[ #ไม่โรแมนติกอีกแล้ว ]
ตอนปี 2015 กระแสข่าว เซร์คิโอ รามอส จะย้ายมายังแมนฯยูไนเต็ดรุนแรงเชี่ยวกรากมากๆ
ช่วงดังกล่าว หลุยส์ ฟานกัล เป็นผู้จัดการทีมแมนฯยูไนเต็ดและได้แจ้งกับบอร์ดบริหารว่า หากปิดดีลปราการหลังรายนี้ได้สำเร็จ น่าจะทำให้เกมรับเหนียวแน่นมากขึ้น มีโอกาสสูงลุ้นแชมป์สักรายการ
แล้ว เอ็ด วู้ดเวิร์ด ซีอีโอก็เข้าเกียร์ห้าเดินเครื่องเต็มกำลังหวังเช็คบิลให้ได้ โดยมั่นใจว่าจะยกระดับให้แมนฯยูไนเต็ดกลับมาเป็นสโมสรแถวหน้าของยุโรปอีก
ถึงขนาดอาจส่ง ดาบิด เด เคอา ผู้รักษาประตูมือ 1 ยื่นสลับขั้วกันเลย เพราะมูลค่าน่าจะใกล้เคียงกัน
เร้ด อาร์มี่ไม่น้อยก็ฝันหวานไปกันแล้วว่าจะได้เซ็นเตอร์แบ็กที่ดีสุดคนหนึ่งของโลกมาร่วมทีม ในเมื่อนักเตะปฏิเสธขยายสัญญากับเรอัล มาดริด นั่นหมายความว่าจะต้องปันใจให้บ้าง
ข้อเสนอ 30 ล้านปอนด์ของปีศาจแดงโดนปัดอย่างไม่ใยดี เชื่อกันว่ามาดริดก็ไม่มีทางอ่อนข้อปล่อยให้ง่ายๆเช่นเดียวกัน
อย่างไรก็ตามความหวังของแมนฯยูไนเต็ดก็พังครืนลงมา เมื่อนักเตะตัดสินใจยืดสัญญากับราชันชุดขาว จากเดิมที่เหลือ 2 ปีเพิ่มเป็น 5 ปีอยู่โยงกันยาวๆเลย
เขาเปิดใจให้เหตุผลว่า เพราะความรักและผูกพันสโมสรแห่งนี้ หลังย้ายจากเซบีย่ามาอยู่ตั้งแต่ปี 2005 มันยาวนานเกินกว่าจะตัดลงกันง่ายๆ
อีกทั้งไม่เคยพูดออกสื่อเลยสักครั้งว่าอยากจะย้ายไปไหน ยังเคารพประธานสโมสร เพื่อนร่วมทีมและแฟนบอลไม่แปรเปลี่ยน
นอกจากความเป็นสถาบันอันแข็งแกร่งของเรอัล มาดริดก็ทำให้เกิดความภาคภูมิใจมากที่จะได้อยู่ต่อไป มีนักเตะไม่มากนักจะถูกยอมรับเช่นนี้ ดังนั้นย่อมเป็นเกียรติธรรมดา
เรียกว่าพอขยายสัญญาเรียบร้อย อารมณ์โรแมนติกหวานซึ้งเกิดขึ้นมาทันที
การให้สัมภาษณ์ครั้งนั้น รามอส ยังแจกแจงด้วยว่าการต่อสัญญาไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องของเงินทองอย่างที่ร่ำลือกันเลย
ไม่รู้ว่าจริงเท็จแค่ไหน แต่มีข่าวว่าแมนฯยูไนเต็ดยื่นให้ 150,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ ซึ่งถือว่าสูงลิบเมื่อ 5 ปีก่อน
แต่สัญญาใหม่ของเขากับมาดริดระบุไว้เป็นลายลักษณ์อักษารว่า ฟันนิ่มๆ 123,000 ปอนด์ต่อวีก พร้อมห้อยท้ายด้วยว่านี่คือตัวเลขที่หักภาษีเรียบร้อย
นั่นหมายความว่ามาดริดจ่ายมากกว่าแมนฯยูไนเต็ดเพื่อมัดใจ รามอส ให้อยู่กับทีมต่อไป
เราจึงไม่อาจตัดสินได้ว่า เรื่องค่าตอบแทนมีส่วนมากน้อยแค่ไหน แต่ควรถามกลับไปด้วยว่า "ใครบ้างไม่อยากได้เงิน?"
