Second wave??
เราควรทำอย่างไรกับ โควิด-19?
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว บิล เกตส์ แห่ง Microsoft ระบุว่า ในอีก 4-6 เดือนข้างหน้า เรากำลังเข้าสู่ช่วงเวลาแห่งการระบาดที่ร้ายแรงที่สุดของโควิด-19
บิล เกตส์ ยังกล่าวต่อว่า ทางด้านสถาบันชี้วัดและประเมินผลด้านสุขภาพ (Institute of Health Metrics and Evaluation – IHME) ประเมินว่าในสหรัฐฯ จะมีผู้ที่เสียชีวิตจากโควิด-19 เพิ่มขึ้นอีกกว่า 200,000 ราย (ตัวเลขผู้เสียชีวิตล่าสุดมากกว่า 320,000 ราย)
ในบทความนี้เราลองไปย้อนดูว่าในอดีตมีการรับมือการแพร่ระบาดของโรคร้ายอย่างไรบ้าง? ปัจจุบันแต่ละประเทศเค้ารับมือกันอย่างไร? และสำหรับไทยการระบาดรองสองนี้ เราควรเตรียมตัวอย่างไรดี?
หากพร้อมแล้ว เราไปติดตามกันเลย
=========================
นำเข้า "ความรู้" ส่งออก "ความคิด" ติดตาม
"นำเข้าส่งออก สุดขอบฟ้า"
=========================
1) โรคระบาดใหญ่ ที่เกิดขึ้น 100 กว่าปีที่แล้ว ซึ่งรู้จักในนาม ไข้หวัดสเปน ระบาดกันยาวนาน กินเวลากว่า 3 ปี โดยเริ่มระบาดครั้งแรก ตั้งแต่ต้นปี ค.ศ. 1918, รอบที่สอง ปลายปี 1918, รอบที่สาม ช่วงปี 1919 และรอบสุดท้าย ช่วงปี 1920
แต่การระบาดที่รุนแรงที่สุด ก็คือ รอบที่สอง โดยคร่าชีวิตผู้คนไปถึง 90% ของจำนวนผู้เสียชีวิตทั้งหมด โดยหากนับเฉพาะจำนวนผู้เสียชีวิตในสหรัฐฯ จากการระบาดช่วงเดือน กันยายน ถึงธันวาคม ค.ศ. 1918 มีผู้เสียชีวิตสูงถึง 292,000 ราย
Cr. BBC
โดยนักวิทยาศาสตร์ประเมินตัวเลขว่า ตัวเลขผู้ติดเชื้อจากไข้หวัดสเปน น่าจะอยู่ที่ 2.5-5% ของประชากร หรือคิดเป็น 50-100 ล้านคน เทียบจำนวนประชากรของทั้งโลกในปัจจุบัน
แน่นอนว่า ความก้าวหน้าทางวิทยาการ การรักษาโรค รวมไปถึงการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร เมื่อ 100 ปี ที่แล้ว คงสู้ปัจจุบันไม่ได้...
2) หากมองดูไปที่โรค SARS ที่ระบาดในจีนในช่วงปี ค.ศ. 2003 โดย SARS เองถึงแม้จะมีความรุนแรงของโรคมากกว่าโควิด-19 แต่ด้วยความที่เชื้อโรคแพร่ระบาดได้น้อยกว่า และมาตรการควบคุมโรคทำได้ดี ก็ไม่พบการแพร่ระบาดรอบสอง
นั่นก็คือ ไวรัสแต่ละชนิดก็มีพฤติกรรมไม่เหมือนกัน
3) สำหรับประเทศจีน ที่เป็นจุดเริ่มต้นการแพร่ระบาดของโควิด-19 ก็เจอเคส การแพร่ระบาดรอบสอง ต่อจากอู่ฮั่น เหมือนกัน นั่นก็คือ ที่ตลาด “ซินฟาตี้” ในกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน โดยมีแรงงานกว่า 1 หมื่นคน ทำงานเกี่ยวกับการจำหน่ายผักและผลไม้ในตลาด เป็นกรณีเทียบเคียงกับที่ตลาดกุ้งใน สมุทรสาคร บ้านเรา
แต่ทางจีนเอง ก็ใช้วิธีการล็อกดาวน์เชิงยุทธศาสตร์ เฉพาะจุดที่เกิดปัญหา และตรวจเชื้อเชิงรุก โดยทำการตรวจไปถึง 1.1 ล้านคน โดยใช้เวลาไม่ถึง 1 สัปดาห์
