7 ม.ค. 2021 เวลา 01:37 • หุ้น & เศรษฐกิจ
BREAKING !! : ล่าสุดตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์กลับคำเป็นครั้งที่ 2 โดยประกาศว่าพวกเขายังคงมีแผนที่จะปลดบริษัทโทรคมนาคมของจีนออกจากตลาดหุ้น ซึ่งครั้งนี้กล่าวอีกด้วยว่าอาจรวมถึงบริษัทเสาหลักที่สุด 2 แห่งอย่างเช่น Alibaba และ Tencent !!
1
หุ้นของ Alibaba Group Holding Ltd.และ Tencent Holdings Ltd. ร่วงลงในตลาดนิวยอร์กหลังจากมีรายงานว่าฝ่ายบริหารของ Trump อาจระงับการลงทุนในบริษัท ที่มีค่า 2 แห่งของจีน รวมถึงบริษัทโทรคมนาคมชั้นนำอีก 3 แห่ง ซึ่งเป็นการกลับคำพูดถึง 2 ครั้งจากการประกาศครั้งแรก
Alibaba ร่วงลง 5.3% และ Tencent ลดลง 4% ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงกลาโหม และกระทรวงการคลังเป็นหนึ่งในหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการพิจารณาการถอดถอน ซึ่งแน่นอนว่าการอภิปรายจะมุ่งเน้นไปที่การเคลื่อนไหวดังกล่าวสซึ่งอาจส่งผลกระทบครั้งใหญ่ต่อตลาดหุ้น ตามรายงานของ Wall Street Journal และ Bloomberg
4
การสั่งห้ามทั้ง 2 บริษัท จะเป็นการเพิ่มความตึงเครียดขึ้นอย่างมากโดยฝ่ายบริหารของทรัมป์ เนื่องจากขนาดที่แท้จริงของทั้ง 2 บริษัทนั้นใหญ่มาก (เปรียบได้กับบริษัทเทคโนโลยีหลัก ๆ ของสหรัฐฯ อย่างเช่น apple microsoft เลยทีเดียว)
3
มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดรวมของพวกเขาอยู่ที่ 1.4 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็น 2 เท่าของขนาดตลาดหุ้นของประเทศสเปน ในขณะที่บริษัทต่าง ๆ รวมกันคิดเป็นประมาณ 11% ของน้ำหนักรวมในเกณฑ์มาตรฐานตลาดเกิดใหม่ของ MSCI Inc. (กล่าวคือมีสัดส่วนถึงประมาณ 11% ของ The MSCI Emerging Markets Index)
2
Steven Leung กรรมการบริหารของ Uob Kay Hian (HongKong) Ltd. กล่าวว่า
“If the bans are implemented then it’d be a huge thing for the market, It’s still too early to say. After the Biden administration starts, the policy could change again.”
“หากการแบนถูกนำมาใช้ มันจะเป็นเรื่องใหญ่สำหรับตลาด มันยังเร็วเกินไปที่จะพูด เพราะหลังจากการบริหารของ Biden เริ่มต้นขึ้น นโยบายตอาจเปลี่ยนแปลงได้อีกครั้ง”
1
ETF ของ iShares China Large-Cap ที่ได้รับการจับตามองอย่างใกล้ชิดลดลง 1.2% ในสหรัฐฯ ขณะที่ดัชนี NASDAQ Golden Dragon China ซึ่งติดตามหุ้นเทคโนโลยีขนาดใหญ่อื่น ๆ ของจีนลดลง 2.1% ทำให้เป็นวันที่เลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2020 ส่วนบริษัท JD.com ลดลงถึง 7.7%
