6 ม.ค. 2021 เวลา 14:25 • ความคิดเห็น
แม้เผชิญโควิด-19 เวียดนามยังเด่น
โดย
นิติภูมิธณัฐ
มิ่งรุจิราลัย
กำลังใจของประชาชนในประเทศนี่สำคัญครับ ในช่วงที่มีวิกฤติโควิด-19 คนเวียดนามยังมีกำลังใจเข้มแข็ง ในขณะที่ประเทศอื่นฟุบ แต่เวียดนามกลับขยับเขยื้อนประเทศไปข้างหน้าได้เป็นอย่างดี
https://vietnaminsider.vn/vietnam-plans-targeting-growth-of-6-5-to-7-for-2021-25/
ผมอ่านจากรายงานของสำนักงานสถิติเวียดนาม พบว่าจีดีพีเวียดนาม พ.ศ.2563 ยังขยายตัวอยู่ที่ร้อยละ 2.91 (ในขณะประเทศอื่นติดลบ) พอไปดูการคาดการณ์ของธนาคารโลกที่บอกว่า พ.ศ. 2564 จีดีพีเวียดนามจะขยายตัวได้ถึงร้อยละ 6.8 และจะขยายตัวอยู่ที่ระดับร้อยละ 6.5
 
ธนาคารโลกคาดการณ์ตัวเลขการขยายตัวของเวียดนาม พ.ศ. 2564 สูงกว่าที่สภาแห่งชาติเวียดนามกำหนดไว้คือร้อยละ 6 ปีนี้ รัฐบาลเวียดนามจะขยายและสร้างความหลากหลายให้ตลาดส่งออกและนำเข้า โดยเวียดนามจะใช้ประโยชน์จากข้อตกลงการค้าเสรีที่ตนเองไปลงนามกระจายไปทั้งโลก ถ้าผมจำไม่ผิด เวียดนามมีเอฟทีเอกับประเทศต่างๆ มากกว่า 50 ประเทศ
 
สิ่งที่รัฐบาลเวียดนามนำมาใช้ในปีนี้คือ Economic Model หรือแบบจำลองเศรษฐกิจของประเทศ ที่ใช้วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม เข้ามาช่วยให้ประชาชนเพิ่มผลผลิตและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันทางเศรษฐกิจ ที่น่าสนใจคือ ใน พ.ศ. 2564 รัฐบาลเวียดนามจะเพิ่มประสิทธิภาพประกันสังคมให้ครอบคลุมประชากรถึงร้อยละ 91 ซึ่งถือว่าสูงมาก
 
ข่าวดีของเวียดนามออกมาเป็นระยะ ขณะที่เขียนกำลังเขียนคอลัมน์อยู่นี้ รอยเตอร์รายงานข่าวว่า เวียดนามเริ่มลงมือสร้างเฟสแรกของสนามบินนานาชาติล็องถั่ญ ซึ่งเป็นสนามบินที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ มีรันเวย์ที่ยาวถึง 4 กิโลเมตร อาคารที่รับผู้โดยสารได้มากถึง 25 ล้านคนและขนส่งสินค้าน้ำหนัก 1.2 ล้านตันต่อปี รัฐบาลเวียดนามลงทุนในเฟสแรก 4,660 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เมื่อเสร็จทุกเฟสแล้วก็จะมีมูลค่าการก่อสร้างรวม 16,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และรองรับผู้โดยสารได้ 100 ล้านคน
www.worldofaviation.com
จากรายงานของ Worldmeters.info ในขณะที่คนทั้งโลกติดเชื้อโควิด-19 มากถึง 87 ล้านคน ตายไปแล้ว 1.87 ล้านคน แต่เวียดนามมีคนติดเชื้อโควิด-19 เพียง 1,504 คน มีคนตาย 35 คน ก็ถือว่าสถานการณ์ด้านโควิด-19 ของเวียดนามยังดีกว่าหลายประเทศ
 
ผมตามข่าวจากสำนักงานสถิติของเวียดนามพบว่า พ.ศ.2563 การลงทุนโดยตรงของต่างประเทศหรือ FDI ที่ลงทุนในเวียดนามมีมูลค่ารวมถึง 28,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ตีเป็นเงินไทยก็ 8.83 แสนล้านบาท โดย 14,600 ล้านดอลลาร์ลงทุนในโครงการใหม่ 6,400 ล้านดอลลาร์ขยายลงทุนเพิ่มเติมในโครงการปัจจุบัน และ 7,500 ล้านดอลลาร์ใช้ควบรวมและซื้อกิจการ
 
ที่น่าสนใจสำหรับการลงทุนครั้งใหม่ในเวียดนามที่มีมากกว่าร้อยละ 49 เป็นการลงทุนด้านการผลิต ร้อยละ 35 เป็นการลงทุนและผลิตด้านการจำหน่ายไฟฟ้า ปีที่แล้ว มีประเทศที่กระโจนเข้าไปลงทุนในเวียดนามมากถึง 79 ประเทศ เด่นสุดคือสิงคโปร์ (6,200 ล้านดอลลาร์) ตามด้วยจีน ไต้หวัน ฮ่องกง และเกาหลีใต้
 
เวียดนามประสบความสำเร็จในการดึงการลงทุนจากต่างประเทศมาก พ.ศ.2562 เวียดนามมีโครงการ FDI มากถึง 38,000 ล้านดอลลาร์ หรือ 1.1 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 7 ซึ่งเมื่อเทียบกับไทย ต้องยอมรับว่าเวียดนามกระโจนไปได้ไกลมากกว่าเราเยอะ
 
ทุกครั้งที่เขียนเกี่ยวกับความสำเร็จของเวียดนามจะต้องมีคนค้าน บอกว่าตนเองและคณะเคยเดินทางไปเยือนเวียดนาม ถนนหนทางเวียดนามยังกระจอกงอกง่อย โรงแรมยังใช้ไม่ได้ แล้วก็งัดเรื่องลบของเวียดนามออกมากระจายขยายข่าวจนเต็มโซเชียล คนที่ผมรู้จักบางท่านเมื่อเกือบ 20 ปีที่แล้ว เคยมีคนเวียดนามมารับจ้างทำงานในโรงงานก็ยังมองเวียดนามแบบเดิมๆ
 
คนจำนวนไม่น้อยยังมองกลุ่มประเทศ CLMV กัมพูชา สปป.ลาว เมียนมา และเวียดนามเหมือนเมื่ือ 20-30 ปีที่แล้ว ซึ่งในสมัยก่อนตอนนั้น ประเทศเหล่านี้เพ่ิงพ้นสถานะสงคราม แล้วก็ประมาทว่าตนเองนั้นดีที่สุด มั่นคงที่สุด แต่อาจจะลืมไปว่าทุกประเทศต่างก็มีพัฒนาการ และรัฐบาลก็หมุนเวียนเปลี่ยนไป
 
ได้รัฐบาลเก่ง ประเทศก็พุ่งกระฉูดส่งตูดจัมโบ้
 
ได้รัฐบาลไม่เก่ง ประเทศก็ย่อยยับอับปางถอยหลังลงคลอง.
2
โฆษณา