ทำให้สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ภายในเวลา 26 วันเท่านั้น โดยตลาดซินฟาตี้ ปิดไปวันที่ 13 มิถุนายน และกลับมาเปิดให้บริการ ในวันที่ 6 กันยายน ที่ผ่านมา
4) การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่สหรัฐฯ ก็กำลังเข้าสู่ช่วงเวลาสำคัญ โดยวัคซีนก็เหมือนว่าจะออกมาทันเวลาพอดิบพอดี แต่ก็เพิ่งเริ่มฉีดในวงจำกัด ดังนั้นวิธีการที่ดีที่สุด ที่บิล เกตส์ แนะนำก็ยังเป็นการใส่หน้ากาก และหลีกเลี่ยงที่ชุมชน
ผับ บาร์ อาจต้องถูกปิดอีกรอบ ส่วนโรงเรียนก็ต้องดูสถานการณ์ว่ารุนแรงขนาดไหน
และการที่สหรัฐฯ เปลี่ยนผู้นำจากทรัมป์ มาเป็น ไบเดน ก็น่าจะทำให้การควบคุมการแพร่ระบาดทำได้ดีขึ้น จากเดิมที่ทรัมป์ เหมือนจะชิวไปหน่อย
Cr. CNBC
5) อีกประเทศ ที่เลือกใช้วิธีเสี่ยงให้เกิด Herd Immunity คือไม่ได้ ล๊อคดาว์น แต่อย่างใด นั่นก็คือ ประเทศสวีเดน ตอนนี้กลับเจอการแพร่ระบาดรอบที่ 2 อย่างหนัก
โดยจำนวนผู้ติดเชื้อรายวัน ตอนนี้ใกล้แตะหลัก 1 หมื่นเคสต่อวัน จำนวนเคสรวม 367,000 เคส ผู้เสียชีวิตแล้วกว่า 8 พันราย หากเทียบประชากร 10 ล้านคน ก็มีผู้ติดเชื้อแล้วประมาณ 3%
โดยรัฐบาลสวีเดน ก็เริ่มมีการออกมาตรการที่เข้มงวด บ้างแล้ว เช่น สั่งให้ผับ บาร์ ปิดก่อน สี่ทุ่มครึ่ง เป็นต้น แต่หลายๆนโยบายก็ยังสร้างความสับสนให้ประชาชน
ล่าสุดความเชื่อมั่นของประชาชน ในการควบคุมโรคระบาดของทางภาครัฐ ลดลงจาก 68% ในเดือนตุลาคม ไปเหลือ 52% ในเดือนธันวาคมแล้ว
6) อีกประเทศ ที่เจอกรณีการแพร่ระบาดในหมู่แรงงานต่างด้าว คล้ายๆ ไทยก็คือ สิงคโปร์ ที่ดูเหมือนว่าจะโดนหมัดน๊อคไปแล้ว แต่กลับสามารถควบคุมสถานการณ์ได้อย่างรวดเร็วมาก
โดยสิงค์โปร์ ใช้มาตรการ “circuit breaker” ในช่วงเวลา 2 เดือน ตั้งแต่ เมษายน ถึง พฤษภาคม ในช่วงที่ตัวเลขผู้ติดเชื้อพุ่งเป็น 1,000 เท่า โดยทำการตรวจแรงงาน ไปรวดเดียวกว่า 320,000 คน โดยวันที่แย่ที่สุดมีตัวเลขผู้ติดเชื้อสูงถึง 1,426 ราย
ช่วงนั้น ประชาชนสิงคโปร์ ได้รับอนุญาตให้ออกนอกบ้าน เฉพาะการออกกำลังกาย และไปซุปเปอร์มาร์เกตเพื่อช้อปปิ้ง
โดยกว่า 94% ของผู้ติดเชื้อทั้งหมดในสิงคโปร์จำนวนกว่า 58,000 ราย ก็มาจากแรงงานต่างด้าว นั่นเอง
7) สำหรับไทยเรา ช่วงนี้ก็เจอสถานการณ์ใกล้เคียงกับสิงคโปร์มากๆ ซึ่งก็อย่าแตกตื่นกันไป (โดยเฉพาะเหล่านักลงทุน ที่ลุ้นเปิดตลาดวันพรุ่งนี้)
ก็คงได้ ล๊อคดาวน์ กันเป็นโซนๆ ไป ที่สำคัญคือ การ์ดอย่าตก สวมหน้ากากอนามัย และหลีกเลี่ยงที่ชุมชนทำ social distancing
แต่ในวิกฤตก็ยังมีโอกาส โดยเหล่าพ่อค้าแม่ค้า ที่ขายหน้ากากอนามัย และเจลล้างมือช่วงนี้ ก็ได้กลับมาคึกคักกันอีกรอบ
