11 ม.ค. 2021 เวลา 11:43 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์
Soul อัศจรรย์วิญญาณอลเวง
คือหนังที่ดีที่สุดของปี 2020 สำหรับผม
ิเพราะว่า เมื่อดูหนังเรื่องนี้แล้ว อาจจะทำให้ใครบางคน ตอบตัวเองได้ว่า อะไรคือสิ่งที่ต้องการในชีวิต???
จริง ๆ แล้วผมเองก็เป็นคอหนังคนหนึ่ง ชอบดูหนังเอามาก ๆ เรียกว่าในทุก ๆ เดือนต้องมีเข้าไปดูสักเรื่องหนึ่งเป็นอย่างน้อย
แต่พอในปีที่ผ่านมาเจอกับสถานการณ์ Covid-19 ไป ก็ทำให้ได้ไปดูหนังน้อยลง แต่พอโรงหนังเปิดให้ดูเมื่อไหร่ก็รีบไปดูทันที จำได้ว่าเรื่องแรก ที่ได้ไปดูหลังโควิท น่าจะเป็น Vivarium หมู่บ้าน พิศวง ที่หาทางออกไม่ได้ และก็เข้ามาทุกเดือนจนถึงเรื่องสุดท้ายของปีที่แล้ว คือ Soul อัศจรรย์วิญญาณอลเวง
ซึ่งเป็นหนังเอนิเมชั่นจากค่าย Pixar ค่ายหนังที่สร้าง เอนิเมชั่นขึ้นหิ้ง มาแล้วนักต่อนัก
เรื่องย่อของหนัง พูดถึง คุณครูสอนคนตรี คนหนึ่ง ซึ่งมีชื่อว่า โจ ผู้ซึ่งมีความรักและหลงใหลในแนวเพลงแจ๊สเป็นอย่างมาก เขาหวังที่จะได้เล่น ดนตรีแจ๊สร่วมกับ บุคคลในวงการที่มีชื่อเสียง มาโดยตลอดเวลา แต่ก็ผิดหวังทั้งชีวิต
จนวันหนึ่งฝันของเขาก็กลายมาเป็นจริง แต่สุดท้าย ก็ดันมา พลาดเดินตกท่อ และตกไปสู่ยังนครแห่งแดนแรกเกิดซะงั้น!! เขาก็เลยต้องหาทางที่กลับไปยังโลกมนุษย์จนได้เจอกับวิญญาณเด็ก ที่กำลังจะต้องไปเกิด ที่มีชื่อว่า 22 ภารกิจของเราคือ เป็นพี่เลี้ยงทำให้เด็กคนนี้ พร้อมที่ไปเกิดบนโลกมนุษย์ได้ซึ่ง พี่เลี้ยงทุกคน ที่ผ่านมายังไม่เคยมีใครทำได้สำเร็จมาก่อน
ส่วนเรื่องราวจะเป็นอย่างไรต้องไปติดตามต่อกันในหนังนะครับ
ผมมี 5 เหตุผล ที่ว่าทำไม Soul ถึงเป็นหนังที่ดีที่สุดของผมในปีนี้
***คำเตือน เนื้อหาหลังจากนี้ไปอาจมีการ Spoil เรื่องราวภายในหนัง
1. การดูการ์ตูนเรื่องนี้ ไม่เป็นเพียงการ์ตูนเด็ก เรื่องหนึ่งแต่เพียงเท่านั้น แต่มันคือหนัง ที่อาจเปลี่ยนความคิดและมุมมอง ของคนคนหนึ่งได้เลย
บางคนอาจจะดูหนังเรื่องนี้แล้วไม่เข้าใจ แต่ถ้าใครที่พอเข้าใจสิ่งที่หนังจะสื่อบ้างแล้วหละก็ บอกได้เลยว่าได้อะไรกลับไปคิดตกตะกอนเป็นแน่นอน
2. ผมชอบที่ค่ายหนังใหญ่อย่าง Pixar กล้าที่จะทำอะไรแตกต่างไปจากเดิม