เพราะตัวเลขของแมนฯยูไนเต็ดที่เสนอมานั้นยังต้องหักภาษีอีก ซึ่งเบ็ดเสร็จแล้วน่าจะหายไปเกือบครึ่ง เหลือราว 80,000 ปอนด์
ว่ากันว่าแท้จริงแล้ว รามอส ไม่ได้สนใจอยากมาแมนฯยูไนเต็ดเลย แต่ต้องการยืมชื่อมาใช้เป็นเครื่องมือสำหรับการเจรจาต่อรองกับมาดริดแค่นั้น
เพราะรู้กิตติศัพท์ความเขี้ยวของ ฟลอเรนติโน่ เปเรซ ประธานสโมสรดีว่าไม่ธรรมดาเลย จำต้องหาตัวช่วยสักหน่อย
แล้วบอร์ดของแมนฯยูไนเต็ดก็ติดกับดักเข้าอย่างแรง ซึ่งฝ่ายที่ผิดหวังมากสุดเห็นจะเป็นบรรดากองเชียร์ที่ชะเง้อคอรอคอยนั่นเอง
ทั้งที่้ความจริงแล้วการเจรจาครั้งสุดท้ายระหว่าง รามอส กับ เปเรซ ใช้เวลาสั้นมากแค่ 5 นาที
เมื่อทุกฝ่ายสมประโยชน์ก็ไม่จำเป็นต้องคุยอะไรกันให้ยืดเยื้อมากความเลย
เมื่อปี 2019 ฟลอเรนติโน่ เปเรซ ออกมาเปิดเผยว่า เซร์คิโอ รามอส มาขอร้องย้ายไปเล่นกับสโมสรแห่งหนึ่งในไชนีส ซูเปอร์ลีกของจีน
อ้อนวอนให้เรอัล มาดริดฉีกสัญญา เพื่อปล่อยให้เขาเป็นฟรีเอเจนต์ มีอิสระย้ายไปไหนก็ได้ตามอำเภอใจ
เหตุผลไม่มีอะไรมากกว่าทางตะวันออกไกลยื่นข้อเสนอที่ไม่อาจปฏิเสธมาให้ คาดว่าตัวเลขอาจทะลุ 400,000 ยูโรต่อสัปดาห์ด้วยกัน
อย่างไรก็ตามระดับ เปเรซ มีหรือจะยอมโอนอ่อนผ่อนปรนง่ายๆ สัญญายังเหลือถึงปี 2021 แล้วนี่คือกัปตันทีมจะมาให้ปล่อยแบบไม่ได้เงินเลยสักยูโรเดียว ไม่มีทางซะหรอก
แม้นักเตะจะอ้างว่ารับใช้สโมสรมายาวนานถึง 19 ปีเข้าให้แล้ว ควรได้รับการตอบแทนที่เหมาะสมบ้าง แต่สองฝ่ายนั่นแหล่ะน่าจะรู้ดีว่าเท่าที่ผ่านมาเกิดอะไรกันขึ้น
การอยู่กับทีมนานๆในเคสของ รามอส ไม่ได้หมายความว่าจะต้องซื่อสัตย์ภักดีเสมอไป หากเป็นอย่างนั้นจริงในปี 2015 คงไม่ต้องเล่นเกมชักเย่อเจรจาต่อรองกันสุดฤทธิ์หรอก
แค่ยื่นสัญญาให้ก็รีบรับไปเซ็นแล้ว หากรักกันจริงมันต้องดูการกระทำ ไม่ใช่เอาคำพูดมาเป็นตัวชี้วัด
สโมสรในลีกมังกรดังกล่าวไม่ยอมเปิดเผยชื่อ แต่เชื่อกันว่าไม่เจียงซู ซู่หนิงก็ต้องเป็นชานตง ลู่เหนิง มีเพียงแค่สองทีมเท่านั้นเอง
เปเรซ สาธยายให้ฟังเพิ่มอีกว่า รามอส เดินมาหาเพื่อคุยเรื่องนี้ที่ออฟฟิศ แล้วบอกเจตนาไป พร้อมทั้งกฎต่างๆอันหยุมหยิมของทางจีนแต่ปฏิเสธทันทีว่า คงเป็นไปไม่ได้เด็ดขาด
หากที่โน่นมีกฏ ที่นี่ก็ต้องมีฎเช่นเดียวกัน เรื่องนี้ เปเรซ เปิดใจกับ Onda Cero สถานนีวิทยุที่มาขอสัมภาษณ์เอง