ทางการสหรัฐฯ พยายามเพิ่มความพยายามที่จะกีดกันบริษัทของจีนออกจากแหล่งเงินทุนของสหรัฐฯ ในช่วงหลายเดือนสุดท้ายของการบริหารงานของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ทำให้เกิดความตึงเครียดทางเศรษฐกิจที่ทวีความรุนแรงขึ้นเมื่อประธานาธิบดีโจ ไบเดนเข้ามารับตำแหน่งต่อในเดือนนี้
ทั้งนี้ ฝ่ายบริหารของทรัมป์ ดำเนินการโดยอ้างถึงความมั่นคงของชาติ ซึ่งกำหนดให้นักลงทุนดึงเงินทุนออกจากบริษัทจีนที่เชื่อมโยงกับกองทัพของประเทศ
เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ทรัมป์ได้ลงนามในคำสั่งห้ามการทำธุรกรรมในสหรัฐฯ กับแอปฯ ของจีน 8 รายการรวมถึง Alipay ของ Ant Group Co. และกระเป๋าเงินดิจิทัลของ Tencent อย่าง WeChat Pay มันจะขึ้นอยู่กับไบเดนจะตัดสินใจว่าจะบังคับใช้นโยบายว่าเมื่อมันจะมีผล
บางครั้งมาตรการที่เร่งรีบก็ทำให้เกิดความสับสนในตลาด และกระตุ้นให้ราคาแกว่งตัวเช่นเมื่อตลาดหุ้นนิวยอร์กพลิกกลับการตัดสินใจมากกว่า 2 ครั้งในสัปดาห์นี้
โดยแถลงการณ์ครั้งนี้ยังกล่าวอีกด้วยว่าพวกเขาได้กลับพิจารณาที่จะถอดถอนบริษัทโทรคมนาคมของจีน 3 แห่ง หลังจาก Steven Mnuchin รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของสหรัฐฯ ไม่เห็นด้วยกับการตัดสินใจให้บริษัทต่าง ๆ ได้รับการบรรเทาโทษ
คำสั่งห้ามซื้อขายหลักทรัพย์ของจีนที่ได้รับการประกาศรายชื่อจะเริ่มกระบวนการตั้งแต่วันที่ 11 มกราคม 2021 หาก Biden ยอมปล่อยให้คำสั่งบริหารของทรัมป์ดำเนินการต่อไป
บริษัทการลงทุนและกองทุนบำเหน็จบำนาญของสหรัฐฯ จะต้องขายการถือครองใน บริษัทที่เชื่อมโยงกับกองทัพจีนภายในวันที่ 11 พ.ย. 2021 และหากสหรัฐฯ กำหนดรายชื่อบริษัทอื่น ๆ เพิ่มเติมหลังจากนั้น นักลงทุนชาวอเมริกันจะมีเวลา 60 วันเพื่อถอดการลงทุนออกจากบริษัทเป้าหมาย
คำสั่งห้ามของสหรัฐฯ ที่อาจทำไปเพื่อเพิ่มแรงกดดันที่เกิดขึ้นในจีนต่อ Alibaba และ Tencent ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา หลังจากรัฐบาลปักกิ่งได้บล็อกการเสนอขายหุ้น IPO มูลค่า 3.5 หมื่นล้านดอลลาร์ของ Ant Group Co. และเสนอกฎระเบียบใหม่เพื่อควบคุมการผูกขาดและการตรวจสอบทางการเงินของยักษ์ใหญ่ทางอินเทอร์เน็ต
1
เรื่องนี้ฝั่งจีนตอบสนองอย่างไรบ้าง ?
