภรรยา เพื่อเดินตามทางแห่งฝันของเขา และแม้ว่าสถานการณ์จะไม่ได้ช่วยให้เสียงท้องร้องของเขาลงได้
ความฝันที่เดินไป กับรายได้ที่ส่วนทาง
แต่เพื่อความฝัน เขาจึงไปแคสติ้งและทำงานอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยกับบทบาทใด ๆ ก็ตามที่เขาสามารถทำได้
1
เขาจึงได้รับทั้งบทบาทเล็ก ๆ น้อย ๆ ในภาพยนตร์หลายเรื่อง และยังมีบทบาทในการผลิตสื่อลามกด้วย ซึ่งสำหรับเรื่องนี้ เขาก็ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า “ในช่วงนั้นผมยอมรับงานทำสื่อลามก เพราะเชื่อว่ามันอาจทำให้ผมได้รับบทบาทที่ใหญ่ขึ้น มันจึงเป็นเพียงส่วนหนึ่งของทางผ่านสู่ฝันเท่านั้น”
ด้วยเหตุนี้ สื่อลามกที่เคยร่วม เขาจึงไม่เคยถูกต่อสัญญาใด ๆ อีกเลยหลังจากครั้งนั้น แต่อย่างไรก็ตามมันเป็นเรื่องที่ยากมาก สำหรับ ซิลเวสเตอร์ ที่ต้องรับบทเล็ก ๆ เพื่อให้มีเงินพอที่จะจ่ายค่า อพาร์ทเมนต์ที่เย็นยะเยือก และไม่มีความสะดวกสบายมากพอสำหรับเขาและภรรยาเลย
ห้องที่ไร้ความอบอุ่น
ในเวลาว่าง ซิลเวสเตอร์ จึงมักจะเข้าไปอยู่ในห้องสมุดชุมชนแทน เพราะที่นั้นอบอุ่นกว่าห้องของเขามาก และที่แห่งนี้ก็ทำให้เขาค้นพบความรักในงานเขียนเช่นกัน
จึงทำให้ไม่ว่าเขาจะอยู่ที่ห้องสมุดหรืออยู่ที่บ้าน เขาจะพยายามสร้างเรื่องราวและขีดเขียนสถานการณ์บางอย่างขึ้นมาอยู่เสมอ โดยเฉพาะเรื่องราวที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้คน เพื่อให้พวกเขาเหล่านั้นสามารถเอาชนะสถานการณ์ที่ทนทุกข์เช่นเดียวกับเขาได้
เขาจึงหาเลี้ยงชีพด้วยการขายเรื่องราวเหล่านี้เป็นครั้งคราว แต่สิ่งที่เขาเขียนก็ยังไม่เคยได้เป็นหนังสือขายดีเลย และเขายังยอมรับว่า “ในช่วงนั้น การที่จะเป็นได้นั้นยากมาก” ซิลเวสเตอร์ ยังเล่าด้วยว่า “ครั้งหนึ่ง ในช่วงที่ย่ำแย่ที่สุดของชีวิต จนเขาต้องขายสุนัขของเขาเพื่อให้ได้เงินมาประทังชีวิต แต่ก็อย่างที่ใครเขาพูดกันว่า ก่อนที่ฟ้าจะเปลี่ยนเป็นรุ่งสาง ต้องผ่านช่วงเวลาที่มืดมิดที่สุดก่อนเสมอ”
จากจุดที่มืดมิด
กระทั่งวันหนึ่ง เรื่องราวของภาพยนตร์เรื่อง Rocky Balboa ก่อตัวขึ้นในความคิดของเขา หลังจากที่ดูการแข่งขันชกมวย
ที่มี มูฮัมหมัด อาลี ผู้ตกอับ ชกกับ Chuck Whepner ซึ่งในตอนท้าย อาลี สามารถเอาชนะได้ ซิลเวสเตอร์ ที่รู้สึกประหลาดใจ จึงเกิดแนวคิดในการสร้างตัวละครที่ตกอับ แต่สามารถเอาชนะปัญหาของเขา ด้วยการลุกขึ้นสู้ เพื่อคว้าโอกาสใหม่มาให้ได้
