บางครั้งเจ้ากรรมนายเวรก็มาในรูปแบบของเพื่อน! นี่คือความโชคร้าย บนความไม่รอบคอบ ของดาวเตะทีมชาติอังกฤษ ที่ต้องโดนปรับเงินเกือบ 3 ล้านบาท และโดนแบนห้ามลงแข่ง 10 สัปดาห์เต็มๆ
คีแรน ทริปเปียร์ ฟูลแบ็กทีมชาติอังกฤษ โดนแบน 10 สัปดาห์เต็มๆ พร้อมปรับเงินอีก 7 หมื่นปอนด์ ข้อหา "เกี่ยวข้องกับการพนัน"
นักเตะที่โดนคดีการพนันนั้น จะไม่โดนโทษแบนแค่ในประเทศของตัวเอง แต่จะถูกแบนทั่วโลกโดยอัตโนมัติ นั่นแปลว่า ไม่ใช่แค่กับทีมชาติอังกฤษเท่านั้น แต่ทริปเปียร์ก็ไม่สามารถลงเล่นให้ต้นสังกัดแอตเลติโก้ มาดริดได้เช่นกัน จนถึงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ หรือจนถึงแชมเปี้ยนส์ลีกรอบ 16 ทีมสุดท้ายเลกแรก
หากฟังดูจากโทษแบน เราอาจรู้สึกว่า เป็นนักบอลดังเสียเปล่า ทำไมไม่ข้องเกี่ยวกับการพนันซะเองล่ะ อย่างไรก็ตามถ้าเจาะไปที่ดีเทลจริงๆ ตัวทริปเปียร์ จะว่าเกี่ยวไหม ก็ใช่ แต่มันก็ไม่ได้เกี่ยวมากขนาดนั้น
จุดเริ่มต้นของเรื่องนี้ เกิดขึ้นวันเสาร์ที่ 13 กรกฎาคม 2019 เมื่อดีเอโก้ ซิมิโอเน่ ผู้จัดการทีมแอตเลติโก้ มาดริด ส่งแมสเซจหาทริปเปียร์ ผ่านทาง Whatsapp ว่าเขาสนใจอยากดึงตัวมาร่วมงานกัน และตอนนี้ก็ได้คุยกับต้นสังกัดคือสเปอร์สเรียบร้อยแล้ว
ซึ่งพอทราบข่าว ทริปเปียร์ก็ตื่นเต้นมากที่จะได้ย้ายไปอยู่กับทีมดังจากสเปน เขาจึงเปิดกรุ๊ปแชท ตั้งชื่อกรุ๊ปว่า PINT แล้วดึงเพื่อนสนิท 3 คนเข้ามาอยู่ในกลุ่มด้วย ซึ่งประกอบด้วย โอลิเวอร์, เอ็มบี และ เจย์ จากนั้นก็เริ่มเล่าทันที
ทริปเปียร์พิมพ์ว่า "เฮ้ย พวกแกไปมาดริดด้วยกันกับฉันมั้ย ไปเซ็นสัญญากับทีมใหม่กัน ฉันคิดว่าทุกอย่างใกล้จะเรียบร้อยแล้ว เหลือแค่ตกลงค่าตัวกันแค่นั้น ดีลน่าจะจบวันพรุ่งนี้ หรืออย่างช้าก็วันจันทร์"
หนึ่งในคนที่อยู่ในแชท คือโอลิเวอร์ พิมพ์กลับไปว่า "เออ โชคดีแล้ว ย้ายไปแอตเลติโก้ซะ แกจะได้ไม่ต้องย้ายไปเล่นในลีกจีน" ซึ่งทริปเปียร์ตอบกลับไปว่า "เออว่ะ ฉันก็ไม่อยากไปเล่นที่จีนเหมือนกัน"
เข้าสู่วันรุ่งขึ้นวันอาทิตย์ที่ 14 กรกฎาคม 2019 ทริปเปียร์ตื่นเช้า และพาครอบครัวไปเที่ยวสวนสัตว์ พาราไดซ์ ไวล์ไลฟ์ พาร์ก ที่เฮิร์ทฟอร์ดเชียร์ เขาแฮปปี้มีความสุขมาก ขณะที่การเจรจาระหว่างสเปอร์สกับแอตเลติโก้ มาดริด ก็ดำเนินต่อไป
