4 ม.ค. 2021 เวลา 12:00 • นิยาย เรื่องสั้น
[ เรื่องเล่าชมรมวิทย์ l New Year Special ]
ตอนพิเศษ : วันปีใหม่ (2)
งานเลี้ยงปีใหม่เริ่มตั้งแต่เที่ยงเป็นต้นไป เพราะตอนเช้ายังต้องเรียนสามคาบแรกให้เสร็จเรียบร้อยก่อน พอออดหมดเวลาดังขึ้น เด็กนักเรียนทุกคนต่างก็แยกย้ายทำหน้าที่ของตัวเองตามที่ได้ตกลงกันไว้ ฝ่ายเตรียมสถานที่รีบกุลีกุจอยกโต๊ะเก้าอี้ไปเรียงซ้อนกันไว้ริมห้องเพื่อให้มีพื้นที่ว่างตรงกลาง พร้อมกับจัดบริเวณสำหรับวางอาหารและของขวัญจับฉลาก ฝ่ายตกแต่งสถานที่ซึ่งก็คือ อาร์ตและบอส สองเพื่อนซี้ชมรมศิลป์กำลังนำอุปกรณ์ที่เตรียมมาประดับห้องอย่างสวยงาม ฝ่ายอาหารก็คือฉันกับเพื่อนอีกสองคน ลงไปยกถังน้ำแข็งที่โรงอาหาร พร้อมกับนำอาหารของทุกคนมาจัดเรียงเพื่อความสะดวกในการรับประทาน ฝ่ายของขวัญทำเบอร์ติดกล่อง พร้อมกับทำฉลากแยกใส่กระป๋องไว้อีกชุด สำหรับการจับฉลาก
“ซายน์ มาช่วยโต๊ะหน่อยซี่ เร็วเร้วววววว”
โต๊ะอู้ส่งเสียงเรียกให้ไปช่วยยกโต๊ะ หลังจากเห็นฉันเพิ่งกลับมาจากไปเอาน้ำแข็งที่โรงอาหาร
“จ้ะๆ มาช่วยแล้ว โต๊ะเอาของขวัญไปติดเบอร์ยัง”
“เรียบร้อยแล้ว ซายน์ล่ะ”
“เหมือนกัน ตั้งแต่ก่อนจะลงไปโรงอาหารแล้ว”
“ตื่นเต้นเนอะ เราจะจับได้ของใคร แล้วใครจะจับได้ของเราน้า”
“ซายน์ไม่เห็นสนใจเลย อาหารพวกนี้น่าสนใจกว่าตั้งเยอะ”
“จริงด้วย ว้าว”
โต๊ะขานรับตาเป็นประกายจนฉันอดยิ้มไม่ได้ เมื่อทุกอย่างเรียบร้อย งานเลี้ยงก็เริ่มต้นขึ้นอย่างสนุกสนาน เวลาผ่านไปราวสองชั่วโมง ทั้งกิน เต้น เล่นเกม จนมาถึงช่วงเวลาแห่งการจับฉลาก ฉันจับได้ของบอสเพื่อนสนิทอาร์ต เพื่อนผู้ชายอีกคนนึงในห้องจับได้ของฉัน โชคดีที่เพื่อนคนนั้นขี้เซา ดูจากสีหน้าแล้วคิดว่าน่าจะชอบหมอนผ้าห่มอยู่ไม่น้อย
1
และแล้วช่วงเวลาที่รอคอยก็มาถึง เมื่องานเลี้ยงเลิก ฉันเห็นอาร์ตกับบอสรีบเก็บของที่นำมาตกแต่งห้อง ถ้าเดาไม่ผิดต้องมีธุระที่ห้องชมรมศิลป์แน่ ฉันเลยบอกโต๊ะอู้กับเพื่อนคนอื่นที่ชวนไปห้างแมรี่ต่อ ว่ามีธุระที่ชมรมวิทย์
หลังจากเก็บกวาดทุกอย่างให้กลับสู่สภาพห้องเรียนตามปกติ ฉันก็หยิบกระเป๋าที่มีสมุดสเกตช์ห่ออย่างดีมากอดไว้แน่นเพื่อลดความประหม่าแล้วเดินไปที่ห้องชมรม บรรยากาศแถวห้องชมรมเงียบสนิท ก็แน่ล่ะ ใครจะอยากมาแถวนี้หลังงานเลี้ยงเลิกกันนะ
‘ยกเว้นอีตานั่น’
ห้องชมรมศิลป์อยู่ถัดจากจากชมรมวิทย์สองห้อง ฉันจึงตัดสินใจมานั่งเล่นอยู่ห้องชมรมวิทย์เพื่อรวบรวมความกล้าสักพัก แต่อยู่ๆก็มีเสียงเปิดประตูดังขึ้นทำลายความเงียบ ฉันสะดุ้งรีบหันไปมองยังต้นเสียง ก็เห็นบอสยืนเกาหัวมองมาอย่างคนทำอะไรไม่ถูก
“อ้าว มีอะไรเหรอบอส”
“ซายน์ เราอยากได้ของขวัญจับฉลากของตัวเองคืนอ่ะ มาแลกกันเถอะ”
“หะ”
“เราจับได้ของอาร์ตน่ะ แต่ไม่ชอบ แลกกันนะๆ”
ฉันมองไปที่ถุงของขวัญในมือบอสอย่างชั่งใจ ความจริงจะจับได้อะไรหรือของใครก็ไม่ได้สนใจมากอยู่แล้ว แต่ว่ามีคนอยากได้ของที่ตัวเองเอามาจับฉลากคืนด้วยเหรอ แปลกจัง
“ซายน์สงสัยเลยนะเนี่ย ว่าของบอสคืออะไรกันแน่ ยังไม่ได้แกะเลย”
“ซายน์จะแกะดูก่อนก็ได้นะ ไม่ชอบแล้วค่อยแลก”
“ไม่เป็นไร แลกก็ได้ อ่ะนี่”
ฉันยื่นกล่องของขวัญให้บอส แล้วรับกล่องของอาร์ตมา เขายิ้มและบอกขอบคุณก่อนจะเดินไปทางประตู
“เอ้อ บอส แล้วอาร์ตล่ะ อยู่ที่ห้องชมรมหรือเปล่า”
“อ๋อ อาร์ต เอ่อ กลับบ้านไปแล้วน่ะ”
“อ่อ... อืม ขอบคุณนะ”
ฉันรู้สึกผิดหวังจนแทบเก็บสีหน้าไว้ไม่อยู่ ในใจก็คิดหาวิธีอื่นที่พอจะเป็นไปได้ ช่วงนี้อาร์ตไปห้องสมุดบ่อยคงเพราะอ่านหนังสือเตรียมสอบเข้า ม. 4 ถ้ารอเจอตอนกลับมาจากห้องสมุดก็น่าจะเป็นจังหวะที่ดีหรือเปล่านะ
‘โอ๊ย อีตานี่ ทำไมต้องรีบกลับบ้านวันนี้ด้วยนะ หึ! ไม่ต้องดีกันซะก็ได้มั้ง’
1
ฉันหยิบของขวัญจับฉลากของอาร์ตที่บอสจับได้ขึ้นมาดู ถุงกระดาษบุพลาสติกอย่างหนาสีชมพู ถูกเจาะรูและมีโบว์สีขาวผูกไว้ด้านบน ‘อืม หวานแบบนี้เลยเหรอ มิน่า บอสถึงไม่อยากได้’ ข้างหน้ามีตัวหนังสือสีแดงเขียนกำกับไว้ว่า ‘Handle with Care’ จนชวนให้สงสัยว่าข้างในคืออะไรกันแน่
ฉันมองผ่านช่องที่แง้มอยู่ของถุงกระดาษเห็นเป็นขวดที่ใช้ในการทดลองวิทยาศาสตร์ ข้างในมีอะไรเขียวๆอยู่มองไม่ถนัด จึงตัดสินใจกลับไปแกะดูที่บ้าน
“กลับมาแล้วค่ะ ขึ้นห้องก่อนนะคะ!”
“ซายน์ *^$฿*^’_¥’*:¥€},,}^^*”$฿”
เสียงคุณพ่อพูดตามหลังมา แต่ฉันไม่ได้สนใจเพราะจะรีบขึ้นห้องเพื่อแกะของขวัญของอาร์ต ฉันวางถุงกระดาษลงบนโต๊ะเขียนหนังสืออย่างเบามือ ก่อนจะค่อยๆแกะอย่างระมัดระวัง เมื่อเห็นของข้างในก็ต้องประหลาดใจ ความทรงจำในอดีตผุดขึ้นมาอีกครั้ง
[ อาร์ตๆ ซายน์ชอบต้นไม้พวกนี้ของบ็อบจัง ]
[ บ็อบ คือ ปลาทองแก้มกลมที่ว่ายปล่อยฟองอากาศบุ๋งๆไปมาในน้ำอย่างสบายใจ คุณน้าทั้งสองตกแต่งตู้เลี้ยงปลาไว้อย่างสวยงาม จนฉันรู้สึกอิจฉาอยากลงไปอยู่กับบ็อบทุกครั้งเวลามาเล่นที่บ้านอาร์ต ]
[ ต้นไม้ตกแต่งตู้ปลาเนี่ยนะ ]
[ อืม ซายน์ชอบต้นไม้ อาร์ตก็รู้ พอมาเห็นต้นเล็กๆแบบนี้ซายน์ว่ามันน่ารักดี ]
มันคือ terrarium beaker ที่ใช้ภาชนะสำหรับการทดลองวิทยาศาสตร์มาตกแต่งเป็นสวนขนาดจิ๋ว ปลูกต้นไม้เล็กๆไว้ข้างในอย่างสวยงาม ดอกไม้สีชมพูเล็กๆดูแล้วช่างน่ารักน่าทะนุถนอม
‘หรือว่าอาร์ตจะจำได้?’
‘บ้าน่า นี่อาร์ตเอามาจับฉลากนะ ไม่ได้ให้เธอสักหน่อยนะซายน์’
ฉันคุยกับตัวเอง นิสัยพูดคนเดียวที่แก้ไม่หายสักทีทำให้ชอบพึมพำกับตัวเองบ่อยๆ ทั้งๆที่รู้ว่าอาร์ตไม่ได้ซื้อให้ แต่ทำไมถึงรู้สึกดีใจแบบนี้นะ ฉันยก ‘เจ้าจิ๋ว’ ไปวางไว้ริมหน้าต่างเพื่อให้ได้รับแสงแดดพอประมาณ หันไปเห็นทีไรก็อดยิ้มออกมาอย่างมีความสุขไม่ได้
‘เพราะต้นไม้น่ารักแหละ ไม่เกี่ยวอะไรกับคนซื้อหรอก’
ฉันตัดสินใจเก็บสมุดสเกตช์ไว้ในลิ้นชัก ความรู้สึกบางอย่าง ไม่บอกออกไปคงจะดีกว่า ฉันไม่ได้โกรธอาร์ต ไม่เคยโกรธเลย ความเสียใจในอดีตส่วนหนึ่งคงเป็นเพราะอารมณ์ของเด็ก เลยทำให้เราห่างกันมากขึ้น แต่หลังจากนี้ฉันคิดได้แล้วว่าจะคอยเป็นคู่ปรับกับเขาแทน ก็ดูเป็นอะไรที่น่าสนุกดี ถึงอย่างไรบ้านเราสองคนก็อยู่ตรงข้ามกัน หนีกันไม่พ้นอยู่แล้วนี่
หลังจากวันนั้นเราสองคนก็ไม่ได้คุยกันเหมือนเดิม แต่สิ่งที่ต่างจากเดิมคงเป็นความรู้สึกในใจของฉันเอง ฉันไม่รู้ว่าอาร์ตรู้สึกอย่างไรเกี่ยวกับเหตุการณ์ตกต้นไม้เมื่อหลายปีก่อน แต่ดูจากเวลาที่เขามองมาหรือส่งยิ้มให้ ฉันคิดเองว่าเขาก็คงอยากให้ความสัมพันธ์ของเรากลับมาเป็นเหมือนเดิมเช่นกัน
ปีใหม่ มักเป็นช่วงเวลาพิเศษที่หลายคนใช้เริ่มต้นอะไรใหม่ๆ สิ่งต่างๆที่ผ่านมาในปีก่อนเปรียบเสมือนถ้วยรางวัลแห่งการเติบโต เรื่องราวดีๆก็เก็บไว้เป็นความทรงจำ เป็นรอยยิ้มเมื่อนึกถึง ส่วนเรื่องไม่ดีก็ทิ้งไว้ให้เป็นบทเรียน เพื่อจะได้ไม่ทำผิดพลาดซ้ำอีก
“ซายน์ แม่เพิ่งอบคุ้กกี้เสร็จว่าจะเอาไปตักบาตรในงานทำบุญวันสิ้นปีที่วัดพรุ่งนี้ ซายน์เอาไปให้บ้านอาร์ตด้วยสิจ๊ะ นี่ แม่แบ่งไว้ให้แล้ว”
“ได้ค่ะแม่”
วันหยุดแบบนี้อาร์ตคงออกไปห้องสมุดเช่นเคย ไม่แน่ใจว่าคุณพ่อกับคุณแม่ของอาร์ตอยู่บ้านหรือเปล่า คุณน้าผู้ชายเป็นนักจิตวิทยา ส่วนคุณน้าผู้หญิงเป็นนักวาดภาพประกอบ ทั้งสองคนใจดีมาก มักจะมีของน่ารักๆมาให้ฉันเสมอ
“อาร์ต!”
ฉันพยายามทำหน้านิ่งก่อนจะตะโกนเรียกเสียงดังจากหน้ารั้วบ้าน เมื่อเห็นเขากำลังเดินมา อาร์ตทำหน้าแปลกใจเล็กน้อยแต่ก็ส่งยิ้มมาให้
“มีอะไรเหรอซายน์”
“เพิ่งกลับจากห้องสมุดเหรอ”
“อืม ช่วงนี้ต้องเตรียมตัวสอบเข้า ม. 4 นี่ ซายน์สนใจจะไปอ่านที่ห้องสมุดด้วยกันไหม วันหลังอาร์ตจะได้ชวน”
“ไม่ดีกว่า ซายน์อยากอ่านเงียบๆคนเดียว”
“อืม...”
“ที่บ้านเพิ่งอบคุ้กกี้เสร็จน่ะ แม่ทำเผื่อด้วย อ่ะ รับไปสิ”
“โห น่ากินจัง ขอบคุณนะ”
เขายิ้มกว้างออกมา หลังจากเพิ่งทำหน้าจ๋อยเมื่อสักครู่
“ไปขอบคุณแม่เถอะ”
อาร์ตทำตาโต ในขณะที่ฉันยิ้มมุมปากแล้วรีบหันหลังกลับเดินไปเปิดประตูบ้าน เมื่อมองผ่านเงาสะท้อนของเหล็กตรงบานประตู ยังเห็นเขายืนนิ่งถือกล่องคุ้กกี้อยู่แบบนั้น จึงหันไปแลบลิ้นให้อีกหนึ่งที แล้วเข้าบ้านโดยไม่สนใจสีหน้าของอาร์ตที่ตอนนี้ดูตกตะลึงยิ่งกว่าเดิม
‘แบร่!’
“Baby
Can you hear my heart beating
Can you hear that sound?
I can hear your heart beating
I can hear that sound
And then I looked up at the sun and I could see
Oh, the way that gravity pulls on you and me”
🎁 สำหรับซายน์ ถึงแม้อาร์ตจะดูเหมือนขั้วตรงข้าม อย่างแสงและเงา แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าถ้าไม่มีแสง คงไม่มีเงาเช่นกัน เราสองคนเป็นความแตกต่างที่เหมือนกับมีแรงดึงดูดส่งมาให้โคจรวนเวียนรอบกันและกันอยู่เสมอ
#จบตอนพิเศษ วันปีใหม่
ฟังเพลง “Gravity” (2005) โดย Coldplay ได้ที่นี่ ⬇️
สวัสดีค่ะทุกคน ❤️
จบตอนพิเศษ ‘วันปีใหม่’ ไปแล้วนะคะ ไม่รู้จะถูกใจกันไหม นี่เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นตอน ม. 3 ของซายน์กับอาร์ต ย้อนอดีตไป 11 ปี เพราะตอนนี้ทั้งสองคนเรียนจบทำงานแล้วทั้งคู่ค่ะ
สำหรับตอนหลัก ก็ยังติดตามการผจญภัยของพวกเรากันต่อได้นะคะ รับรองว่ายังมีเรื่องสนุกๆอีกเยอะ อาจจะมาบ้าง ไม่มาบ้าง ต้องขอบคุณสำหรับทุกกำลังใจและการติดตามจากเพื่อนๆด้วยนะคะ
ส่วนตอนนี้ขอเชิญให้อ่านเรื่องราวอีกมุมหนึ่งของตัวละคร ‘อาร์ต’ ได้ที่เพจ ให้เพลงพาไป หรือคลิกที่ลิงค์ข้างล่างนี้ได้เลยค่ะ :) ⬇️
โฆษณา