27 ธ.ค. 2020 เวลา 02:31 • กีฬา
[ #ลูกบ้าเที่ยวล่าสุด ]
หลังพ่ายแพ้ยับเยินให้ต่อแมนฯยูไนเต็ด 2-6 อันดับของลีดส์ ยูไนเต็ดไม่อาจขยับขึ้นมาข้างบนได้ อยู่โซนครึ่งล่างเช่นเดิม
1
นอกจากนี้ยังโดนทะลวงตาข่ายรวมแล้ว 30 ประตูจาก 14 เกม สะท้อนเลยว่าเกมรับแย่แค่ไหน เฉลี่ยแล้วมากกว่า 2 ประตูต่อเกม
ความหละหลวมจากแนวรับฉุดให้ยูงทองไม่อาจผยองได้อย่างที่คาดหวัง ทั้งที่เปิดฉากฤดูกาลใหม่ๆ เขย่าพรีเมียร์ลีกในระดับรุนแรงมาก จนถูกคาดหมายว่าอาจสร้างเซอร์ไพรส์ครั้งใหญ่ได้
ยิ่งเมื่อผนวกประวัติศาสตร์ด้วยแล้ว ลีดส์คือทีมพลังหนุ่มและสองยุคสมัยที่เลื่อนจากลีกรองขึ้นมา สามารถสร้างแรงกระเพื่อมจนกลายเป็นหนึ่งในทีมมีลุ้นความสำเร็จ
ในขณะเดียวกันการมีผู้จัดการทีมชื่อ มาร์เซโล่ บิเอลซ่า ก็ช่วยขับความหวังแจ่มชัดกว่าที่เคย เพราะปูมหลังกุนซือรายนี้รู้กันอยู่ว่าแน่แค่ไหน
บิเอลซ่า มีอิทธิพลต่อลูกทีมที่เคยร่วมงานกันมากมาย หลายคนพอรีไทร์แล้วเปลี่ยนเส้นทางมาเดินสายโค้ช แล้วนำแนวทางมาปรับใช้ ไม่ว่าจะเป็น เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ , ดีเอโก้ ซิเมโอเน่ หรือ มาร์ซโล่ กัลยาร์โด้ ซึ่งปัจจุบันคุมริเวอร์เพลท
นอกจากนี้ยังมี เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ซึ่งไม่เคยร่วมงานกันมาก่อน เพียงแต่กุนซือสแปนิชเคารพและศรัทธา บิเอลซ่า เหลือเกิน ยกย่องให้เป็นปรมาจารย์คนหนึ่ง
สิ่งที่ทำให้ บิเอลซ่า มาไกลถึงวันนี้ ปราศจากความบังเอิญอย่างแท้จริง มันเกิดจากความคลั่งไคล้หลงใหลที่มีต่อฟุตบอลมาตลอด ก่อนมาต่อยอดด้วยการคุมทีมชั้นนำ
หลายคนน่าจะพอรู้อยู่แล้วว่า บิเอลซ่า มีความมุ่งมั่นอยากเป็นแข้งอาชีพมากๆ เริ่มเล่นในตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็ก ด้วยสไตล์ที่หนักหน่วงดุดัน จริงจังเสมอเมื่ออยู่ในสนาม
1
แต่อาการบาดเจ็บคุกคามไม่เลิก จนต้องตัดสินใจเลิกเล่นเลยซะเองตั้งแต่อายุ 25 เพื่อตัดปัญหา แล้วเบนเข็มมาเป็นโค้ชแทน ตอบสนองความต้องการและความรักที่มีต่อฟุตบอล
2
เพราะศึกษาและอ่านหนังสือเกี่ยวกับตำราลูกหนังมากมาย บิเอลซ่า จึงมีความคิดหรือไอเดียที่บรรเจิดไม่เหมือนใครในการทำทีม
3
อย่างหนึ่งที่ชัดเจนในความเป็นตัวตนคือ ไม่ต้องการตามหลังหรือยึดปรัชญาของใคร นอกจากเฟ้นหามาด้วยตัวเองเท่านั้น ส่วนอาจารย์คนไหนที่นับถือก็ให้เป็นเหมือนแรงบันดาลใจ
จะมีใครบ้างบ้าเลือดขนาดขับรถเป็นพันๆไมล์ทั่วอาร์เจนตินา เพื่อหาเพชรเม็ดงามที่ซ่อนอยู่ตามที่ไกลๆ เมื่อนำมาเจียระไนและมอบโอกาสให้
