ถอดรหัสความสำเร็จ!!! แนวคิดของคุณ Elon Musk ที่ทำให้ธุรกิจของเขาทะยานถึงดวงดาว
ในเดือนธันวาคม 2020 ที่ผ่านมา นิตยสาร Forbe ได้จัดอันดับ Elon Musk กลายเป็นอภิมหาเศรษฐีอันดับต้นของโลก โดยมีความร่ำรวยคุณ Jeff Bezos เจ้าของ Amazon อะไรอยู่เบื้องหลังความสำเร็จของเขา เรามาดูเคล็ดลับที่นักวิจัยพยายามถอดรหัสจากคุณ Elon Musk กันครับ
1. เมื่อเงินไม่ใช่ทุกสิ่งทุกอย่าง
ในปี 2014 คุณ Elon Musk แจ้งกับผู้สื่อข่าวว่าเขาไม่ทราบว่าเขามั่งคั่งขนาดไหน สิ่งที่เขาทราบคือเขามีสิทธิในการออกเสียงในบริษัทของเขาอย่าง Tesla, SpaceX และ SolarCity ซึ่งตลาดให้คุณค่ากับสิทธิในการออกเสียงเหล่านั้นครับ
คุณ Musk แจ้งว่าเขาไม่มีปัญหากับการไขว่คว้าความร่ำรวยตราบใดก็ตามที่การหารายได้ดังกล่าวอยู่ตามครรลอง และศีลธรรมที่ดี อย่างไรก็ตามเงินไม่ใช่สิ่งที่ผลักดันเขา ซึ่งดูจากผลประกอบการและราคาหุ้นของบริษัท Tesla ต้องบอกว่าแนวคิดของเขานั้นได้ผลจริงๆ ครับ
บริษัท Tesla บริษัทที่ผลิตและจัดจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าชื่อก้องมีผลประกอบการที่ดีมากครับ มูลค่าหุ้นเพิ่มสูงขึ้นถึง 700% ในปี 2020 ทำให้มูลค่าโดยรวมของบริษัทมากกว่า 6แสนล้านเหรียญ หรือกว่า 18 ล้านล้านบาทครับ ซึ่งมูลค่าดังกล่าวมากกว่ามูลค่าของบริษัท Ford, General Motors, BMW, Fiat และ Ferrari มารวมกันครับ
อย่างไรก็ตามคุณ Musk ไม่ได้สนใจกับจำนวนเงินของเขาเท่าไร เขาเชื่อมั่นว่าเงินเก็บทั้งชีวิตของเขาจะนำไปตอบสนองต่อความฝันของเขา การตั้งรกรากบนดาวอังคารครับ
2. ไล่ตามหาความฝัน
ตามที่ได้กล่าวไปครับ เป้าหมายสูงสุดของคุณ Musk คือการที่มนุษยชาติไปตั้งรกรากบนดาวอังคาร โดยเขาเชื่อว่าอนาคตบนดาวอังคารที่จะทำให้คุณภาพชีวิตของชาวโลกดีขึ้นครับ อย่างไรก็ตามคุณ Musk ไม่คิดว่า NASA จะมีเป้าหมายเดียวกัน เขาจึงตั้งบริษัท SpaceX เพื่อให้ความฝันของเขาเป็นความจริงครับ
แต่เดิมเพื่อให้ชาวโลกหันมาสนใจเกี่ยวกับการเดินทางบนอวกาศอีกครั้ง คุณ Musk ได้มีแนวคิดในการสร้าง “โอเอซิสบนดาวอังคาร” โดยการส่งเรือนเพาะชำไปตั้งที่อวกาศ อย่างน้อยที่สุดเขาหวังว่า NASA จะเพิ่มงบประมาณในการวิจัยและพัฒนาการเดินทางสู่อวกาศมากกว่านี้
ต่อมาเขาตระหนักได้ว่าค่าใช้จ่ายในการเดินทางนั้นไปอวกาศนั้นสูงเกินไป เพื่อให้ชาวโลกมีช่องทางในการเดินทางสู่งอวกาศในราคาที่จับต้องได้ SpaceX บริษัทอากาศยานอวกาศจึงเริ่มต้นขึ้นครับ และเป้าหมายนี้ไม่ได้ทำเพราะเงิน แต่ทำเพื่อให้เป้าหมายของเขาเป็นจริงครับ
3. อย่ากลัวที่จะฝันใหญ่
จุดเด่นของคุณ Musk คือเขาเป็นคนที่กล้าจะคิดใหญ่ เพื่อที่จะเปลี่ยนโลกนี้ให้ดีขึ้น เขาพยายามที่จะปฏิวัติวงการรถยนต์ การตั้งรกรากบนดาวอังคาร การติดตั้ง AI เพื่อเพิ่มขีดความสามารถของสมอง ไปจนถึงการสร้างกระสวยแม่เหล็กไฟฟ้าขนส่งคน สิ่งล้ำๆ เหล่านี้เหนือจินตนาการมนุษย์ไปมาก และยากที่จะเชื่อว่าทำได้สำเร็จครับ
สิ่งที่คล้ายคลึงกันในแต่ละโครงการของเขาคือความคิดสร้างสรรค์ล้ำยุคครับ คุณ Musk เชื่อว่าความทะเยอทะยานเพียงเล็กน้อยจะทำให้เกิดบริษัททั่วๆ ไป CEO ของบริษัททั่วๆไป มักจะคิดต่อเติมจากของที่มีอยู่แล้ว จุดแตกต่างที่ CEO ของบริษัทยักษ์ใหญ่ในโลกคือการมุ่งเป้าไปยังสิ่งที่จะเปลี่ยนโลกครับ
