13 ธ.ค. 2020 เวลา 05:16 • ท่องเที่ยว
แฉกลโกง! ผู้ประกอบการหัวหมอโกง “เราเที่ยวด้วยกัน”
สารพัดวิธี เงินทอน - เที่ยวฟรี 0 บาท – ใช้เงินอุดปาก
2
ความสำเร็จของโครงการ “คนละครึ่ง” ถือเป็นการปลุกการจับจ่ายให้เริ่มกลับมาคึกคักขึ้นได้บ้าง แม้เป็นเพียงสัญญาณบวกเล็กๆ ของเศรษฐกิจในตอนนี้ แต่ก็ถือว่าส่งผลให้มีกำลังซื้อกลับเข้ามาหมุนเวียนในประเทศในช่วงปลายปี ที่ปกติจะเป็นช่วงโฮซีซั่นด้านการค้าและการท่องเที่ยว
3
เหลียวมองไปอีกหนึ่งมาตรการที่เข้ามาช่วยพยุงผู้ประกอบการท่องเที่ยวที่อาการก็ร่อแร่หนักหลังเจอวิกฤติโควิด – 19 เล่นงาน ทำเอาการท่องเที่ยวชะงักไปอย่างรุนแรง ซึ่งก็คือ “โครงการเราเที่ยวด้วยกัน” ที่ฝั่งรัฐสนับสนุนค่าใช้จ่ายด้านการท่องเที่ยวต่างๆ ทั้งตั๋วเครื่องบิน โรงแรม ที่พัก ที่ 40% เพื่อกระตุ้นให้คนออกไปท่องเที่ยว
2
ตอนนี้เป็นช่วงจังหวะเหมาะกับไฮซีซั่น บรรยากาศดีๆ น่าเดินทาง แถมมีส่วนลดให้อีก ก็น่าจะพอกลับมาหายใจหายคอได้คล่องบ้าง เมื่อดูจากยอดจองสิทธิที่พักคงเหลือตอนนี้ที่ยอดใช้สิทธิกว่า 5,000,000 สิทธิ ถูกใช้จนหมดเกลี้ยงเป็น 0 ในเวลาอันรวดเร็ว
2
แต่พอเจาะลึกลงไปในรายละเอียดแล้วก็มีหลายอย่างไม่ชอบมาพากล โดยเฉพาะการกระทำของผู้ประกอบการท่องเที่ยวบางรายที่หัวหมอ ใช้โครงการมาหาผลกระโยชน์เข้าตัวแบบดื้อๆ จนเกิดความเสียหาย เพราะมีคนในแวดวงท่องเที่ยว ออกมาแหก ออกมาแฉกันต่อเนื่องกับการ ทุจริตของเหล่าบรรดาผู้ประกอบการโรงแรม
6
ไล่เรียงมาตั้งแต่ก่อนหน้านี้ เมื่อช่วงเดือนสิงหาคม ทางกระทรวงการคลัง กับธนาคารกรุงไทย ก็เคยตรวจสอบพบการทุจริตมาแล้ว จากผู้ประกอบการที่พักขนาดเล็ก 1 แห่ง โดยที่พักแห่งนี้มียอดการจองห้องพักเต็มตลอดเวลา แถมเกินจำนวนห้องพักที่มีอยู่ หนักกว่านั้น คือ พบว่าผู้เข้าพักมีประวัติการใช้คูปอง หรือ e-Voucher สำหรับการทานอาหารในที่พัก แต่… โรงแรมแห่งนั้น ไม่มีบริหารห้องอาหาร
11
กรณีล่าสุด ที่มีการออกมาแฉกัน คือ “เงินทอน” โปรพักฟรีได้เงิน เช่น ปกติโรงแรมคิดค่าบริการห้องพักคืนละ 1,000 บาท ต่อคืน แต่เมื่อมีโครงการเราเที่ยวด้วยกันเข้ามาช่วยอุดหนุน กระตุ้นให้คนมาเที่ยว ด้วยสิทธิประโยชน์ส่วนลดค่าห้อง 40% ผู้ประกอบการหัวหมอนี้ก็จัดขึ้นราคารีดเงินจากรัฐบาลเต็มลิมิท แล้วนำส่วนต่างมาเป็นเงินทอนให้คนที่เข้ามาพัก
9
เอาให้เห็ภาพชัดขึ้น อย่างสมมุติว่าค่าห้องปกติ 2,000 บาท รัฐบาลจะทำการสนับสนุนให้ 800 บาท แล้วประชาชนจ่ายอีก 1,200 บาท เท่ากับว่าผู้ประกอบการโรงแรมนั้นจะได้รับเงิน 2,000 บาท ซึ่งหากทำกันตามปกติก็จะไม่เป็นปัญหา
9
ผู้ประกอบการหัวหมอนี้ ก็ใช้วิธี อัพค่าห้องไปเลย 7,000 บาทต่อคืน ฉะนั้นรัฐก็จ่ายให้ 2,800 บาท ประชาชนจ่ายอีก 4,200 บาท ซึ่งถ้าทำแบบนี้ เทียบกับคุณภาพโรงแรม ไม่มีใครเข้าพักแน่ๆ จึงใช้วิธีการที่บอกคือ “เงินทอน” จูงใจให้ประชาชนมาเป็นผู้สมรู้ร่วมคิด คืนเงินให้คนจองไปเลย 4,200 บาท พักฟรีไปเลยยย!
