12 ธ.ค. 2020 เวลา 23:58 • ปรัชญา
นิทานดีๆ เรื่อง "คนตาบอดถือโคมไฟ"
มีตรอกซอยอยู่ที่หนึ่ง ที่มีแต่ความมืดและแคบ และไม่มีแสงไฟส่องทางให้ความสว่าง
แต่ก็ยังมีคนใช้สัญจรอยู่เป็นประจำ เพราะเป็นทางลัดที่ช่วยประหยัดเวลาในการเดินทางได้ดี
และในคืนหนึ่ง ก็ได้มีพระรูปหนึ่งเดินผ่านเข้ามายังตรอกเพื่อมุ่งหน้าไปยังอาราม
ซึ่งในซอยที่มีแต่ความมืดนี้ มืดมากกระทั่งนิ้วมือทั้งห้า ยังไม่อาจมองเห็นได้
เมื่อเดินไปเรื่อยๆ พระรูปนี้จึงทั้งเดินไปชนผู้อื่น
และ ถูกผู้อื่นเดินมาชนไม่หยุดหย่อน สร้างความลำบากยิ่งนัก…
ในตอนนั้นเองก็ได้มี ชายผู้หนึ่ง ถือโคมไฟ เดินเข้ามายังตรอก
ทำให้ในตรอกเกิดแสงสว่างขึ้นพอสมควร
พระได้ยินคนเดินผ่านทางพูดขึ้นมาว่า…
“ คนตาบอดผู้นั้นช่างแปลกนัก ตนเองมองไม่เห็นแท้ๆ ใยต้องถือโคมไฟให้วุ่นวาย ”
เมื่อพระได้ยินก็รู้สึกแปลกใจ รอจนกระทั่งคนตา
บอดถือโคมไฟคนนั้นเดินผ่านมา จึงเอ่ยถามขึ้น
ว่า
"ขออภัย ท่านตาบอดจริงๆ หรือ?"
คนผู้นั้นตอบว่า
“ ถูกแล้ว ข้าเกิดมาก็พิการตาสองข้างมองไม่เห็น สำหรับข้านั้นไม่ว่าจะยามเช้า สาย บ่าย เย็น ล้วนไม่ต่างกัน ทั้งยังไม่ทราบว่า แสงสว่างหน้าตาเป็นเช่นไร ”
พระได้ยินดังนั้นก็ ยิ่งงุนงงมากขึ้น เอ่ยถามต่อไปว่า…
“ เช่นนั้นท่านจะถือโคมไฟไปเพื่ออะไร…? ”
คนตาบอดตอบว่า
“ เนื่องเพราะข้าเคยได้ยินคนพูดกันว่าในยามกลางคืน ไร้แสงสว่าง คนตาดีทั้งหลายก็เป็นเช่นเดียวกับข้า คือมองไม่เห็นสิ่งใด เมื่อครู่ท่านเดินอย่างมืดมนในตรอกใช่โดนคนเดินสวนไปมาชนเอา ใช่หรือไม่…? “
” ท่านดูข้าเองนั้นแม้เป็นคนตาบอด แต่ข้าไม่โดนผู้อื่นเดินชนเลยแม้แต่ครั้งเดียว ทั้งๆ ที่เมื่อก่อน ข้าก็เป็นเช่นเดียวกับท่าน คือโดนคนเดินมาชนเอาบ่อยครั้ง แต่เมื่อข้าถือโคมไฟ ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป… ที่ข้าจุดโคมไปไหนมาไหนด้วยนั้น ข้าจุดเพื่อให้แสงสว่างกับผู้อื่น และเพื่อให้ผู้อื่นมองเห็นตัวข้า ตั้งแต่นั้นมาข้าก็ไม่โดนผู้ใดเดินชนอีกเลย”
พระได้ยินความดังนั้นก็บรรลุปัญญา .......
โฆษณา