คำแนะนำของคุณ Musk ต่อทุกท่านคือหากจะทำสิ่งใด ก็ขอให้สิ่งที่กำลังทำความสำคัญครับ ซึ่งคุณ Musk ได้แสดงให้เห็นในงานใหญ่ของเขาคือเขาพยายามที่จะเปลี่ยนโลกจากการใช้พลังงานฟอสซิลเป็นพลังงานไฟฟ้าที่ดีต่อโลกมากขึ้น และอีกประการหนึ่งคือเขาพยายามที่จะทำให้มนุษย์มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นโดยการย้ายไปอยู่บนดาวอังคารครับ
4. พร้อมรับความเสี่ยง
คงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องผิดพลาด หรือผิดหวังหากต้องการริเริ่มอะไรสักอย่าง คุณ Musk ก็เช่นกันครับ ในปี 2002 คุณ Musk ขายบริษัทของเขาคือบริษัท Zip2 และบริษัท PayPal เพื่อระดมทุนครั้งใหญ่ เขากล้าที่จะนำเงินจำนวนมหาศาลของเขาไปลงทุนกับธุรกิจที่เขาเชื่อ SpaceX
อย่างไรก็ตามทุกอย่างไม่ได้เป็นไปตามที่เขาหวังไว้ ธุรกิจของ SpaceX ไม่ได้ดีอย่างที่คิด นอกจากนี้การส่งกระสวยอวกาศขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศครั้งแรกก็ล้มเหลวไม่เป็นท่า ในขณะที่ธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้าของเขาอย่าง Tesla ก็ประสบปัญหาอย่างหนักเรื่องการผลิต และการออกแบบ
ในเวลานั้นคุณ Musk สามารถเลือกที่จะเก็บเงินของเขาไว้ และทิ้งให้บริษัททั้ง 2 ของเขาตายไปอย่างช้าๆ หรือเขาจะเลือกทำในสิ่งที่เสี่ยงมากๆ คือนำเงินทั้งหมดในชีวิตของเขาไปต่อชีวิตของทั้ง SpaceX และ Tesla ซึ่งเป็นการตัดสินใจที่เสี่ยงมากเมื่อเทียบกับผลการดำเนินการของทั้ง 2 บริษัทที่กำลังดิ่งเหว
คุณ Musk เลือกที่จะต่อชีวิตบริษัทของเขา ท้ายที่สุดเขายากไร้จนต้องหยิบยืเงินเพื่อนบ้านเพื่อใช้ในการดำรงชีวิตประจำวัน แต่ความเสี่ยงจนถึงการล้มละลายไม่ได้หยุดหรือทำให้เขากลัวแม้แต่น้อย เพราะเขาพร้อมที่จะรับความเสี่ยงและสู้ต่อไปครับ
5. เมินเฉยต่อคำวิจารณ์
ถึงแม้ว่าคุณ Musk จะเชื่อมั่นในบริษัทของเขาเพียงใด เขาก็ยังหลีกหนีต่อคำวิจารณ์ไม่ได้ ในยามที่บริษัทของเขามีสภาพไม่ดีนัก หลายๆ คนถึงกับจับตารอดูวันที่บริษัทของเขาจะล้มอย่างใจจดใจจ่อครับ
หลายๆ คนไม่ชอบแนวคิดของคุณ Musk เท่าไรนักและต้องการให้เขาเป็นคนล้มเหลว อย่างไรก็ตามคุณ Musk ปฏิเสธที่จะจมอยู่กับคำวิจารณ์นั้นๆ เขาเชื่อมั่นใจความคิดของเขาและแรงผลักดันในตัวเขา มุ่งมั่นทีจะทำให้งานของเขาประสบความสำเร็จ
สิ่งที่เป็นตัววัดความสำเร็จจริงๆ ของคุณ Musk ไม่ใช่เงินทอง แต่เป็นการพัฒนายกระดับชีวิตตามที่บริษัทของเขาได้ตั้งเป้าหมายเอาไว้ครับ
ท้ายที่สุดบริษัท SpaceX ก็สามารถหลุดพ้นจากสถาณการณ์อันเลวร้ายและประสบความสำเร็จในการส่งกระสวยอวกาศในที่สุดครับ
6. สนุกกับตนเองบ้าง
คุณ Musk เป็นคนที่ได้ชื่อว่ารักการทำงานเท่าชีวิต ในสัปดาห์หนึ่งเขาทำงานถึง 120 ชั่วโมง (พนักงานปกติดทำงานอยู่ที่ 40 ชั่วโมงต่อวันเท่านั้นครับ) แต่ถึงเขาจะคลั่งการทำงานอย่างหนัก เขาก็ไม่ลืมที่จะหาอะไรสนุกๆ และใช้ชีวิตอย่างเต็มที่ครับ
สิ่งที่เขาทำมีตั้งแต่การสูบระหว่างที่เขาออกอากาศ และการลงข้อความต่างๆ ที่แสดงความเป็นตัวตนของเขาในสังคมออนไลน์ หรือแม้แต่การตั้งชื่อบุตรชายของเขาว่า X Æ A-12 Musk (ถ้าใครรู้วิธีอ่านบอกผมด้วยนะครับ ขอบคุณครับ)
ท้ายที่สุดความสำเร็จของคุณ Musk จะเป็นแนวทางที่ดีที่จะทำให้ธุรกิจ การทำงานของคุณประสบความสำเร็จได้ไม่มากก็น้อย อย่างไรก็ตามขอให้ทุกท่านเชื่อมั่นในตนเองและอย่ากลัวที่จะผิดหวัง ความสำเร็จอยู่ไม่ไกลสำหรับคนที่มีความเพียรครับ
- 27
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