และพอได้ข่าวอัพเดทจากสโมสร ทริปเปียร์ก็แชทลงในกลุ่ม เล่าให้เพื่อนฟังเรื่อยๆ
คราวนี้เพื่อนคนหนึ่ง คือเอ็มบี แชทถามว่า "งั้นฉันไปวางเงินว่าแกจะย้ายไปแอตเลติโก้เลยได้ไหม" ซึ่งทริปเปียร์ก็ไม่ทันคิดอะไร แชทกลับมาว่า "เออ อย่าโทษฉันละกันถ้าแกเสีย" จากนั้นก็พิมพ์อีโมจิหน้าหัวเราะ
จริงๆแล้ว ฟังดูบทสนทนาก็เหมือนจะเป็นการคุยกันเล่นๆ ของเพื่อนในกลุ่มเดียวกัน อย่างไรก็ตามปัญหาคือ เพื่อนทั้ง 3 คน ดันเอาข้อมูลนี้ไปแทงพนันในบ่อนถูกกฎหมาย ว่าทริปเปียร์จะย้ายไปแอตเลติโก้ มาดริด โดยโอลิเวอร์ วางเงิน 20 ปอนด์ ส่วนเอ็มบีวางขำๆ ที่ 6 ปอนด์
คือที่อังกฤษ จะมีการพนันทุกรูปแบบ ไม่ใช่แค่แพ้ชนะในแต่ละแมตช์เท่านั้น แต่จะมีอะไรที่ยิบย่อยมาก เช่นผู้จัดการทีมคนไหนจะโดนไล่ออกก่อน ใครจะเป็นผู้อำนวยการกีฬาคนต่อไปของสโมสรไหนสักแห่ง รวมถึงนักเตะที่ตกเป็นข่าว สุดท้ายจะย้ายไปทีมไหน
ทริปเปียร์เองก็โดนออกราคาพนันมาเช่นกัน ว่าเขาจะย้ายไปเล่นทีมอะไรในฤดูกาล 2019-20 โดยราคาของเขาจะย้ายไปแอตเลติโก้ มาดริดอยู่ที่ แทง 1 ได้ 4
ในวันต่อมา จันทร์ที่ 15 กรกฎาคม การเจรจาต่อรองของสองสโมสรเข้มข้นขึ้น ทั้ง 2 ทีมใกล้ปิดดีลกันได้แล้ว คราวนี้ทริปเปียร์ก็อัพเดทสถานการณ์ล่าสุดให้เพื่อนๆฟังอีก
"ตอนนี้ทุกอย่างใกล้จบแล้ว แดเนียล เลวี่ ต้องการเงินเพิ่มจากแอตเลติโก้อีก 5 แสนปอนด์" และจากนั้นไม่นาน เมื่อแอตเลติโก้ตอบตกลง ทริปเปียร์แชทไปบอกเพื่อนอีกว่า "ดีลจบแล้ว"
ทันทีที่ทริปเปียร์แชทบอกเพื่อน สิ่งที่เขาไม่คาดคิดเลยก็คือ โอลิเวอร์จะกำเงิน 300 ปอนด์ ไปแทงพนันว่าทริปเปียร์จะย้ายไปแอตเลติโก้อีกรอบ เพราะเมื่อสองทีมปิดดีลได้แล้ว ก็น่าจะประกาศการซื้อขายกันในอีก 1-2 วันเลย ถ้าเกิดเขาขยับตัวช้า อาจจะพลาดโอกาสทำเงินก็ได้
การประกาศซื้อขายอย่างเป็นทางการเกิดขึ้นวันพุธที่ 17 กรกฎาคม ซึ่งเมื่อทริปเปียร์ย้ายไปแอตเลติโก้ มาดริด เพื่อนๆ สองคนแรก ก็ได้เงินกันจากบ่อนพนันไปคนละนิดละหน่อย เอ็มบี ได้ไป 24.10 ปอนด์ (978 บาท), เจย์ ได้ไป 15.38 ปอนด์ (624 บาท) แต่จะไปหนักที่ โอลิเวอร์ ที่โกยเงินไปกระจุย 1346.84 ปอนด์ (54,692 บาท)