จากการที่มีนิสัยมุ่งมั่นบากบั่น เต็มไปด้วยความใจไม่เคยเสแสร้ง จึงไม่ใช่เรื่องแปลกเลยที่นักเตะหลายคนเคยเป็นลูกน้องจะนับถือเหลือเกิน
อาจเพราะเกิดมาจากครอบครัวที่มีพื้นฐานดีเยี่ยมทั้งเรื่องฐานะและการศึกษา บิลเอลซ่า จึงไม่ได้ขาดอะไร นอกเหนือไปจากต้องการเป็นผู้ชนะในเกม
ในอาร์เจนตินา บิเอลซ่า จัดเป็นกุนซือคลื่นลูกทีมสาม ซึ่งมีอุดมการณ์เด่นมากๆ ถัดจาก เซซาร์ หลุยส์ เมน็อตติ และ คาร์ลอส บิลาร์โด้ สองปรมาจารย์ผู้เคยนำทัพฟ้าขาดผงาดแชมป์โลกคนละสมัย
ซัมเมอร์ 1998 เอสปันญ่อลในลาลีกาแต่งตั้ง บิเอลซ่า มาเป็นกุนซือ แต่ผลงานในช่วงแรกไม่ค่อยดีเท่าไรนัก
กระทั่งตุลาคมสหพันธ์ฟุตบอลอาร์เจนตินา ทำตามกระแสเรียกร้องของแฟนบอลเลือก บิเอลซ่า ทำหน้าที่คุมแทน ดาเนี่ยล พาสซาเรลล่า ซึ่งผลงานผิดหวังในฟุตบอลโลก 1998 พ่ายจุดโทษอังกฤษตกรอบ 16 ทีมสุดท้าย
ครั้งแรกที่มาแนะนำตัวทำความรู้จักกับแข้งฟ้าขาว บิเอลซ่า สั่งให้มีการซ้อมเลยทันที หลังเสร็จเรียบร้อย เขาส่งกระดาษแผ่นเล็กๆและดินสอให้ลูกทีม เพื่อเขียนความต้องการลงไปว่าอยากจะเล่นแนวรับระบบไหนแบ็กโฟร์หรือเซ็นเตอร์แบ็ก 3 คน
ปรากฏว่านักเตะแทบทั้งหมดเขียนแบ็กโฟร์ลงไป บิเอลซ่า เอากระดาษคำตอบที่คลี่ดูแล้วไล่อ่านทีละแผ่น "แบ็กโฟร์ แบ็กโฟร์ แบ็กโฟร์..."
ชัดเจนแล้วว่านักเตะอยากจะเล่นหลังสี่หรือแบ็กโฟร์ แต่กุนซือจอมบ้าเลือดตอบไปว่า
"ชัดเลยนะว่าทุกคนอย่างเล่นแบบหลังสี่ แต่ผมอยากจะบอกว่าเราจะเล่นหลังสามและจะเริ่มกันพรุ่งนี้เลย"
1
พูดจบก็หันหลังขวับเดินจากไป ไม่ยอมให้ลูกทีมได้ถามไถ่อะไร แทบทุกคนอ้าปากค้าง งงกับเจ้านายคนใหม่ แล้วจะถามไปทำไมในเมื่อมีแท็คติกไว้ในใจอยู่แล้ว
เหตุผลที่ บิเอลซ่า ถามก็เพราะอยากจะรู้ข้อมูลเบื้องต้น นักเตะส่วนใหญ่ไม่ชอบ แต่เพื่อชัยชนะและเป็นไปตามแนวทางของเขา จำต้องเรียนรู้ ร่วมงานกันให้ได้ตามวิถีใหม่
เขาบอกเลยว่าอาร์เจนตินายุคใหม่ จะไม่ไปคาดหวังจะต้องมีนักเตะแบบ ดีเอโก้ มาราโดน่า อีกแล้ว นั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้นได้ยากมากๆ เป็นปรากฏการณ์
ในเมื่อเขาเป็นกุนซือมีอำนาจเหนือใคร อยากจะบอกว่าฟ้าขาวที่อยู่ภายใต้การคอนโทรลจะต้องปรับเปลี่ยน การเล่นด้วยจินตนาการหรือความคิดสร้างสรรค์คือเรื่องจำเป็น แต่ต้องตามหลังวินัย ความเข้มงวดต่างๆ
3
วินัยในแง่มุมของ บิเอลซ่า คือการทำงานหนัก อันเกิดมาจากการซ้อมที่เข้มข้น ทุกคนต้องวิ่ง วิ่งแล้วก็วิ่งเท่านั้น
