28 พ.ย. 2020 เวลา 02:36 • ข่าว
ด่วน !! ล่าสุดพบติดเชื้อภายในประเทศอีกหนึ่งรายที่จังหวัดเชียงใหม่
3
เป็นกรณีหญิงสาววัย 29 ปี ตรวจพบติดเชื้อไวรัสโคโรนาก่อโรคโควิด-19 อีกหนึ่งรายที่จังหวัดเชียงใหม่
หญิงสาวดังกล่าว พักอาศัยอยู่ในคอนโดมิเนียมที่ตำบลฟ้าฮ่าม อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่
1
โดยมีลำดับเวลาของการเจ็บป่วยดังนี้
23 พฤศจิกายน 2563 เริ่มมีอาการป่วย โดยจมูกไม่ได้กลิ่น และปวดเมื่อยตามตัว
24 พฤศจิกายน 2563 ไปเที่ยวบาร์ โฮสต์ ที่ย่านสันติธรรมในเมืองเชียงใหม่
1
26 พฤศจิกายน 2563 ตรวจพบไวรัสเป็นบวก
28 พฤศจิกายน 2563 คือวันนี้ กระทรวงสาธารณสุขจะแถลงรายละเอียดอย่างเป็นทางการ
จะเห็นได้ว่าแม้สถานการณ์โรคโควิด-19 ในประเทศไทย จะควบคุมได้อย่างดีมาก เป็นที่ยอมรับของนานาชาติ และองค์การอนามัยโลกก็ได้ประกาศให้ประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่ดีที่สุดที่สามารถควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 และประกาศให้ประเทศอื่นศึกษาวิธีการของประเทศไทยเพื่อนำไปปฏิบัติต่อไป
แต่อย่างไรก็ตาม ไวรัสโคโรนาเป็นไวรัสที่มีลักษณะพิเศษ คือ สามารถอาศัยอยู่ในตัวคน โดยไม่แสดงอาการ และทำให้ผู้ที่ไม่แสดงอาการนั้น ยังคงออกไปใช้ชีวิตตามปกติ เช่น ในผู้ป่วยรายนี้ก็ยังไปเที่ยวบาร์โฮสต์ เพราะอาการเป็นไม่มากนัก
2
ดังนั้นการมีเชื้อไวรัสแอบแฝงอยู่ในคนที่ไม่รู้ตัว จึงสร้างความลำบากให้กับวงการสาธารณสุขทั่วโลก รวมทั้งในประเทศไทย ว่าจะทำอย่างไรถึงจะคุมสถานการณ์ได้เบ็ดเสร็จเด็ดขาด ในขณะที่ยังไม่มีวัคซีนใช้
ซึ่งวัคซีนนั้น แม้จะมีรายงานความก้าวหน้าจากสามบริษัทชั้นนำของโลก (Pfizer Moderna AstraZeneca) ก็ยังคงต้องใช้เวลาอีกอย่างน้อยหกถึงเก้าเดือน ถึงจะมีการเริ่มฉีดอย่างแพร่หลาย
ความหวังวัคซีนไทย
และกว่าจะฉีดป้องกันพลเมืองโลกได้ 60% หรือกว่า 4,500 ล้านคน คงต้องใช้เวลาอีกประมาณสองปี
1
ระหว่างนี้ จึงต้องถือว่า ยังไม่มีวัคซีนป้องกันโรคไว้ก่อน และทุกคนคงจะต้องช่วยกันควบคุมสถานการณ์การระบาดของโรคให้ดีที่สุด
1
1) มีจำนวนผู้ติดเชื้อที่เกิดจากการเดินทางมาจากต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นคนไทยหรือคนต่างชาติทุกวัน วันละประมาณ 5-10 คน ซึ่งเราสามารถดักได้หมดโดย SQ และ ASQ
2
2) การติดเชื้อภายในประเทศเกิดขึ้นน้อยมาก และมีเพียงประปราย ที่ผ่านมาสามารถควบคุมและดักไว้ได้ดี ไม่ว่าจะเป็นรายดีเจ รายหญิงฝรั่งเศสเกาะสมุย รายชายอินเดียที่กระบี่ รายผู้ลี้ภัยที่แม่สอดจังหวัดตาก
2
แต่ที่จะต้องระมัดระวังมากก็คือ คนไทยที่อยู่ในสถานที่สุ่มเสี่ยงอ่อนไหว คือรักษาระยะห่างทางสังคมไม่ได้ และไม่ใส่หน้ากากอนามัย เช่น กรณีที่ไปเที่ยวผับ บาร์ หรือร้านอาหาร ที่อยู่กันใกล้ชิดและไม่ได้ใส่หน้ากากอนามัย
1
ยังคงเป็นจุดอ่อนที่สำคัญมาก ที่อาจจะทำให้เกิดการติดเชื้อภายในประเทศได้
จึงควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมใดใด ที่มีความเสี่ยงดังกล่าว และถ้าหลีกเลี่ยงไม่ได้จริงๆ ก็ต้องระมัดระวังอยู่เป็นระยะเวลาสั้นที่สุด และพยายามใส่หน้ากากอนามัยให้มากที่สุดในระหว่างอยู่ในสถานที่นั้น
1
คงต้องรอฟังการแถลงข่าวอย่างเป็นทางการของกระทรวงสาธารณสุขในวันนี้ ซึ่งทำได้ดีมาโดยตลอดครับ
แนะนำอ่านเสริมครับ
โฆษณา