เรื่องนี้ เป็นสิ่งที่ทริปเปียร์ไม่ทราบมาก่อนเลย จากนั้นเหตุการณ์ก็ผ่านไปโดยไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่พอผ่านมา 1 ปี สำนักพนันถูกกฎหมายมีโอกาสได้ตรวจเช็กย้อนหลัง และค้นพบความผิดปกติในการพนันครั้งนี้ เพราะอยู่ๆก่อนการซื้อขายแค่ 2 วัน มีคนแทงพนันหลายร้อยปอนด์พอดี ซึ่งเป็นไปได้ยากมากที่จะเกิดขึ้น คือถ้าไม่ใจถึงวัดดวงจริงๆ ก็ต้องรู้ข้อมูลวงในมาก่อน
สำนักพนันแจ้งเรื่องกับสมาคมฟุตบอลอังกฤษให้สืบสวน ซึ่งเอฟเอก็ค้นพบอย่างรวดเร็วว่า คนที่มาแทงคือเพื่อนสนิทของทริปเปียร์นั่นเอง
อย่างไรก็ตามการที่เป็นเพื่อน ไม่ได้แปลว่าทริปเปียร์จะทำผิด ดังนั้นเอฟเอจึงต้องขอสอบสวนด้วยการขอดูข้อมูลจากโทรศัพท์มือถือ ซึ่งทริปเปียร์ก็ยื่นโทรศัพท์ให้ด้วยความเต็มใจ เพราะเขาไม่คิดว่าตัวเองทำอะไรผิดเลย เขาไม่ได้ทำรายได้ใดๆจากการพนันที่เกี่ยวข้องกับการย้ายตัว และไม่ได้เชิญชวนให้ใครมาเล่นพนันด้วย ประวัติที่ผ่านมา ไม่เคยเล่นการพนันเลยแม้แต่ครั้งเดียว
แต่สุดท้ายเอฟเอไปเจอแชทกลุ่ม ที่คุยกับเพื่อนๆสามคน นี่คือหลักฐานสำคัญที่มัดตัวทริปเปียร์ ว่าแม้เขาจะไม่ได้เชิญชวนให้ใครพนัน แต่เขาเอาข้อมูลวงในมาบอกคนอื่น ซึ่งเป็นการเอาเปรียบโต๊ะ และข้องเกี่ยวกับการพนันทางอ้อม
คำอธิบายของเอฟเอคือ "ทริปเปียร์ควรเตือนเพื่อนว่าห้ามเล่นการพนันใดๆ เกี่ยวกับการย้ายตัวของเขา แต่เขาไม่พูด หรือยับยั้งใดๆเลย" ซึ่งทริปเปียร์ก็อธิบายว่า ใครมันจะไปรู้ว่าเพื่อนจะเอาเรื่องที่เล่าไปแทงพนันจริงๆ
อย่างไรก็ตาม เอฟเอสรุปว่าต้องมีบทลงโทษ แต่ทว่าเมื่อพิจารณาจากหลักฐานแล้วก็พอรู้ว่าเป็นการพูดคุยแบบขำๆ ตัวทริปเปียร์ไม่ได้สนใจเรื่องการพนันอยู่แล้ว พร้อมทั้งตัวเงินที่เพื่อนๆแทง ไม่ได้เยอะมากเท่าไหร่ สุดท้ายโทษแบนจึงเหลือแค่ 10 สัปดาห์และปรับเงิน 7 หมื่นปอนด์เท่านั้น (2.8 ล้านบาท) ซึ่งนับว่าปรานีมากแล้ว
คือถ้าหากทริปเปียร์มีความข้องเกี่ยวอะไรแม้แต่นิดเดียว เช่นเชิญชวนให้เล่นพนันล่ะก็ เขาจะโดนแบน และปรับหนักกว่านี้อีกหลายเท่าแน่นอน
