28 ธ.ค. 2020 เวลา 13:35 • ความคิดเห็น
เรื่องที่ประทับใจที่สุดในปี 2563 ของผมก็คือ "เมื่อแม่ผมร้องเพลง happy birthday "..
"อะไรกัน เรื่องแค่นี้เนี่ยนะ ประทับใจ
แม่ใคร ๆ ก็ร้องเป็น กะอีแค่เพลงแฮปปี้เบิร์ธเดย์...ทูยู.."
หลายคนอาจจะนึกในใจแบบนี้
..
อยากรู้ไหม ทำไมผมถึงได้ยกให้เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ผมประทับใจที่สุดในปีนี้..
..
เพลงเนื้อร้องสั้น ๆ ง่าย ๆ ที่เด็กอนุบาลที่ไหนก็ร้องได้ อย่างแฮปปี้ เบิร์ธเดย์ ทูยู......
มันอาจจะง่ายสำหรับคนส่วนใหญ่ แต่สำหรับแม่ผม ...
มันยาก ยากจนแทบจะไม่มีทางเกิดขึ้น
..
ทำไมผมถึงได้บอกว่า มันยาก
เดี๋ยวผมจะเล่าให้ฟัง...
..
เหตุการณ์เกิดขึ้นในวันคล้ายวันเกิดปีนี้ของผมเอง ย้อนไปสักสองเดือนก่อน
หลายปีที่ผ่านมานี้ ตั้งแต่แม่เริ่มป่วย
ผมไม่เคยสนใจวันเกิดตัวเองเลยสักปี
เพราะผมไม่ได้ให้ความสำคัญกับมันเลย
ปีไหนถ้ามีคนในบ้านจำได้ เต็มที่ก็คือไปทำบุญถวายสังฆทานที่วัดเงียบ ๆ แล้วรีบกลับบ้าน..
ถ้าไม่มีใครจำได้ ผมก็จะเฉย ๆ ปล่อยให้เป็นแค่วัน ๆ หนึ่งที่กำลังจะผ่านไป
ปีนี้ก็เหมือนเดิม คือ ทุกคนเงียบ ๆ ต่างคน ต่างทำงาน ต่างทำหน้าที่ประจำวันกันตามปกติ...
เช้า เที่ยง เย็น...ผ่านไป
พอตกตอนค่ำ หน้าที่หลักของผมหลังเสร็จงานส่วนตัวทั้งหมด
หน้าที่ผมคือ ผมต้องเตรียมป้อนข้าวแม่เหมือนทุกวัน
แม่ผมป่วยด้วยโรคหลายโรค
ทั้งมะเร็ง ความดันสูง โรคซึมเศร้าและภาวะสมองเสื่อม...
แต่แม่ก็ยังไม่ถึงกับเป็นผู้ป่วยติดเตียง
ท่านยังสามารถเดินด้วยวอล์คเกอร์สี่ขา แบบมีคนช่วยประคองได้ในระยะไม่เกิน 10 เมตร
อาการปัจจุบันคือ แม่เริ่มจำใครไม่ได้ เริ่มหลงเวลา สถานที่ บางทีก็ลืมชื่อลูกด้วยซ้ำไป
..
เวลาอาหารมื้อเย็นทุกวัน ผมจะนั่งป้อนข้าวแม่ ตรงบริเวณหน้าทีวี
ส่วนคนอื่น ๆ ในบ้านก็กินข้าวบ้าง ทำงานอย่างอื่นบ้าง
ก่อนที่วันเกิดปีนี้ของผมกำลังจะผ่านไปแบบวันธรรมดาวันหนึ่ง
อยู่ ๆ ก็มีเสียงรถขับเข้ามาในบ้าน..
..
ปรากฏว่า เป็นรถของน้าสาวผมเอง
น้าผมกับลูกชาย มาด้วยกัน 2 คน
น้าผมเดินยิ้มเข้าบ้านมา พร้อมกับถือเค้กปอนด์เล็ก ๆ 1 กล่อง แล้วน้าก็พูดขึ้นว่า..
"มาเป่าเค้กวันเกิดกัน มา ๆ วันนี้วันพิเศษ"
อารมณ์แรกที่เห็นน้าถือเค้กมา ผมก็
แอบนึกดีใจว่า
มีคนสนใจวันเกิดเราด้วยเนอะ ...
