7 ม.ค. 2021 เวลา 01:14 • ปรัชญา
เวลาที่เรามีความทุกข์ เรื่องราวที่เรากระทำก็มักจะเป็นเรื่องไม่ดีงามอะไร หรือต่อให้ทำเรื่องดีงามก็ไม่อาจทำได้ดีเท่าใดถ้าทำด้วยหัวใจที่เป็นทุกข์ และความทุกข์ที่เรามีก็จะส่งผลไปสู่ระบบความสัมพันธ์ภายนอก ไปสู่คนรอบข้าง จนกระทั่งส่งผลสู่สังคม ทำให้คนรอบข้างก็เป็นทุกข์ สังคมก็เป็นทุกข์
ด้วยคุณสมบัติเช่นนี้ของความทุกข์ จึงสมควรจัดให้ความทุกข์เป็นสิ่งชั่วร้าย และสมควรต้องกำจัดให้หมดสิ้น
ในทางกลับกัน เวลาที่เรามีความสุข เรื่องราวที่เรากระทำก็มักจะเป็นเรื่องราวที่ดีงาม และเราก็จะทำได้ดีเสียด้วย เพราะทำด้วยหัวใจที่เปี่ยมสุข และเช่นกัน ความสุขที่เรามีก็จะส่งผลไปสู่ระบบความสัมพันธ์ภายนอก ไปสู่คนรอบข้าง จนกระทั่งส่งผลสู่สังคม ทำให้คนรอบข้างก็เป็นสุข และสังคมก็เป็นสุข
ด้วยคุณสมบัติเช่นนี้ของความสุข จึงสมควรจัดให้ความสุขเป็นสิ่งประเสริฐ และสมควรส่งเสริมให้มีแต่ความสุขมาก ๆ ยิ่ง ๆ ขึ้นไป
การกอดความทุกข์ไว้ไม่ยอมปล่อยวาง จึงไม่ต่างอะไรกับการให้ที่พักพิงอิงอาศัยแก่สิ่งชั่วร้าย ในเมื่อเราเอื้อเฟื้อต่อสิ่งชั่วร้าย เราเองก็ไม่น่าจะนับได้ว่าเป็นคนดีงามอะไร การปล่อยวางความทุกข์ไปเสียและทำตัวเองให้มีความสุขต่างหาก จึงเป็นสิ่งที่ประเสริฐควรกระทำ และสมควรจะนับได้ว่าเราเป็นคนดี
ความทุกข์ก็ดีความสุขก็ดี เกิดขึ้นที่ใจและดับได้ที่ใจ เช่นนั้นแล้วเราจะปล่อยให้เรือนใจเป็นที่พำนักพักอาศัยของความทุกข์ไปเพื่ออะไร? ทำไมไม่ดับมันเสีย?
โฆษณา