ทริปเปียร์เองเมื่อโดนลงโทษก็รู้สึกเสียใจ เขาบอกว่า จากนี้ต้องการช่วยเป็นกระบอกเสียงและให้ความรู้กับนักกีฬาคนอื่น ว่าอย่าได้ทำพลาดเหมือนเขาอีก เรื่องนี้เขาเองก็ได้บทเรียนว่านักกีฬาต้องระวังบทสนทนาให้มากที่สุด เพราะถ้าสุดท้ายคนใกล้ชิดที่รู้เรื่องลับๆ แล้วเอาไปแทงพนัน ตัวนักกีฬาจะซวยทันที โดยไม่สำคัญว่าตัวนักกีฬาจะพนันเองหรือไม่
การโดนแบน 10 วีก แปลว่าทริปเปียร์ไม่สามารถลงเล่นได้จนถึงสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ ประกบด้วยเกมลาลีกา 11 นัด และเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีกอีก 1 นัด ถือว่าเขาต้องชดใช้ความผิด ที่ตัวเองรู้เท่าไม่ถึงการณ์
จริงๆ ตามปกติถ้าคนในวงการฟุตบอลเกี่ยวข้องกับการพนันเสียเอง มักจะโดนสังคมประณามอย่างหนัก เหมือนเคสของโรเบิร์ต ฮอยเซอร์ กรรมการชาวเยอรมันที่ล็อกผลการแข่งขัน นั่นก็ไม่ได้ผุดไม่ได้เกิดไปแล้ว แต่กับเรื่องนี้เราเห็นชัดเลยว่า ไม่มีใครโกรธทริปเปียร์เท่าไหร่ เพราะทุกคนเข้าใจสถานการณ์อย่างดี
แกเร็ธ เซาธ์เกต เฮดโค้ชทีมชาติอังกฤษ ก็ไม่ได้ตำหนิอะไร ขณะที่ผู้บริหารแอตเลติโก้ มาดริด ก็ยื่นเรื่องอุทธรณ์กับฟีฟ่า ขอให้ลดโทษแบนลงให้หน่อย เพราะตัวนักเตะเองไม่รู้เลยว่าเหตุการณ์จะเป็นแบบนี้เกิดขึ้น ซึ่งตอนนี้ฟีฟ่ารับพิจารณาแล้ว
ส่วนดีเอโก้ ซิมิโอเน่ ผู้จัดการทีมแอตเลติโก้ ก็ยินดีให้ทริปเปียร์ใช้งานอุปกรณ์ซ้อมของสโมสรได้ตามปกติ ไม่ได้รู้สึกว่าต้องมีบทลงโทษใดๆกับตัวนักเตะ
บทสรุปของเรื่องนี้ จึงเป็นบทเรียนสอนใจได้เป็นอย่างดี ว่าเรื่องราวที่เป็นความลับขององค์กร คิดให้เยอะๆ ก่อนนำไปเผยแพร่ให้คนอื่นได้รับรู้ เพราะเราไม่มีทางรู้เลยว่าเขาจะเอาข้อมูลนั้นไปทำอะไร
ถ้าหากเขารับฟังเฉยๆ ขำๆ ก็ดีไป แต่เมื่อไหร่ก็ตาม ที่เขาเอาข้อมูลนั้นๆ ไปสร้างประโยชน์ให้ตัวเองล่ะก็ คนที่โชคร้ายก็จะมีคนเดียวนั่นแหละ จะใครเสียอีก ถ้าไม่ใช่เรา คนที่เอาข้อมูลไปเผยแพร่ให้คนอื่นรับรู้
หลังโดนแบนและปรับ ทริปเปียร์หายไปจากโลกออนไลน์ เขาไม่ทวีตข้อความใดๆอีกเลย เก็บตัวเงียบ และรอให้พ้นโทษแบนในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์
แต่แน่นอนว่าสิ่งที่เขาคงอยากจะบอกเพื่อนๆทั้ง 3 คน ใจจะขาดก็คือ
ถ้าอยากได้เงินมาขอกูเลยดีกว่าโว้ยยยยยยยยย
#Trippier
- 11
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