เรารู้กันอยู่แล้วว่า Pixar นั้นมีหนังขึ้นหึ้ง หลายต่อหลายเรื่อง และแต่ละเรื่องก็เรียกน้ำตาแตกกันแบบเขื่อนกั้นก็เอาไม่อยู่ อย่างเรื่อง CoCo วันอลวน วิญญาณอลเวง , Inside Out , Toy story , Finding Nemo แต่ Soul เป็นอะไรที่แตกต่าง ถ้าผมจะบอกว่า การ์ตูนเรื่องนี้ ไม่ได้ทำมาให้เด็กดู ก็คงจะกล่าวไปไม่เกินจริง นัก
ความรู้สึกของหนังเรื่อง Soul จึงให้ความแตกต่าง กับการ์ตูนเรื่องอื่นๆ ที่เคยมีมาของ Pixar เพราะสอนอะไรมากกว่า เรื่องของมิตรภาพ ที่เราได้เจอะเจอกันในหนังเด็ก ที่ผ่านมา เรียกว่าก้าวผ่านการทำหนังเด็ก ไปเป็นหนังผู้ใหญ่แบบเด็ก เลยก็ว่าได้
1
3. ใช้ตัวเอกผิวสี และ โดดเด่น ด้านดนตรีด้วยเพลง แจ๊ส
นับว่าเป็น อนิเมชั่น เรื่องแรกจาก Pixar ที่ใช้ตัวหลักเป็น ตัวละครผิวสี และที่สำคัญ นำดนตรี แจ๊ส มาเป็นแกนหลัก Inspiration ของเรื่องนี้อีก ซึ่งทำให้กลิ่นอาย ด้านดนตรี มีความแตกต่างจาก อนิเมชั่นเรื่องที่ผ่านมาของ Pixar
4. ดูจบอารมณ์ไม่จบ
ไม่รู้ว่าเป็นคนเดียวไหม ตอนที่ผมดูหนังเรื่องนี้จบ ผมคิดถึงคนแรกเลยคือ พี่เอ๋ นิ้วกลม ว่าอยากให้พี่เอ๋ ได้ดูหนังเรื่องนี้ แล้วไม่กี่วันต่อมา ก็ได้อ่านบทความรีวิวจากพี่เอ๋ ซึ่ง บอกได้เลยว่าดีมาก ๆ
หนังเรื่องนี้ ยอมรับเลยว่า ตอนดูจบแล้ว ยังไม่ได้เข้าใจในสิ่งที่หนังสื่อทั้งหมด แต่พอได้ตกตะกอนความคิด ได้ลองคิดตาม และคิดทบทวนจากสิ่งที่หนังจะสื่อ ยิ่งทำให้รู้ว่า สิ่งที่เราได้จากในหนังนั้นไม่จบเพียงแค่การดู ในโรงเพียงเท่านั้นจริง ๆ
หนังเรื่องนี้อยู่ในหัวผมต่อจากที่ดูมาอีกหลายวัน จนต้องถึงกับ อดรนทนไม่ได้ ต้องเขียนมาเป็นบทความให้ทุกท่านได้อ่านในวันนี้
5. เอาเรื่องปรัชญา มาทำให้เข้าใจได้ง่ายขึ้น
หนังเรื่องนี้ พูดถึงประเด็นที่ว่า "เราเกิดมาเพื่ออะไร" ซึ่งสื่อออกมาอย่างเรียบง่าย และก็เข้าใจได้
ซึ่งประเด็นนี้ เรียกว่าเป็นประเด็นที่ยิ่งใหญ่มาก ไม่เคยมี การ์ตูนเรื่องไหนสื่อออกมาและ ทำให้เข้าใจดีเท่ากับเรื่องนี้มาก่อน อย่างเช่น
1
"เรา เกิดมาเพื่อ หาความสุขที่การตั้งเป้าหมายของชีวิต หรือใช้ชีวิต โดยมีความสุขในทุกๆวันกันแน่?"