ถึงจะมีแค่ 2 คนก็ยังดี😊
..
ตอนนั้นถ้าให้ผมเดาใจน้าสาวผมนะ
เอาตรง ๆ คือแกคงสงสารผมนั่นแหละ
เพราะเดือนนั้นมีลูก ๆ หลาน ๆ ที่มีวันเกิดในเดือนเดียวกันน่าจะ 8 - 9 คน
พอถึงวันเกิด ทุกคนต่างก็จัดงาน หรือไม่ก็ออกไปกินฉลองกันที่ร้านอาหาร กันหมด
ถามว่า แล้วเขาไม่ชวนผมกับที่บ้านเหรอ...ชวนครับ ชวนทุกรอบ แต่ผมปฏิเสธทุกรอบ เพราะผมต้องดูแลแม่ ไม่สะดวกไปนั่งร้านตอนค่ำ ๆ ...
..
พอดีว่าตอนนั้น แม่กำลังจะกินข้าวอิ่มพอดี
น้องชายก็เตรียมเค้ก จุดเทียนเรียบร้อย ...
เสร็จแล้วก็เอาเค้กมาวางตรงหน้าแม่
ซึ่งมีผมนั่งอยู่ข้าง ๆ ..
..
พอน้องชายปิดไฟ ทุกคนก็พร้อมใจกันปรบมือ แล้วก็ขึ้นต้นร้องเพลง แฮปปี้ เบิร์ธเดย์....ตามธรรมเนียม
เชื่อไหมครับ พอทุกคนเริ่มร้องเพลง
แม่ผม จากที่ปกติ ท่านจะนั่งนิ่ง ๆ ทำแค่อ้าปากตอนเราป้อนข้าวแล้วก็เคี้ยว
นาน ๆ ถึงจะเอ่ยอะไรออกมาสักคำ
...
แต่สิ่งที่ผมเห็นตอนนั้นคือ..
แม่ยกมือขึ้น ปรบมือคลอไปกับน้ากับน้อง ปากแม่ก็ฮัมเพลงแฮปปี้ เบิร์ธเดย์ไปกับทุกคน...ถูกบ้าง ผิดบ้าง
แต่แม่ก็ยังร้องและปรบมือจนจบเพลง
..
ผมนี่ น้ำตาไหลเลย..
..
การที่มีคนเอาเค้กปอนด์เล็ก ๆ มาอวยพรวันเกิดให้ ในวันที่แสนเงียบ
เหงา ก็ว่าดีใจแล้ว
นี่มาเห็นแม่ที่บางวันยังจำชื่อลูกตัวเองไม่ได้ด้วยซ้ำ
กำลังร้องเพลงวันเกิดให้เรา...
...
วันนั้นผมเป่าเค้กทั้งน้ำตาเลยครับ
..
ที่เขียนนี่ก็เขียนไป น้ำตาคลอไป
..
แม่ผมจบแค่ชั้นประถม
อยู่บ้านนอกมาตลอดชีวิต
เรื่องภาษาอังกฤษคงไม่ต้องพูดถึง
..
ปัจจุบัน ก็ทั้งชรา ทั้งป่วย ช่วยเหลือตัวเองได้น้อยมาก..
..
เพลงง่าย ๆ ของใคร ๆ
มันจึงเป็นเรื่องยากมากสำหรับแม่ผม
..
เพลงแฮปปี้ เบิร์ธเดย์ ของแม่ผมในปีนี้
คือปาฏิหาริย์ ...ของผม
นี่คือสิ่งที่ดีที่สุด
และประทับใจที่สุด...แล้วครับ
#เพลงHappy birthday ของแม่
ขอบคุณพี่อู๋นะครับ
ที่ให้ร่วมแบ่งปันเรื่องประทับใจในปีนี้
อยากให้ทุกคนร่วมแชร์เรื่องราวดี ๆ ของตัวเองในปีนี้นะครับ...
มันอาจจะทำให้คุณรู้สึกว่า ปีนี้มันก็ไม่ได้แย่ไปเสียทุกอย่าง....
เรายังคงมีเรื่องดี ๆ ของชีวิตอยู่
โพสต์ต้นทางจากพี่อู๋
เพจยุคใหม่การตลาดของไทย
โฆษณา