หลังจากนั้นเขาก็เริ่มเขียนต้นฉบับ จนสามวันต่อมา ซิลเวสเตอร์ ก็ได้ทราบว่าภาพยนตร์เรื่องหนึ่งเปิดรับสมัครนักแสดง เขาจึงเดินทางไปคัดเลือก โดยเขาก็ยังคงหวังว่าจะได้รับบทในภาพยนตร์เรื่องใหญ่ครั้งนี้ นอกจากนี้ ซิลเวสเตอร์ ยังแอบพกบทภาพยนตร์ที่เขาเพิ่งเขียนเสร็จไปกับเขาด้วย
ในครั้งนั้น ซิลเวสเตอร์ เข้าร่วมการคัดเลือกนักแสดงโดย Robert Chartoff และ Irwin Winkler เป็นกรรมการ ซึ่งเมื่อเขาไม่ได้รับบทที่เขาตั้งเป้าไว้ ซิลเวสเตอร์ จึงขอเสนอต้นฉบับของเขาแทน และก็ถือเป็นโชคดี ที่ทีมงานได้พิจารณาบทที่เขาเขียนแล้ว
ก็ค่อนข้างประทับใจ พวกเขาจึงเสนอเงินก้อนหนึ่งให้ ซิลเวสเตอร์ ในการซื้ออุปกรณ์ต่าง ๆ มาสร้างบทให้สมบูรณ์
แม้ว่าทีมงานจะไม่ค่อยยินดีมากนัก ที่ได้ทราบว่าหากต้องถ่ายทำเรื่องนี้ ซิลเวสเตอร์ จะต้องได้รับบทนำ พวกเขาจึงจำเป็นต้องเรียกประชุมกันครั้งใหญ่
ผลงานที่เข้าตา กับข้อเสนอที่ไม่อยากจะรับไว้
เพราะ ซิลเวสเตอร์ ในวันนั้น ยืนกรานว่า “เขาจะเล่นเป็น ร็อคกี้ และจะไม่ขายบทของเขาให้ แม้ว่าข้อเสนอจะเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมากเพียงใดก็ตาม” แต่เพราะบทที่เขาเขียนนั้นยอดเยี่ยมมาก จนในที่สุดหลังจากการเจรจาที่แสนยาวนาน ทุกคนก็ตกลงที่จะให้ ซิลเวสเตอร์ รับบทนักแสดงนำ
1
แต่อย่างไรก็ตามอุปสรรคของเขาก็ไม่ได้จบลงเพียงแค่นั้น เนื่องจากภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับงบประมาณการสร้างเพียงแค่ 1 ล้านเหรียญเท่านั้น ซึ่งแทบจะไม่เพียงพอที่จะมีผลิตภาพยนตร์คุณภาพออกมาได้เลย
ซิลเวสเตอร์ จึงเกณฑ์คนในครอบครัวและเพื่อนสนิทของเขาให้มาแสดงในบทบาทเล็ก ๆ และให้ภรรยาของเขาเป็นคนทำฉาก ในขณะที่น้องชายของเขาเป็นนักแสดงสมทบ
1
ทุ่มเท
นอกจากนี้แล้ว ภาพยนตร์เรื่อง Rocky Balboa ยังส่งผลกระทบต่อร่างกายของ ซิลเวสเตอร์ เป็นอย่างมาก เนื่องจากเขาไม่คุ้นเคยกับการแสดงในรูปแบบที่ Rocky ต้องเป็น เพราะในเรื่อง Rocky ต้องต่อสู้อยู่ตลอดเวลา และยังต้องมีร่างกายที่กำยำแข็งแรง
จึงทำให้ในระหว่างการถ่ายทำ ซิลเวสเตอร์ จะรู้สึกว่าร่างกายของเขาจะยอมแพ้และล้มลงกับพื้นอยู่เสมอ แต่ถึงกระนั้น เขาก็ยังคงผลักดันและเชื่อมั่นว่าตัวเองจะผลลัพธ์ที่ยิ่งใหญ่ได้ หากเขาสามารถอดทนต่อไปได้อีกสักหน่อย
1