8) หากมองในภาพใหญ่ โควิด-19 ทำให้พฤติกรรมคนเปลี่ยนไป ไม่ว่าจะเป็นการ work from home, การสั่งอาหารออนไลน์, การช้อปสินค้าใน e-commerce ตอนแรกหลายๆ คนน่าจะคิดว่า เดี๋ยวพอจบโควิดคนน่าจะกลับมาใช้ชีวิตเหมือนเดิม
แต่แอดมินเชื่อว่า บางพฤติกรรม พอมันได้เสพย์ ได้ใช้ไปนานวันเข้า มันอาจไม่กลับมาเหมือนเดิมก็ได้
เช่นการช้อปปิ้งใน e-commerce ต่างๆ ที่ในเมื่อเรากดซื้อได้แทบทุกอย่างบนช่องทางออนไลน์ แล้วเราจะยังต้องไปเดินเลือกของในห้างอีกทำไม อันนี้ธุรกิจแบบดั้งเดิมต่างๆ คงชะล่าใจไม่ได้ ไม่รีบปรับตัวตอนนี้อาจสายเกินแก้
9) ตัวเลขการระบาดโควิด-19 จากสถาบัน Johns Hopkins (20 ธ.ค. 63)
- จำนวนเคสผู้ติดเชื้อทั่วโลก = 76.16 ล้านเคส
- ผู้เสียชีวิต อย่างน้อย 1.68 ล้านราย
- จำนวนเคสที่ยัง Active = 21.04 ล้านเคส
ตอนนี้ก็ต้องเรียกว่า โควิด-19 นี่ก็ความรุนแรง แซงไข้หวัดสเปน ไปเรียบร้อย อย่าลืมว่าเทคโนโลยีปัจจุบัน ดีกว่า 100 ปีที่แล้วอย่างมาก...แต่การเดินทางค้าขายกัน ก็มากกว่า 100 ปีที่แล้วเช่นกัน
โดยสรุปปีใหม่นี้ ชาวกรุงเทพฯและปริมณฑล ก็คงต้องฉลองปีใหม่กันอยู่ที่บ้าน
ใครที่ได้ไปเที่ยวมาแล้วก็ถือว่า โชคดีไป ส่วนใครที่ยังไม่ไป ก็อดทนเอาหน่อย การ Social Distancing ช่วยลดการแพร่ระบาดได้ดีที่สุดแล้ว รองลงมาก็ใส่หน้ากาก หมั่นล้างมือ
เรื่องสุขภาพเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ถึงแม้เราแข็งแรง แต่หากเอาโรคไปติดคนในครอบครัว อันนั้นก็คงไม่ใช่สิ่งที่เราต้องการ...
ที่สำคัญรองลงมาก็คือ เรื่องหน้าที่การงานและปากท้อง
แต่เรื่องเร่งด่วนที่สุด ณ ตอนนี้ แอดว่าจะออกไปตัดผมก่อน (เดี๋ยว lockdown จริงๆ แล้วจะไม่ได้ตัด!)
หากไม่อยากพลาดข่าวสาร ดีๆ กดไลค์เพจ และกด Favorites ในเฟสบุ๊ค กันไว้เลย
และหากบทความมีประโยชน์ ก็กดไลค์ และแชร์ให้เพื่อนๆ กัน ได้เลยจ้า
=========================
นำเข้า "ความรู้" ส่งออก "ความคิด" ติดตาม
"นำเข้าส่งออก สุดขอบฟ้า"
=========================
พิเศษ! สำหรับ ผู้นำเข้า ส่งออก ที่กำลังประสบปัญหาค่าขนส่งแพง หา space ไม่ได้ ทางแอดมินแนะนำบริการเปรียบเทียบค่าขนส่งทั้งทางทะเล ทางอากาศ และทางบก ผ่านระบบ web application ออนไลน์ นั่นก็คือสตาร์ทอัพไทยอย่าง “ZUPPORTS”
.
ทีมงานยินดีช่วยเหลือผู้ประกอบการทุกท่าน สนใจลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษได้เลยที่ https://zupports.co/register/
ที่มา:
นำเข้าส่งออก สุดขอบฟ้า marketplace: ซื้อ-ขาย สินค้า ทั้งในและต่างประเทศ ร่วมกลุ่มได้เลยที่
#นำเข้าส่งออกสุดขอบฟ้า #นำเข้า #ส่งออก
#ZUPPORTS
- 28
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