13
เท่านี้โรงแรมก็รับเต็ม 2,800 บาท หักลบกับ Vat 7% นิดหน่อยอีก 350 บาท จากส่วนต่างค่าห้อง 5,000 บาท
5
วิธีการของคนจะโกงยังไม่จบ เพราะโกงทั้งที ไม่ต้องเปิดห้องพักให้เสียค่าน้ำค่าไฟเลย เพราะใช้พนักงานของโรงแรมเอง กดเข้าร่วมโครงการเราเที่ยวด้วยกันคนละ 10 ห้อง เท่านี้ก็รับเต็มแล้ว ผลาญภาษีเข้ากระเป๋าไปเหนาะๆ กระตุ้นเศรษฐกิจไหม ไม่สนใจ ขอแค่ตัวเองรอดก็เพียงพอ
8
ด้านการโกง ที่มีคนกล่าวว่า ไทยเราไม่แพ้ชาติใดในโลก เฉพาะบางกลุ่มบางคนก็อาจเป็นความจริง เพราะแค่โครงการเราเที่ยวด้วยกันนี้ ก็ไม่ได้พบการทุจริตแค่ 2 วิธีข้างต้น โดยวิธีการนี้มีการรวมหัวกันตั้งแต่ ผู้จัดทัวร์ เข้าไปเจรจากับแกนนำในพื้นที่ก่อน จากนั้นเสนอทัวร์เที่ยวภูเก็ต 3 วัน 2 คืน ในที่พักระดับโรงแรม 4 ดาว ตามด้วยกิจกรรมท่องเที่ยวแบบครบสูตร แต่ให้เข้าร่วมได้ฟรีแบบไม่คิดเงินสักบาทเดียว
8
โลกเราไม่ได้มีคนใจดีขนาดนั้น… สิ่งที่ต้องแลกมา คือ ผู้เข้าร่วมต้องไปเปิดบัญชีธนาคารใหม่ หรือ ทำยอดบัญชีให้เป็น 0 บาท แล้วนำไปผูกกับแอปพลิเคชั่นเป๋าตังค์ เพื่อใช้สิทธิ์เราเที่ยวด้วยกัน ทางฝั่งโรงแรมที่เจรจากันไว้ก็จัดการปรับราคาห้องพักในใบเสร็จจากพันกว่าบาท ขึ้นไปเป็น 7,500 บาทต่อคืน เพื่อจะรับสิทธิ์ส่วนลดได้สูงสุด 40% คิดเป็น 3,000 บาทต่อคน ก็คล้ายกับวิธีที่สอง แต่คราวนี้ตัดผู้เข้าร่วมออกไปเลย ผู้จัดทัวร์ลงมือโอนค่าใช้จ่ายเองให้โรงแรม
5
ขั้นต่อมาโรงแรมก็ให้ลูกค้าทัวร์ฟรีนี้ เบิกรัฐเต็มทุกเม็ดทุกหน่วย 10 สิทธิต่อคน คนละ 5 ห้อง จำนวน 2 คืน เท่านี้ก็รับเงินนิ่มๆ 75,000 บาทต่อคน ผลาญภาษีไปเข้ากระเป๋า 30,000 บาทต่อคน
10
การโกงก็ไม่จบเท่านี้ เมื่อรัฐบาลต้องการให้เที่ยวเลยมีคูปองส่วนลดอาหาร วันธรรมดา 900 บาทต่อวัน เสาร์ - อาทิตย์ ให้คนละ 600 บาท ก็ให้กดใช้กับโรงแรมจนครบ
1
แล้วคนเข้าร่วมจะไม่สงสัยใดๆ เลยหรือ ? ตรงนี้ก็น่าคิด ซึ่งคนจะโกงก็หาวิธีมาอีกเช่นกัน หากเห็นว่าผู้เข้าร่วมกรุ๊ปรายไหนเอะใจ หรือมีปัญหาคับข้องใจ ก็ใช้เงินพ็อกเก็ตมันนี่ที่ได้มาจากโรงแรม ปิดปากไปรายละ 3,000 บาท เท่านี้ก็เรื่องเงียบ
6
ถามว่าภาครัฐจะทำอย่างไรบ้างกับกลโกงเหล่านี้?
ในกรณีที่พบเจอก็มีการระงับการจ่ายเงินสนับสนุนค่าที่พักในสัดส่วน 40% ของราคาที่พัก และ E-Voucher ไปบ้างแล้ว จากนั้นก็พิจารณาตัดสิทธิการเข้าร่วมโครงการ พร้อมขอความร่วมมือผู้ประกอบการที่พักให้ปฏิบัติตามเงื่อนไขของโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” เท่านั้นเอง ขณะที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ผู้เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงของโครงการนี้ ก็ได้ประชุมกับ สมาคาโรงแรมไทย และ ตัวแทน OTA online travel agency เช่น Agoda เพื่อตรวจสอบการปรับขึ้นราคาที่ผิดปกติแล้วขึ้นแบล็กลิสต์ไว้
5
หลังจากนี้คงต้องจับตาดูการเคลื่อนไหวของภาครัฐ ว่าจะลงดาบจริงจังได้แค่ไหน ส่วนหนึ่งต้องเห็นใจผู้ประกอบการท่องเที่ยวที่ทำดีมาตลอด แต่คนโกงเพียงบางส่วนก็ไม่ควรปล่อยไว้เช่นกัน
2
โฆษณา