1
นี่คงเป็นคำถามที่กลับมานั่งคิดทบทวนไม่ได้ดูหนังเรื่องนี้จบ
ผมคนหนึ่งยอมรับว่าเป็นคนที่ใช้ชีวิตตาม passion ราคาเป้าหมายในชีวิตพอสมควร เหมือนกับว่า พอ เรามีเป้าหมายแล้วเรารู้สึกว่า ในแต่ละวันนั้นเราตื่นมาเพื่อจะทำอะไร ผิดกับตอนที่ไม่มีเป้าหมายที่ไม่รู้ว่าตื่นมาแล้วจะทำอะไร
แต่ในมุมมองหนึ่งที่น่าสนใจก็คือ ระหว่างทางที่เรากำลังเดินทางไปถึงเป้าหมายนั้น เราก็ยังสามารถที่จะมีความสุข กับสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างทางได้ เพราะมีบางคนที่มัวแต่มองความสุขที่ต้องไปถึงเป้าหมายเพียงอย่างเดียว ละเลยสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างทาง จนในที่สุดเมื่อเดินทางไปถึงเป้าหมายนั้นกลับมาพบว่า ตัวเองจะว่างเปล่า
เหมือนกับในตอนที่ตัวเอกของเรื่องประสบความสำเร็จ แต่ได้เล่นอยู่ในวงที่ต้องการเป็นที่เรียบร้อย ข้อใดเมื่อคืนน่ะสุดยอดแล้วมีความสุขนั้นกลับมา หนังที่เขาได้หวังไว้มาตลอดหลายปี ตลาดเช้า เมื่อจบจากการโชว์ในคืนนั้น เขาก็ถาม กับคนในวงต่อไปว่า แล้วแบบนี้คือยังไงต่อ คนในวงก็บอกว่า พรุ่งนี้ก็กลับมาเล่นใหม่ แบบเดิมอีกครั้ง แค่นั้น?
แล้วทิ้งท้ายด้วยนิทาน ที่เราถึงปลาในมหาสมุทร ตัวหนึ่ง พี่เฝ้าถามปลาตัวหรือว่าฉันจะทำยังไง ถึงจะออกไปยังมหาสมุทรได้ ปลาตัวที่สอบถามก็บอกว่าก็ ก็ตอนนี้ไงที่เธออยู่ในมหาสมุทรแล้ว ตับปลาตัวนั้นก็ยังเถียงกลับไปว่าไม่ใช่ที่นี่มันแค่ทะเลเท่านั้นมหาสมุทรนั้นกว้างใหญ่กว่านี้
ผมฟังเรื่องนี้ก็งงๆนะทำไมตอนแรกจนเมื่อมาลองคิดทบทวนแล้วก็ดูรีวิวจัดในมุมมองและหลายๆคนจะได้รู้เรื่องนี้มาก็ตกตะกอนได้ดังนี้นะครับอันนี้เป็นความเข้าใจในมุมมองผมนะครับเน้นย้ำ
ผมคิดว่านิทานเรื่องนี้น่า จะพยายามสื่อว่า แท้จริงแล้ว มีหลายคนกำลังวิ่งหาความสุข พยายามมุ่งมั่นเพื่อที่จะไปถึงเป้าหมายนั้นแล้วคิดว่าตัวเองจะมีความสุข แต่ในทางกลับกันนั้น ที่ที่ยืนอยู่รอบๆ ข้างที่มีอยู่ ก็มีความสุขได้เช่นกันเหมือนปลาตัวนั้น ที่ไม่รู้ว่ามหาสมุทรนั้นอยู่รอบตัวเองตั้งแต่แรก
1
ความสุขบางทีอาจจะเป็นเพียงแค่การที่ได้นั่งมองดูลูกไม้หล่น จากต้นไม้ มองดูผู้คนที่มีรอยยิ้ม ให้แก่กันและกัน การได้กินของอร่อยๆ หรือการได้พูดคุย กับใครสักคนอย่าสนุกสนาน เหลือจะลืมง่ายแค่คุณไม่เห็นรอยยิ้มของใครสักคน
นี่ก็คงเป็นเหตุผล 5 ข้อ ที่่ทำให้ผมโปรดปรานหนังเรื่องนี้เป็นพิเศษ และอยากนำมาบอกต่อให้กับคนอื่น ๆ เพื่อให้ลองเปิดใจไปดูหนังเรื่องนี้ เพราะคิดว่าน่าจะได้อะไรดีๆกลับมาหลังจากที่ดูหนังเรื่องนี้เป็นอย่างแน่นอน
สำหรับผมเองเรียกว่า เป็นหนังเรื่องหนึ่ง ดีขึ้นเป็นหนังเรื่องโปรดในดวงใจ เป็นที่เรียบร้อย
ขอให้ทุกคนที่ได้ดู หรือได้อ่านบทความนี้ เก็บอะไรกลับไปคิดเกี่ยวกับความสุข ได้บ้างนะครับ
โฆษณา