จนกระทั่งในปี 1976 Rocky Balboa ก็ถ่ายทำเสร็จ และได้ออกฉายสู่สาธารณะ แม้ว่า ซิลเวสเตอร์ จะได้รับเงินจำนวนมากเป็นค่าตอบแทนจากการทำงานหนักของเขา แต่เขาก็ต้องใช้เวลาหลายวันนอนบนเตียง เพื่อดูแลร่างกายที่มีอาการเจ็บปวดต่าง ๆ ให้หายไป
1
Theatrical release poster
แม้ว่าภาพยนตร์เรื่องนี้จะมีต้นทุนในการสร้างต่ำมาก แต่ก็เป็นหนึ่งในภาพยนตร์ที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้คนได้นับล้านทั่วโลก นอกจากนี้ยังเปิดช่องทางสำหรับอาชีพการแสดง การเขียนบท และการกำกับ ให้กับ ซิลเวสเตอร์ สตอลโลน ได้อีกด้วย
หลังจากนั้นเป็นต้นมา ซิลเวสเตอร์ ก็ได้รับบทแสดงนำในภาพยนตร์มากกว่า 40 เรื่อง โดยเรื่องที่คนอาจจะรู้จักเขามากขึ้นก็อาจจะเป็นเรื่อง Rambo ซึ่งเขาก็ยังคงมีผลงานอยู่อีกมากมายจนถึงในปัจจุบัน
นอกจากนี้เขายังได้รับการยอมรับให้เขียนบทมากกว่า 67 เรื่อง โดยไม่มีใครเทียบผลงานเขียนของเขาได้เลย ในขณะที่เขายังคงสร้างบทภาพยนตร์ที่เต็มไปด้วยแอ็คชั่น เขาก็ยังเป็นผู้กำกับและผู้สร้างภาพยนตร์คุณภาพสูงมาแล้วอีกมากมาย
Sylvester Stallone Cannes 2019 Date May 2019 Source Own work Author Georges Biard
แม้ว่าการดื้อรั้นมักจะมีความหมายแฝงในแง่ลบอยู่เสมอ แต่ชีวิตของ ซิลเวสเตอร์ สตอลโลน ที่ต้องดิ้นรนต่อสู้ เพื่อออกจากช่วงชีวิตที่หดหู่ไปให้ได้ จึงทำให้ความดื้อรั้น และยืนกรานในสิ่งที่เขาต้องการ เป็นเหมือนทางออกเดียวที่เขาจะไม่ยอมหยุดจนกว่าจะได้ในสิ่งที่เขาหมายตาไว้มาครอง
ซิลเวสเตอร์ บรรลุความฝันและพบเจอกับความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ ตามมาจากนั้น และตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาเขาก็เป็นคนต้นแบบในวงการบันเทิง
และมีประโยคติดปากที่เขามักพูดกับทุกคนเสมอว่า “ จงพยายามจนกว่าคุณจะประสบความสำเร็จ” ซึ่งเขาก็ได้พิสูจน์ให้เห็นจริง ๆ แล้วว่า ไม่มีอะไรเป็นไปไม่ได้ หากเรายอมทำงานหนักและความมุ่งมั่นลงมือทำสิ่งนั้นให้ถึงที่สุด สำหรับความฝันของเขา เขาก็ยังคงสร้างแรงบันดาลใจให้กับคนทั้งโลกต่อไป
2
ดังที่ Sylvester Stallone กล่าวไว้ว่า “ผมเชื่อว่ามีพลังบางอย่างภายในตัวเรา ที่ทำให้เราแพ้หรือชนะ และคนที่ชนะ ก็คือเป็นคนที่เลือกฟังเสียงหัวใจของตัวเองเท่านั้น”
อ่านบทความเรื่องเล่าจากดาวนี้เพิ่มเติมได้ที่
หากชื่นชอบก็อย่าลืมกด Like กด Share เพื่อเป็นกำลังใจให้กันด้วยนะคะ สามารถแชร์แนวคิด มุมมองดีๆได้ใน Comments นี้เลย 😄

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา