6 ม.ค. 2021 เวลา 04:03 • สุขภาพ
ออสเตรเลีย ประกาศไม่ร่วมวงเร่งรีบฉีดวัคซีนโควิด-19
เน้นช้าแต่ชัวร์ รอผลประเมินที่ชัดเจนเพื่อความปลอดภัย
1
ในขณะที่หลายประเทศบนโลกกำลังเร่งรีบที่จะได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด – 19 ไม่ว่าจะเป็นประเทศผู้ผลิตวัคซีน หรือประเทศคู่ค้าวัคซีนที่สั่งซื้อเอาไว้ และทยอยส่งมอบกันแล้ว ซึ่งผลข้างเขียงจากอาการแพ้หลังรับวัคซีนไปก็เริ่มมีปรากฎให้เห็นหลายราย กลายเป็นคำถามของสังคมโลกว่า การพัฒนาวัคซีนที่เร่งรีบเกินไป ไม่มีการทดสอบตามระยะเวลาอย่างที่วัคซีนโรคอื่นๆ ทำนั้น อาจสร้างผลเสียมากกว่าผลลัพธ์ที่ดีต่อการป้องกันโรคหรือไม่ เพราะอาการแพ้วัคซีนมีตั้งแต่อาการเจ็บปวดเล็กน้อย ไปจนถึงการช็อกวัคซีนจนต้องหามเข้าห้องไอซียู ซึ่งผลข้างเคียงเหล่านี้กำลังสร้างความวิตกกังวลต่อการเปิดใจของผู้คนในการรับวัคซีนโควิด – 19
แต่ในความเร่งรีบของหลายประเทศนั้นมีบางประเทศที่ยังมีมุมมองว่าการรีบรับวัคซีนในเวลานี้ อาจไม่ใช่คำตอบของการป้องกันโรคที่ได้ผล ซึ่งหนึ่งในนั้นคือประเทศออสเตรเลีย
เรื่องนี้เปิดเผยจากนายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย สกอตต์ มอร์ริสัน และนายเกร็ก ฮันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขกล่าวย้ำว่า ไม่มีแผนที่จะเร่งฉีดวัคซีนโควิด -19 ในตอนนี้ เพราะตามไทม์ไลน์แล้ว ออสเตรเลียจะสามารถใช้วัคซีนได้ในเดือนมีนาคมตามแผนที่กำหนดไว้
ออสเตรเลียจะไม่รับ "ความเสี่ยงที่ไม่จำเป็น" และเลียนแบบ การอนุมัติวัคซีนแบบฉุกเฉินของสหราชอาณาจักร สิ่งที่เราได้เห็นในสหราชอาณาจักรและสหรัฐอเมริกาซึ่งมีผู้เสียชีวิตวันละหลายแสนคนคือ พวกเขาได้ให้สิ่งที่เรียกว่า ‘การอนุญาตในกรณีฉุกเฉิน’ หมายความว่ากระบวนการประเมินประสิทธิภาพของวัคซีนยังไม่เสร็จสมบูรณ์ แต่เมื่อพิจารณาจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสที่เวลาร้ายในประเทศเหล่านี้ พวกเขาไม่มีทางเลือกที่จะต้องเร่งฉีดวัคซีน ต่อให้มันจะยังไม่พร้อมก็ตาม
ตรงกันข้ามกับออสเตรเลียที่แม้จะมีการระบาดในนิวเซาท์เวลส์หรือที่เรียกว่ากลุ่ม Avalon แต่สถานการณ์ในออสเตรเลียก็ยังไม่ร้ายแรงพอที่จะอนุมัติให้มีการฉีดวัคซีนในเวลานี้ เพราะต้องรอผลลัพธ์จากการที่สอบที่แน่ชัดว่าปลอดภัยกระบวนการอนุมัติทั้งหมดถึงจะเสร็จสมบูรณ์
1
ฮันต์บอกว่า “สิ่งหนึ่งที่เรามั่นใจอย่างยิ่งคือ การทำให้แน่ใจว่าโปรแกรมการฉีดวัคซีนของเราปลอดภัย จะมีการเรียนรู้จากบทเรียนในสหราชอาณาจักรและสหรัฐอเมริกา แต่สำหรับชาวออสเตรเลียนั้นเรามุ่งมั่น 100% ที่จะประเมินผลอย่างละเอียดถี่ถ้วนแต่รวดเร็ว”
“เราคาดว่าจะมีการตัดสินใจอนุมัติการฉีดวัคซีนครั้งแรกของออสเตรเลียจะเกิดขึ้นภายใน 6 สัปดาห์หรือประมาณจากหน่วยงานกำกับดูแลของเราคือ TGA [Therapeutic Goods Administration] จากนั้นเรากำลังจะเริ่มฉีดวัคซีนครั้งแรกในเดือนมีนาคมโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายในระดับสากลโดยสมัครใจสำหรับชาวออสเตรเลียทุกคนในปี 2564”
#กระบวนการประเมินในออสเตรเลียเป็นอย่างไร?
มอร์ริสันกล่าวว่า จะต้องสามารถรับรองชาวออสเตรเลียได้ว่าจะไม่เสี่ยงต่อสุขภาพของพวกเขาในแบบที่เราจัดการด้วยการอนุมัติและการใช้วัคซีน ซึ่งต้องปลอดภัยและต้องปฏิบัติตามกฎเหล่านั้นทั้งหมด”
กฎข้อแรกคือ บริษัทยาจะต้องส่ง "ใบสมัครการพิจารณาชั่วคราว" ไปยัง TGA ในขั้นตอนนี้ TGA ต้องการดูลักษณะของข้อมูลทางเทคนิคเบื้องต้นและหลักฐานของแผนการที่จะส่งข้อมูลทางเทคนิคที่ครอบคลุมมากขึ้นตามแผนการดำเนินการ นอกจากนี้ยังต้องการเห็นการโต้แย้งและหลักฐานที่ชัดเจนว่า เหตุใดจึงจำเป็นต้องใช้ยาหรืออุปกรณ์ทางการแพทย์ของบริษัทนี้
TGA ต้องการทราบว่าสารออกฤทธิ์ในยาคืออะไร และส่วนผสมเหล่านี้ต้องมีชื่อที่ได้รับการรับรองจากออสเตรเลียเท่านั้น
หาก TGA ให้การตัดสินใจชั่วคราวผู้สนับสนุนสามารถยื่นขอขึ้นทะเบียนวัคซีนชั่วคราวได้ ซึ่งในเดือนตุลาคม TGA ได้ให้การรับรองชั่วคราวแก่ AstraZeneca ผู้ผลิตวัคซีนที่ได้รับการพัฒนาร่วมกับมหาวิทยาลัย Oxford ของสหราชอาณาจักร
#จะเกิดอะไรขึ้นต่อไปหลังผ่านการรับรองชั่วคราว?
บริษัทยาจะต้องส่งเอกสารที่ครอบคลุมถึง TGA พร้อมรายละเอียดเกี่ยวกับการศึกษาทางคลินิก การศึกษาที่ไม่ใช่ทางคลินิก และพิษวิทยาเคมี การผลิต การจัดการความเสี่ยง และข้อมูลอื่นๆ ซึ่งอาจมีจำนวนมากกว่า 100,000 หน้า ดังนั้น TGA จึงต้องใช้เวลาในการตรวจสอบอย่างละเอียด และในระหว่างขั้นตอนการประเมินผลก็จะต้องเทียบเคียงกับหน่วนงานที่ดูแลเรื่องนี้ในต่างประเทศที่เทียบเคียงได้อีกด้วย
เมื่อ TGA ได้ขึ้นทะเบียนวัคซีนชั่วคราวแล้วสามารถจัดหาวัคซีนได้ตามกฎหมายในออสเตรเลียแล้ว แต่ TGA ก็ยังต้องตรวจสอบยาและอุปกรณ์ทางการแพทย์อย่างต่อเนื่องแม้ว่าจะได้รับการอนุมัติให้ใช้และได้รับการขึ้นทะเบียนแล้วก็ตาม
สถานการณ์การแพร่ระบาดในออสเตรเลียได้ถูกกำจัดการแพร่เชื้อและสามารถควบคุมการระบาดให้น้อยลงได้ มีเพียงบางพื้นที่โดยเฉพาะในเมืองใหญ่ที่สุดของประเทศอย่างซิดนีย์และเมลเบิร์นที่ยังพบการระบาดในกลุ่มเล็กๆ
ปัจจุบันมีผู้ป่วยที่ยังคงรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลประมาณ 26 คนทั่วประเทศ เมื่อเทียบกับสหราชอาณาจักรที่มีผู้ป่วย โควิด - 19 เกือบ 60,000 รายต่อวันเป็น
มอร์ริสันกล่าว "สำหรับสหราชอาณาจักรและสหรัฐแล้ว พวกเขาไม่ได้ทดสอบวัคซีนอย่างละเอียดก่อนที่จะอนุมัติฉีดให้กับประชาช ต่างจากออสเตรเลียที่รัฐบาลพยายามให้ข้อมูลเกี่ยวกับความปลอดภัยของวัคซีนแก่ประชาชนมากกว่าเท่าที่จะเป็นไปได้”
ทั้งนี้ออสเตรเลียซึ่งมีประชากรราว 25 ล้านคน ได้ตกลงที่จะซื้อวัคซีนของ University of Oxford / AstraZeneca เกือบ 54 ล้านโดสโดยจะส่งมอบให้ได้ 3.8 ล้านครั้งในต้นปีนี้
นอกจากนี้ยังบรรลุข้อตกลงสำหรับ Novavax 51 ล้านโดสในปีนี้ รวมทั้งวัคซีน Pfizer/BioNTech 10 ล้านโดสอีกด้วยพร้อมกับได้ลงทุนในการพัฒนาวัคซีนของมหาวิทยาลัยควีนส์แลนด์ในประเทศซึ่งยังอยู่ในระหว่างการทดลอง
1
ดังนั้น "เร็วกว่า" ไม่ได้แปลว่า "ดีกว่า" เสมอไป ในมุมของออสเตรเลียนั่นเอง
แหล่งอ้างอิง
Why Australia isn't budging on its Covid vaccination plans
Australia vows not to rush vaccine rollout, citing UK 'problems'
1
โฆษณา