18 ม.ค. 2021 เวลา 13:45 • ปรัชญา
# มันไม่ได้ซับซ้อนอะไรขนาดนั้น
กฎของการมีความสุข อย่างรู้มากไป อ่านเรื่องราวต่อไปนี้แล้วคุณจะเข้าใจ
*****
นักปราชญ์คนหนึ่ง นามว่า เฮอคิเมอธี เขาเป็นชายสูงวัยที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านที่แสนเก่าแก่ ซึ่งเขาเป็นคนที่เชื่อว่า การอ่านหนังสือมาก ๆ นั้นสำคัญที่สุดเพราะจะทำให้เรามีองค์ความรู้และไม่ทำอะไรผิดพลาดง่าย ๆ
แต่ทว่าวันหนึ่ง หลังจากที่กำลังจะเดินทางกลับบ้าน เขาก็เกิดตระหนักได้ว่า รองเท้าของเขานั้นเริ่มเสื่อมสภาพแล้วจริงๆ
และด้วยเหตุที่ เฮอคิเมอธี ใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการเดินในแต่ละวัน เขาจึงต้องการหารองเท้าที่ดีที่สุดเพื่อรองรับและปกป้องเท้าของเขาได้อย่างพอดิบพอดี
แต่ในตอนนั้น ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเพราะไม่สามารถสั่งของออนไลน์และรอรับรองเท้าได้ที่หน้าประตูบ้าน
อีกทั้ง เฮอคิเมอธี ก็ไม่อยากทำให้เรื่องนี้แย่ลงไป ด้วยการซื้อรองเท้าแบบทั่วไป และมีรูปแบบปกป้องเท้าของเขาไม่ดีมากพอ ซึ่งอาจนำไปสู่การบาดเจ็บ จนไม่สามารถออกจากบ้าน หรือเดินไปหาหนังสือใหม่ ๆ มาอ่านได้อีก เขาจึงคิดหาวิธีที่จะซ่อมมันเสียก่อน
เฮอคิเมอธี จึงรวบรวมหนังสือทั้งหมดที่เขาจะสามารถหาได้ ซึ่งแต่ละเล่มถูกเขียนขึ้นมาเฉพาะเกี่ยวกับรองเท้า อีกทั้งยังเป็นหนังสือจากนักเขียนที่เขาชื่นชมมากที่สุดด้วย เพื่อจะได้ค้นหาคำตอบว่า“เขาควรจะทำอย่างไรถ้ารองเท้าของเขาจะขาดออกจากกัน”
เฮอคิเมอธี ใช้เวลานานหลายชั่วโมง เพื่ออ่านหนังสือก่อนที่จะพบว่า เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากไปซื้อรองเท้าคู่ใหม่
จากนั้นเขาก็ใช้เวลาส่วนใหญ่ในการอ่านเกี่ยวกับวิธีที่จะทราบว่า รองเท้าคู่หนึ่งนั้นควรเลือกเช่นไรให้พอดีและเหมาะสม จนเมื่อเขาพอใจกับคำตอบที่พบแล้ว
เขาก็ทำการวิจัยต่อไปอีกเล็กน้อย เพื่อเพิ่มความรู้สึกมั่นใจในการเลือกซื้อรองเท้าคู่ใหม่ที่มีคุณภาพสูงมาทดแทน
ในตอนนั้นเขาคิดว่า “ถ้าเขาไม่ได้ทำการวิจัยเขาอาจจะต้องเดินเท้าเปล่าไปตลอดชีวิต เพราะไม่มีใครมาบอกวิธีแก้ไขปัญหารองเท้าให้เขาได้เลยสักคน”
ซึ่งตามคำแนะนำของหนังสือ ได้บอกไว้ว่า “เขาควรหาไม้มาวางขนาบกับรองเท้าคู่เก่าและวัดดูว่าความยาวของรองเท้านั้นมีขนาดเท่าไหร่เสียก่อนที่ออกจะไปซื้อ”
ก่อนออกไปที่ตลาด เฮอคิเมอธี จึงได้ทำตามคำแนะนำดังกล่าว หลังจากนั้นเขาก็ไปที่ตลาด และเดินเข้าไปในร้านขายรองเท้าร้านหนึ่ง ซึ่งที่ร้านนั้น เฮอคิเมอธี ก็ได้พบกับรองเท้าที่เขาชื่นชอบคู่หนึ่งเข้า
แต่ในระหว่างที่เขาจะทำการซื้อนั้นเขาก็ใช้มือล้วงลงไปในกระเป๋าผ้า เพื่อหวังจะนำไม้ที่เขาทำการวัดรองเท้าคู่เก่านั้นไว้ ออกมาทาบขนาดของรองเท้าคู่นี้ดูไว้นี้ก่อนจะจ่ายเงิน
