การจลาจล ที่ "สหรัฐอเมริกา"
ผลของ 'Trumpism' ลัทธิทรัมป์นิยม
เหตุการณ์การก่อจลาจลที่รัฐสภาสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 6 ม.ค. กลายเป็นวันที่มืดมนที่สุดในประวัติศาสตร์ของสหรัฐฯ
Trumpism คืออะไร
เป็นศัพท์ทางการเมืองหมายถึงอุดมการณ์ทางการเมือง การเคลื่อนไหวทางการเมืองเพื่อสนับสนุนประธานาธิบดีโดนัลด์ทรัมป์และฐานทางการเมืองของเขา
โดยแนวอุดมการณ์แบบทรัมป์ ตั้งอยู่บน สามพื้นฐานความเชื่อ คือ ชาตินิยม ศาสนา และเชื้อชาติ
สิ่งที่เกิดขึ้นนี่ถือเป็นจุดสุดยอดของความแตกแยกทางสังคมของอเมริกันชนที่เพาะบ่มมานาน ตั้งแต่ในยุคของประธานาธิบดีทรัมป์
มีคนกล่าวว่า..
"วันที่ 6 มกราคม 2021 จะได้รับการจดจำในฐานะหนึ่งในวันที่มืดมนที่สุดในประวัติศาสตร์อเมริกัน"
เพราะแทนที่จะเป็นวันที่เป็นสัญลักษณ์ของการถ่ายโอนอำนาจอย่างสันติ
แต่สิ่งที่เกิดขึ้นในวันที่ 6 มกราคม จะถูกจดจำอย่างน่าเศร้าใจในประเทศที่เป็นต้นแบบของประชาธิปไตย
ว่าเป็นวันที่ฝูงชนที่สนับสนุนประธานาธิบดีทรัมป์ได้ทำการบุกโจมตี Capitol Hill มีการทุบประตูห้องประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีบรรยากาศที่สับสนวุ่นวายจนเหมือนฉากการสู้รบในภาพยนตร์เพื่อประท้วงผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐที่เพิ่งผ่านพ้นไป ซึ่งชัยชนะตกเป็นของโจ ไบเดน
📷 Nbcnews
เสียงของการคัดค้าน เริ่มมาตั้งแต่การนับคะแนน ที่ฝ่ายสนับสนุนทรัมป์ มองว่าไม่ถูกต้อง มีการกล่าวหาว่ามีการโกงคะแนน ซึ่งประธานาธิบดีทรัมป์ก็ได้แสดงความเห็นทำนองนี้ผ่านแอคเค้าท์ทรงอิทธิพลของเขาเองทางทวิตเตอร์
** ล่าสุดทางทวิตเตอร์ได้แบนแอคเค้าท์ของทรัมป์ชั่วคราว
ส.ว. Pat Toomey จากเพนซิลเวเนียจากรีพับลิกันกล่าวถึงเรื่องนี้ว่า..
"นี่ไม่ใช่การถ่ายโอนอำนาจโดยสันติ
ตามธรรมเนียมปฏิบัติ
แต่ "นี่เป็นความอัปยศโดยสิ้นเชิง"
ชาวอเมริกันบางคนให้ความเห็นว่า..
"การเมืองกลายเป็นปัจจัยแบ่งแยกผู้คนในสหรัฐ และการจลาจลก็สะท้อนให้เห็นความชัดเจนตรงนี้ และการก่อจลาจลที่เกิดขึ้นเป็นจุดสุดยอดของปัญหาที่หมักมมมานาน
"อเมริกันชนกำลังสูญเสียความรู้สึก
ที่มีต่อเป้าหมายสูงสุดร่วมกันของชาติ
พวกเขาโกรธแค้นประเทศ
ชาวอเมริกาไม่มีใครคิดว่า
เราจะตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้มาก่อน
และจะรับมือกับความแตกแยกลึก ๆ เหล่านั้นได้อย่างไร"
ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีทรัมป์ ได้เรียกร้องให้กลุ่มผู้สนับสนุนเขาชุมนุมในวันที่ 6 มกราคม
ก่อนที่การประชุมสภาคองเกรสจะเริ่มขึ้น
โดยทรัมป์กล่าวระหว่างการชุมนุมนอกทำเนียบขาวเพื่อเรียกร้องให้บรรดาผู้สนับสนุนเขาเดินขบวนไปยังแคปิตอลฮิลล์
ซึ่งทรัมป์ยังคงย้ำว่า..
"ผลการเลือกตั้งไม่ถูกต้องถูก และยืนยันว่า
"เราไม่เคยยอมแพ้ เราไม่เคยแพ้"
📷Zee business
นักวิเคราะห์กล่าวว่า..
"Trumpism" ได้นำไปสู่การก่อจลาจลใน Capitol Hill และชี้ให้เห็นว่าประธานาธิบดีทรัมป์ได้สนับสนุนการเดินขบวนต่อต้านผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ตามท้องถนนของสหรัฐฯมาหลายครั้งหลายคราว
ตัวอย่างเช่น ในเดือนเมษายน ทรัมป์เรียกร้องให้ผู้ประท้วง "ปลดปล่อยมิชิแกน" เมื่อผู้ว่าการรัฐสายเดโมแครต Gretchen Whitmer สั่งให้ประชาชนอยู่บ้านเพื่อลดการแพร่ระบาดของ Covid-19 ผู้สนับสนุนทรัมป์ใช้อาวุธบุกอาคารรัฐสภาของรัฐ
ซึ่งจะว่าไปแล้ว สิ่งที่เกิดขึ้นในวันนั้นเป็นเหมือนการซ้อมรบ สำหรับความวุ่นวายรอบล่าสุดที่เกิดขึ้นในวอชิงตันดีซี เมืองหลวงของประเทศ
📷 Fox6 news
การก่อความวุ่นวายของผู้สนับสนุนทรัมป์ มีกลุ่ม Proud Boys ซึ่งเป็นกลุ่มขวาจัดที่สนับสนุนประธานาธิบดีทรัมป์
แต่มีความขัดแย้งกันเนื่องจากมีอุดมการณ์หัวรุนแรง เหตุการณ์เมื่อวันที่ 6 มกราคม สมาชิกของกลุ่มขวาสุดรวมถึง Proud Boys ได้เข้าร่วมกับฝูงชนที่ก่อความวุ่นวายในวอชิงตัน โดยมีสมาชิกของกลุ่มหัวรุนแรงผิวขาวจำนวนหนึ่งรวมถึงกลุ่มนีโอฟาสซิสต์เข้าร่วมในการก่อเหตุจลาจล
ประธานาธิบดีทรัมป์ ได้ใช้อำนาจของเขาโดยแสดงให้เห็นถึงความโกรธและความเป็นปรปักษ์ อย่างเปิดเผย และได้ทำให้มันรุนแรงขึ้น จนระเบิดออกมาในที่สุด
📌📌 รายงานล่าสุด
ประธานาธิบดีทรัมป์ได้ประกาศยอมรับความพ่ายแพ้เป็นครั้งแรก และสัญญาว่าจะมีการถ่ายโอนอำนาจให้ว่าที่ประธานาธิบดี โจ ไบเดน "อย่างราบรื่น"
สำหรับสถานการณ์ความรุนแรง มีผู้เสียชีวิต 4 ราย ถูกทางการจับกุมตัว 52 ราย มีเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับบาดเจ็บจำนวนหนึ่ง
References
เรียบเรียงโดย
สาระอัปเดต SaraUpdate
- 10
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
