"การสำเร็จความใคร่".....
เพศศึกษาที่ถูกบิดเบือน
เรียนรู้ประวัติศาสตร์การช่วยตัวเอง
..
สิ่งที่คุณกำลังจะได้อ่านต่อไปนี้ ไม่ใช่เรื่องสัปดนที่ไม่ควรนำมาคุยบนโต๊ะอาหาร แต่มันคือเรื่องของการศึกษาและสุขภาพล้วน ๆ
..
ที่มาของบทความนี้ เกิดจากในวันที่ลมหนาวพัดมาอย่างแรง ผมเกิดนั่งนึกถึงกิจกรรมยามเมื่อเป็นเด็ก นั่นก็คือการออกไปท้าลมหนาว "เล่นว่าว"หรือ"วิ่งว่าว" (Kite flying) ตามสนามโรงเรียนหรือท้องทุ่งโล่งกว้าง
การวิ่งลากว่าวให้ต้านลม จนว่าวลอยขึ้นไปบนฟ้า เป็นกิจกรรมการเล่นของเด็ก ๆ รุ่นผมกันทั้งนั้น ในวันที่ลมหนาวพัดมา..
ผมก็เลยนึกอยากรู้เรื่องประวัติการเล่นว่าว ว่ามีที่มาที่ไปในครั้งอดีตอย่างไร?
พอผมเริ่มค้นหาข้อมูลประวัติการเล่นว่าวทั้งไทยและเทศไปเรื่อย ๆ
อยู่ ๆ ผมกลับไปเจอเรื่องที่น่าสนใจมากกว่า..555😂😂
เรื่องที่ว่าก็คือประวัติศาสตร์ว่าด้วยการช่วยตัวเองหรือที่เรียกเป็นภาษาทางการว่า"ชักว่าว"
อ๊ะ ๆ อย่าเพิ่งเบ้หน้า😒...หาว่าผู้เขียนใช้คำสัปดนนะครับ
เรากำลังจะเรียนรู้ประวัติศาสตร์ทางเพศที่เป็นเรื่องสำคัญของมนุษย์ชาติ
..
ผมคิดว่า เรื่องการสำเร็จความใคร่ เป็นเรื่องจริงที่ถูกเอามาพูดถึงแบบบิดเบือนกันเยอะ
จนบางครั้งเด็กและเยาวชน ไปจนถึงผู้ใหญ่หลายคนก็เกิดความเข้าใจผิด...
มาครับ วันนี้เราจะได้ไปเรียนรู้พร้อม ๆ กัน..
..
การสำเร็จความใคร่หรือที่ภาษาอังกฤษเขียนว่า masturbation
คือ การกระตุ้นอวัยวะเพศให้เกิดความรู้สึกทางเพศ คล้ายการมีเพศสัมพันธ์จนทำให้ถึงจุดสุดยอด (Orgasm)
การสำเร็จความใคร่หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่าการช่วยตัวเอง ถูกปิดกั้นการพูดถึง จนนำไปสู่ข้อมูลที่ผิด ๆ เช่น
บอกว่าการช่วยตัวเองทำให้ตาบอด
การช่วยตัวเองทำให้สมองเสื่อม ซึ่งเป็นได้ทั้งหญิงและชาย
คำล่ำลือเหล่านี้ทำให้เด็กวัยรุ่นที่กำลังอยู่ในช่วงเติบโตทางเพศ เมื่อเกิดความรู้สึกทางเพศไม่กล้าช่วยตัวเองหรือเมื่อช่วยตัวเองเสร็จสมอารมณ์หมายแล้ว จะเกิดความรู้สึกผิดทางใจและกลัวว่าจะเป็นอันตราย...
..
ก่อนเราจะไปหาคำตอบว่า การช่วยตัวเองในทางการแพทย์ ถูก✔️หรือผิด❌
ดีหรือไม่ดี อย่างไร ?
เราไปเรียนรู้ประวัติศาสตร์การช่วยตัวเองกันก่อนดีกว่า..
..
ประวัติศาสตร์ว่าด้วยการช่วยตัวเองมีมาแต่ครั้งโบราณกาล ย้อนไปในสมัยพระนางเจ้าวิคตอเรีย ค.ศ.1837-1901
หญิงสูงศักดิ์คนใดในยุคนั้นที่มีความเครียด มีอาการซึมเศร้า หรือหงอยเหงา ต่างถูกวินิจฉัยว่าคนเหล่านี้มีอาการป่วย...จำเป็นต้องได้รับการรักษา
วิธีการรักษาของหมอในยุคนั้นก็คือการทำการนวดเชิงกราน แล้วเอานิ้วสอดใส่ไปในอวัยวะเพศของผู้หญิงเหล่านั้น จนพวกเธอถึงจุดสุดยอด
ซึ่งมันก็คือการช่วยตัวเองโดยมีหมอเป็นคนทำให้นั่นเอง..แต่คนยุคนั้นยังเข้าใจว่านี่คือวิธีรักษาโรคเครียด
(หมอทำ ก็น่าจะเรียกหมอช่วยนะ ว่าไหม?🤭)
...
ต่อมา ในปี ค.ศ.1869 คุณหมอ จอร์จ เทเลอร์ ก็ได้ประดิษฐ์เครื่องช่วยตัวเองเครื่องแรกของโลก(สมัยใหม่)ที่มีชื่อว่า "ดิลโด้" ขึ้นมาสำเร็จ
โดยเป็นเครื่องระบบไอน้ำขนาดใหญ่ที่มีอวัยวะเพศชายเทียมแปะไว้ตรงฝาผนังเครื่อง..
..