หลังจากที่หาอยู่นาน เขาจึงได้พบว่าเขานั้นลืมไม้วัดไว้บนโต๊ะหน้าบ้าน ระหว่างที่เขาเดินเข้าไปหยิบกระเป๋านั้นเอง เมื่อทราบเช่นนั้น เฮอคิเมอธี จึงรีบเดินกลับบ้านไป เพื่อไปหยิบไม้วัดนั้นมา
แต่ทว่า ระหว่างทางเดินกลับบ้านนั้นเอง รองเท้าคู่เก่าของเขาก็เกิดขาดออกจากกันเป็นสองชิ้นไปเสียแล้ว ด้วยเหตุนี้ เฮอคิเมอธี จึงต้องเดินเท้าเปล่ากลับไปที่ร้านจนได้
และด้วยเหตุที่บ้านและร้านขายรองเท้านั้นอยู่ห่างจากกันค่อนข้างมาก เมื่อไปถึงที่ร้าน ก็กลับกลายเป็นว่าร้านปิดไปเสียแล้ว
จนเช้าวันรุ่งขึ้น เขา จึงเดินกลับไปที่ตลาดด้วยเท้าเปล่า อีกครั้ง แต่รองเท้าที่เขาเลือกไว้เมื่อวานนั้น ถูกขายไปแล้ว
เจ้าของร้านซึ่งมีปฏิกิริยางงงวยกับ เฮอคิเมอธี จนต้องถามด้วยความประหลาดว่า “ทำไมเมื่อวานนี้คุณไม่ซื้อรองเท้านั้นกลับไปเสียเลยล่ะครับ”
เฮอคิเมอธี จึงตอบชายเจ้าของร้านไปว่า “เพราะฉันลืมไม้ที่ใช้วัดรองเท้าไว้ที่บ้านหน่ะสิคุณ และใคร ๆ ก็ย่อมรู้ว่าหากคิดจะซื้อรองเท้าสักคู่ ก็ต้องมีการวัดขนาดเท้าที่ถูกต้องก่อนจึงจะซื้อรองเท้าได้ และผมก็ไม่ต้องการซื้อสินค้าไปผิดขนาดด้วย ผมจึงต้องรีบกลับไปเอาไม้วัดมา”
เจ้าของร้าน ที่ได้ฟังเช่นนั้นก็กลับยิ่งงงมากขึ้นไปอีก เขาจึงถามต่อไปว่า “แต่เท้าของคุณอยู่กับคุณนะ ทำไมคุณไม่ลองใส่รองเท้านั้นดูเลยล่ะ”
เมื่อเจ้าของร้านพูดจบ เฮอคิเมอธี ก็รู้สึกสับสนพอ ๆ กันเขาจึงตอบว่า “ก็หนังสือทุกเล่ม เขาบอกว่ารองเท้าต้องซื้อโดยมีขนาดเท่ากับรองเท้าที่คุณมีอยู่แล้วหน่ะสิครับ”
เจ้าของร้าน จึงหัวเราะออกมาเสียงดังลั่น จากนั้นเขาก็พูดว่า "โอ้ไม่นะ! ที่จริงแล้วคุณไม่ต้องทำตามคำแนะนำจากหนังสือในการซื้อรองเท้าหรอก คุณแค่ต้องมีเท้า และเงิน มาที่ร้านขายเท่านั้นแหล่ะครับ มันไม่ได้ยุ่งยากอะไรขนาดนั้นเลย”
บางครั้งคุณก็ต้องดำเนินบางสิ่งไปโดยไม่ต้องคิดอะไรให้มากมาย ความรู้มักมีประโยชน์ก็จริง แต่ในบางสถานการณ์ หากคุณขาดประสบการณ์ หรือสามัญสำนึก ความรู้ของคุณก็จะทำให้คุณไปไม่ได้ไกลเท่าไรนัก อีกทั้งนั้นอาจจะยิ่งทำให้หลาย ๆ อย่างดูซับซ้อนกว่าที่เป็นจริงอีกด้วย
ฉะนั้นหากคุณประสบปัญหาใด ๆ ก็ตามอย่าลืมลองใช้ทักษะ และใช้เหตุผลที่คุณมีนอกเหนือจากสิ่งที่คุณได้เรียนรู้ในตามตำรามาเสียบ้าง บางที่นั้นอาจทำให้คุณได้พบทางออกที่ง่ายและดีกว่าก็เป็นได้
*****
ดังที่ ข้งเบ้ง กล่าวไว้ว่า “ทฤษฎีคือเปลือกนอก ปฏิบัติถึงจะเป็นแก่นแท้ ฉะนั้นเรื่องบางเรื่องไม่ต้องรู้มากก็ได้ เพราะยิ่งรู้มากยิ่งเป็นทุกข์”
*****
แปลและเรียบเรียงโดยเรื่องเล่าจากดาวนี้
ที่มา:
ติดตามเรื่องเล่าจากดาวนี้เพิ่มเติมได้ที่
หากชื่นชอบก็อย่าลืมกด Like กด Share เพื่อเป็นกำลังใจให้กันด้วยนะคะ สามารถแชร์แนวคิด มุมมองดีๆได้ใน Comments นี้เลย 😄
โฆษณา