ขณะเดียวกันตอนซ้อมก็ห้ามเหยาะแหยะอีกด้วย ต้องจริงจังราวกับว่าอยู่ในเกม ไม่อย่างนั้นก็จะเปล่าประโยชน์ไม่ได้อะไรขึ้น
สำหรับ บิเอลซ่า ทุกครั้งที่ซ้อม นักเตะต้องจำลองตัวเองว่าอยู่ท่ามกลางสายตาแฟนบอลหลายหมื่นคู่ในสนาม ท่ามกลางเกมที่ตึงเครียดตลอด 90 นาที
อย่างไรก็ตามหลังผิดหวังจากโกปา อเมริกา บิเอลซ่า แก้ตัวด้วยการนำอาร์เจนติน่าผ่านเข้าสู่รอบสุดท้ายเวิล์ด คัพ 2002
2
ระหว่างเก็บตัวที่ญี่ปุ่นประเทศเจ้าบ้าน ฮวน เซบาสเตียน เวรอน ทำเป็นเล่นขำๆกับ ฮวน บาโปล โซริน ช่วงแบ่งข้างซ้อม ซึ่งนักเตะทุกคนก็ยิ้มแย้มแจ่มใสทว่าไม่ใช่ บิเอลซ่า ที่หน้านิ่วคิ้วขมวด เดินมาตวาดทั้งสองคนไม่เห็นความสำคัญ
2
ปรากฏว่าทัวร์นาเมนต์นั้น อาร์เจนติน่าหยุดเส้นทางแค่รอบแรก ด้วยสถิติชนะ เสมอ แพ้อย่างละนัด
บิเอลซ่า ยังได้ไฟเขียวให้คุมทีมต่อ ด้วยความมุ่งมั่นที่จะพาฟ้าขาวกลับคืนความยิ่งใหญ่จงได้
1
อย่างไรก็ตามจากการที่ เวรอน ซึ่งน่าจะแค้นบอสเป็นทุนเดิม เปิดใจกับสื่อในทำนองว่าอาร์เจนติน่าไม่ใช่ทีมเดิมอีกต่อไป ไม่มีใครหน้าไหนเกรงกลัวอีกแล้ว
เวรอน จึงถูกตัดชื่อทิ้งจากทีมชาติทันที ไม่มีชื่ออยู่ในชุดรองแชมป์โกปา อเมริกา 2004 แม้จะโดนต่อต้านจากแฟนบอลแต่ บิเอลซ่า ไม่แคร์ทั้งสิ้น ถือว่าไม่ให้เกียรติกัน
2
อย่างไรก็ตามในโอลิมปิกเกมส์ 2004 บิเอลซ่า พาอาร์เจนตินาคว้าเหรียญทองมาคล้องคอสำเร็จ เป็นชาติจากละตินอเมริกาแรกตั้งแต่ปี 1928 ที่ได้แชมป์ฟุตบอลชายมาครอง
1
แต่ บิเอลซ่า ก็ตัดสินใจลาออกเอง เพราะเชื่อว่า 6 ปีในการทำหน้าที่ตรงนี้มากพอแล้ว
แม้จะรู้ว่ารูปแบบหรือแนวทางเหล่านี้ ไม่ได้ตอบสนองทุกคราวไป ทว่าเขาก็ยังยึดมั่นไม่เคยเปลี่ยนเลย
แน่นอนว่า บิเอลซ่า เจอวิจารณ์ในเรื่องความดื้อด้านและอีโก้สูง อย่างเกมที่แพ้ยับแมนฯยูไนเต็ด ก็เจอกับเสียงตำหนิแท็คติกซึ่งแลกแบบมั่วซั่ว ไม่ได้ประเมินคู่ต่อสู้เลย
1
ยิ่งพวกสื่อด้วยแล้วดูจะโจมตีอย่างหนัก เคสอย่างนี้ บิเอลซ่า ไม่เคยหวั่นเพราะผ่านมาเยอะ ถ้าจะให้อธิบายก็ได้ไม่มีปัญหา แต่อาจจะซับซ้อนเกินกว่าเข้าใจได้
และเช่นเดียวกันยังคงศรัทธาตามวิถีของตัวเอง ใครจะว่าบ้าบอ ไม่มีหลักหรือแก่น ก็แล้วจะตีความไปคิดกันเองได้เลย
ไม่ว่าอย่างไร บิเอลซ่า ก็ยังเป็นเช่นนี้ ตราบเท่าที่ลูกทีมยังพร้อมเดินตามก็จะลุยกันต่อ ง่ายๆแค่นี้เอง
1
.
ทุกท่านสามารถติดตามอ่านบทความย้อนหลังได้ที่ ..
.
และเพิ่มเพื่อนไลน์แอด "เพื่อเด้งเตือน" ให้คุณได้อ่านก่อนใคร กดที่ลิงค์นี้ครับ
ขอบคุณครับ
โฆษณา