ไม่ใช่เพียงในประวัติศาสตร์
แม้แต่ในตำนานกรีกก็มีการกล่าวถึงการช่วยตัวเองไว้ด้วยว่า..
"เทพเฮอร์มีส (Hermes) ได้เป็นผู้สอนให้เทพแพน (Pan) ผู้เป็นบุตรชาย รู้จักการชักว่าว เมื่อไม่ได้รับการตอบสนองทางเพศจากเทพีเอโค (Echo) ซึ่งเป็นเทพสาวที่เทพแพนลุ่มหลง"
ตามความเชื่อของชาวกรีกนั้น การช่วยตัวเองถือเป็นการปลดปล่อยพลังด้านลบ อันเกิดจากความขัดข้องทางเพศได้อีกด้วย
..
หรือแม้แต่ในอียิปต์โบราณ ตำนานเทพอียิปต์ก็มีกล่าวถึง เทพอาตูมหรือสุริยะเทพ โดยตำนานกล่าวว่า...
ท่านเทพอาตูมนี้ได้ให้กำเนิดลูก ชาย หญิง คือเทพShu และเทพTefnut ด้วยการชักว่าวหรือการช่วยตัวเองเหมือนกัน
ในบางตำนานก็มีกล่าวถึงด้วยว่า
น้ำในแม่น้ำไนล์นั้น เกิดมาจากการหลั่งอสุจิของเทพอาตูม(Atum)ผู้ซึ่งเป็นสุริยะเทพนั่นเอง
..
อ่านประวัติศาสตร์การช่วยตัวเองมาพอสมควรแล้ว
คราวนี้มาดูคำตอบทางการแพทย์กันบ้างดีกว่าว่า "การสำเร็จความใคร่" เป็นเรื่องถูกหรือผิด?
เป็นสิ่งที่ควรทำหรือไม่ควรทำ?
..
👨⚕️
ในทางการแพทย์ถือว่า การช่วยตัวเองเพื่อสำเร็จความใคร่ในวัยรุ่นเป็นการเรียนรู้การหาความสุขทางเพศอย่างหนึ่ง เป็นการเรียนรู้เกี่ยวกับอวัยวะเพศเพื่อเข้าสู่วัยเจริญพันธ์ุ
ส่วนการสำเร็จความใคร่ในผู้ใหญ่ เป็นหนึ่งในการผ่อนคลายทางเพศ ที่เป็นไปตามธรรมชาติ ไม่ใช่ความผิดปกติอะไร..
..
จากคำอธิบายจะพบว่าการสำเร็จความใคร่ในวัยรุ่นหรือวัยผู้ใหญ่ไม่ใช่เรื่องผิดหรือถือเป็นความผิดปกติทางจิตใจ
เพียงแต่คุณหมอฝากเตือนไว้ว่า..
สิ่งที่ต้องคำนึงถึงคือ ความถี่และความสะอาด เพราะการหมกมุ่นในเรื่องทางเพศจนต้องสำเร็จความใคร่บ่อยครั้งเกินไป มากถึงขนาดต้องทำทุกวันหรือวันละหลาย ๆ ครั้ง จะมีผลทำให้ร่างกายอ่อนเพลียและขาดการพักผ่อนที่เพียงพอได้
รวมไปถึงอาจมีผลข้างเคียงของเพศชายเกี่ยวกับอาการหลั่งเร็ว
ซึ่งจะทำให้เกิดปัญหาความสัมพันธ์ทางเพศตามมาในภายหลังได้
คุณหมอเน้นว่า ให้ทำแต่พอดี พอประมาณ ไม่ควรหมกมุ่น เพราะในชีวิตยังมีเรื่องอื่นที่ชวนให้เราได้ตื่นเต้น สนุกสนานและยังสร้างสรรค์กว่าอีกมากมาย
..
สุดท้ายนี้ ผมอยากฝากไว้ 2 เรื่อง
คือ
1).พ่อ แม่ ผู้ปกครองควรเปิดใจ คุยเรื่องทางเพศกับลูกตรง ๆ
ควรคุยแบบประนี ประนอม อย่าใช้วิธีดุ ด่า ข่มขู่
เพราะหากลูก หลานท่านไม่กล้าคุยเรื่องทางเพศกับพ่อ แม่ แล้วปล่อยให้เขาไปเรียนรู้จากครูญี่ปุ่น ครูฝรั่งในคลิปหนังAV จนเลยเถิดไปเรียนกันเองระหว่างวัยรุ่นด้วยกัน ปัญหามันจะยาวจนสาวไม่ถึง....
2). ถึงแม้การสำเร็จความใคร่จะไม่ใช่สิ่งผิดปกติ แต่มันจะถูกได้ก็ต่อเมื่อเป็นการสำเร็จความใคร่ในที่ลับ ในพื้นที่ส่วนตัว ไม่ใช่การสำเร็จความใคร่ในที่สาธารณะหรือต่อหน้าคนอื่น แบบนั้นมันพวกจิตวิปริต ผิดปกติ หากพบเจอต้องรีบแจ้งเจ้าหน้าที่.....อย่าปล่อยไว้ เป็นอันตรายต่อสังคม
ไปครับ วันนี้ลมดี ไปวิ่งว่าวกัน(Kite flying)...🤭
ภาพประกอบนี้ ได้รับความอนุเคราะห์จาก เพจเจ้าพระยาพาเพลิน
♦️https://www.blockdit.com/posts/5ffcee71c358fe0cda10ab6d
ขอบคุณข้อมูลจาก..
ภาพประกอบจากunsplash
ติดตามอ่านบทความได้ที่
- 15
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