ล่าสุด หากใครตามข่าวดี ๆ ก็จะรู้ว่าจีนได้ออกมาส่งสัญญาณเตือนบางอย่างถึงสหรัฐฯ เช่นกัน โดยล่าสุดได้มีการจับกุมบุคคลสำคัญของฝ่ายค้านในฮ่องกงหลายสิบคนอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ซึ่งรวมถึงนักเคลื่อนไหวชาวอเมริกันชื่อดัง
การจับกุมบุคคลสำคัญของฝ่ายค้านฮ่องกงหลายสิบคนอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อนของจีนแสดงให้เห็นถึงสัญญาณตอบโต้ที่รัฐบาลปักกิ่งส่งเตือนถึง Joe Biden ซึ่งกำลังจะเข้ามารับช่วงต่อจาก Donald Trump
เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ตำรวจฮ่องกงได้รวบรวมนักเคลื่อนไหวมากกว่า 50 คนซึ่งประกอบไปด้วยอดีตฝ่ายนิติบัญญัติและนักวิชาการของฮ่องกง ตลอดจนทนายความด้านสิทธิชาวอเมริกัน โดยบุคคลทั้งหมดนี้ได้ช่วยกันจัดตั้งการประท้วงในเดือนกรกฎาคม เพื่อเสนอชื่อผู้สมัครฝ่ายค้านสำหรับการเลือกตั้งสมาชิกสภานิติบัญญัติ
การปราบปรามครั้งนี้ถือเป็นครั้งใหญ่ที่สุดสำหรับการจับกุมผู้คนภายใน 1 วันภายใต้กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติฉบับใหม่ ซึ่งมีโทษสูงสุดคือจำคุกตลอดชีวิต ผู้ที่ถูกจับกุมรวมถึงอดีตศาสตราจารย์ด้านกฎหมาย Benny Tai
การกระทำดังกล่าวแสดงให้เห็นว่าประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีนได้มีการถ่วงดุลอำนาจกลับคืนสู่รัฐบาลแผ่นดินใหญ่มากเพียงใด หลังจากการประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตยครั้งประวัติศาสตร์ที่เกาะฮ่องกงเมื่อหลายเดือนก่อน ซึ่งสร้างความวุ่นวายอย่างมากให้กับเมือง
Xi Jingping พยายามที่จะเอาชนะฝ่ายค้านของเมืองแม้จะมีการขัดขวางจากหลายประเทศ(โดยเฉพาะทางฝั่งตะวันตก) และความพยายามของรัฐบาลทรัมป์ในการคว่ำบาตรจีนและเรียกคืนผลประโยชน์ทางการค้าสำหรับศูนย์กลางการเงินของเอเชีย
1
ทางฝั่งสำนักงานประสานงานของจีน ได้ออกมายกย่องว่าการจับกุมดังกล่าวเป็นขั้นตอนที่จะทำให้ฮ่องกงกลับมาดำเนินไปอย่างถูกทิศทาง
ส่วน Joe Biden ล่าสุดมีการให้คำมั่นว่าจะใช้แนวทางร่วมกันมากขึ้นเพื่อรักษาระบอบประชาธิปไตยทั่วโลก แต่ก็ยากที่จะบอกว่าเขาสามารถทำอะไรได้บ้างเพื่อพลิกกลับแนวโน้มในฮ่องกง
การควบคุมตัวของ John Clancey ทนายความชาวอเมริกันที่ทำงานให้กับสำนักงานกฎหมายท้องถิ่นที่มีชื่อเสียงถือเป็นครั้งแรกที่มีการจับกุมชาวต่างชาติภายใต้กฎหมายความมั่นคงฉบับใหม่ และแน่นอนว่าการจับกุมดังกล่าวจะเพิ่มความตึงเครียดระหว่างวอชิงตันและปักกิ่ง
1
Fernando Cheung นักการเมืองฝ่ายค้านของฮ่องกล่าวว่า
“The sweeping arrests this morning show that the regime is unrelenting in its efforts to persecute the democratic activists, Hong Kong was taking advantage of the West being preoccupied with the coronavirus. It’s a clear signal to the new Biden administration that China will not let up in its efforts to eradicate the opposition in Hong Kong and that it has determined to seize complete control.”
1
“การจับกุมอย่างกว้างขวางในเช้าวันนี้แสดงให้เห็นว่าฝ่ายปกครองจะไม่ลดละความพยายามที่จะข่มเหงนักเคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตย ฮ่องกงกำลังใช้ประโยชน์จากชาติตะวันตกที่หมกมุ่นอยู่กับ COVID-19 ซึ่งเป็นสัญญาณที่ชัดเจนสำหรับฝ่ายบริหารชุดใหม่ของ Biden ว่าจีนจะไม่ยอมแพ้ในความพยายามที่จะกำจัดฝ่ายค้านในฮ่องกงและมุ่งมั่นที่จะยึดการควบคุมอย่างสมบูรณ์”
1
นอกจากนี้ Hua Chunying โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน ได้ตอบคำถามเกี่ยวกับความคิดเห็นของนานาชาติโดยยืนยันว่า "ไม่มีประเทศอื่นใดที่มีสิทธิ์แสดงความคิดเห็นหรือแทรกแซงในกิจการภายในของจีน"
โฆษณา