มองจากภายนอกความสัมพันธ์ระหว่าง เปเรซ กับ รามอส น่าจะแนบแน่นพอสมควร ไม่มีความขัดแย้งเท่าไรนัก แต่ลึกลงไปคงไม่ใช่
การต่อรองอย่างเข้มข้นในปี 2015 เปเรซ ย่อมไม่พอใจเลยกว่าจะกล่อมได้ก็ต้องงัดเอาตัวเลขเงินมาเป็นตัวแปรหลัก
แม้จะรู้ดีว่านี่คือแข้งเบอร์หนึ่งขวัญใจแฟนบอล แต่ม็อตโต้ของมาดริดอย่างที่เรารู้กัน ไม่มีใครยิ่งใหญ่กว่าสโมสรเด็ดขาด
แล้วการเจรจาต่อรองครั้งที่สามระหว่างสองคนนี้ก็เกิดขึ้นอีกล่าสุดหมาดๆ
สัญญาของ รามอส จะหมดลงในกลางปีนี้ ก่อนเกมลาลีกาดวลเอลเช่ราวสองชั่วโมงครึ่ง สองผู้ทรงอิทธิพลเปิดฉากคุยกันแบบไม่มีอะไรซับซ้อนนัก ต่างฝ่ายรู้ไส้รู้พุงกันดีอยู่แล้ว
มาดริดจะให้สัญญาอีก 1 ปี หมายถึงไปหมดลงปี 2022 โดยค่าเหนื่อยจะเรตเดิมคือ 12 ล้านยูโรต่อปีหรือราว 250,000 ยูโรต่อสัปดาห์ ซึ่งถือว่ามหาศาลมากๆ โดยเฉพาะในยุคที่ทุกทีมต้องใช้จ่ายอย่างประหยัด
แน่นอนว่า รามอส ย่อมไม่แฮปปี้ เขาต้องการสัญญามากกว่า 1 ปี อย่างน้อยต้องมั่นคงก่อนรีไทร์ แล้วตัวเองก็อยู่กับทีมมานาน 15 ปีเข้าให้แล้ว ลงเล่นอย่างต่อเนื่องแทบไม่มีอาการบาดเจ็บรบกวน
สัญญาต้องไม่น้อยกว่า 2 ปีและค่าจ้างคงต้องเพิ่มนิดหน่อย อย่าลืมว่าหากปล่อยให้หมดลงเรียบร้อย เขาสามารถไปโก่งจากต้นสังกัดใหม่ได้ในระดับที่สูงกว่าเดิม
คราวนี้น่าสนใจตรงที่ เปเรซ อาจไม่ต้องง้อ รามอส อีกแล้ว นักเตะอายุมากขึ้น สโมสรก็ต้องใช้นโยบายรัดเข็มขัด หากไม่ตอบสนองข้อเสนอก็อาจต้องแยกทางกันจริงๆ
มันเหมือนเป็นการเล่นเกมอีกครั้ง วัดใจกันเลยว่าใครจะถอยก่อน แต่อย่างที่บอกไว้ เปเรซ ไม่ได้เสียเปรียบเหมือนครั้งที่ผ่านๆมา
ส่วน รามอส ถ้าคุยไม่ลงตัว ก็มีบิ๊กทีมมากมายพร้อมอ้าแขนต้อนรับ ซึ่งตามแหล่งข่าวก็ระบุว่าปารีส แซงต์ แชร์กแมงเตรียมรุกคืบเข้าหา วางเขาไว้เป็นแกนหลักเพื่อไล่ล่าความสำเร็จ
มาตามดูกันว่าการเจรจาต่อรองหรือหมากเกมนี้ระหว่าง รามอส กับ เปเรซ จะจบลงแบบไหน
ถ้าไม่โรแมนติกแบบแฮปปี้เอนดิ้งเหมือนเดิมก็อย่าได้แปลกใจ
.
ทุกท่านสามารถติดตามอ่านบทความย้อนหลังได้ที่ ..
.
และเพิ่มเพื่อนไลน์แอด "เพื่อเด้งเตือน" ให้คุณได้อ่านก่อนใคร กดที่ลิงค์นี้ครับ
Facebook : www.facebook.com/cheerball
Twitter : www.twitter.com/cheerballth
Website : www.cheerball.com
Youtube : www.youtube.com/cheerballth
ขอบคุณครับ
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
