12 ม.ค. 2021 เวลา 00:05 • หุ้น & เศรษฐกิจ
3 ข้อน่าสนใจเกี่ยวกับ P/E
ถ้าพูดถึงการประเมินมูลค่าหุ้น เพื่อบอกความถูกแพงของหุ้นนั้น ตัวเลขค่า P/E นั้น ก็มักจะเป็นสิ่งที่ถูกพูดถึง เพราะเป็นอัตราส่วนที่คิดไม่ยาก ซึ่งในความเรียบง่ายนี้ ก็มีสิ่งที่น่าสนใจที่ควรรู้เกี่ยวกับค่า P/E ลองค่อยๆ ไปอ่านกันต่อเลย แล้วจะเข้าใจเรื่องของ P/E นี้มากขึ้น
3 ข้อน่าสนใจเกี่ยวกับ P/E
1
1. P/E คืออะไร บอกความถูกแพงได้ยังไง??
P/E (price to earning ratio) คิดมาจาก ราคาหุ้น/ กำไรต่อหุ้น หรือถ้ามองทั้งกิจการคือ มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด หารด้วย กำไรสุทธิย้อนหลัง 1 ปี( 4 ไตรมาส)
แปลความว่า ถ้าบริษัทนั้นทำกำไรได้เท่าเดิมตลอด แล้วเราซื้อมาที่ราคานี้ กี่ปีถึงคืนทุน
เช่น บริษัทมานะ ทำกำไรได้ 500,000 บ. ต่อปี และเราซื้อบริษัทมานะ มาที่ราคา 5,000,000 บ.
P/E = 5,000,000/ 500,000 = 10 ก็คือถ้าบริษัททำกำไรได้เท่าเดิมตลอด และซื้อมาที่ราคานี้ จะใช้เวลา 10 ปีจะคืนทุนที่เราซื้อมา
2
แล้วถ้า P/E 30 เท่า ก็หมายความว่า เราซื้อมา 30 ปี ถึงจะคืนทุน แบบนั้นหรอ แบบนี้ต้องรอจนแก่เลยนะ ทำไมเขายอมซื้อขายกันด้วยราคาที่สูงแบบนั้นหละ ลองมาค่อยๆ อ่านกันต่อเลย..
1
2. P/E ที่ส่วนใหญ่เขาพูดถึง จะมี 2 ค่า ซึ่งเราต้องดูให้ดีว่าเขาพูดถึงค่าไหนนะ
1
(1) Trailing P/E หรือ P/E ย้อนหลัง เป็นการคำนวณมาจากกำไรย้อนหลัง 12 เดือน (4 ไตรมาส) เป็น P/E ที่คิดมาจากข้อมูลที่เกิดขึ้นจริง เราจะเห็นได้ตามเว็บไซต์ของ www.set.or.th ตรงตารางสรุปงบในหุ้นที่เราสนใจ
(2) Forward P/E หรือ P/E ล่วงหน้า คำนวณจากราคาหุ้นตอนนี้ หารด้วย “กำไรในอนาคตที่คาดการณ์” เนื่องจากมันเป็นการคาดเดาอนาคต จึงมีความไม่แน่นอนได้ ค่า Forward P/E จะเห็นตามบทวิเคราะห์ของโบรกเกอร์ต่างๆ
ลองมาดูตัวอย่างกัน…
หุ้นบริษัทมานีจำกัด ราคาต่อหุ้นอยู่ที่ 20 บ. และมีกำไรต่อหุ้น ที่ 1 บ./หุ้น แบบนี้ Trailing P/E จะเท่ากับ 20 เท่า
แต่ถ้าเราคาดการณ์ว่าหุ้นบริษัทมานีนี้มีการเติบโตอย่างมาก จะมีการเติบโตของกำไรสุทธิเป็น 2 เท่าในปีถัดไป
ซึ่งจะทำให้กำไรต่อหุ้น จาก 1 บ. เพิ่มเป็น 2 บ. Forward P/E ก็จะเท่ากับ 10 (เพราะราคาหุ้นตอนนี้คือ 20 บ.หารกำไรที่คาดเดาคือ 2 บ./หุ้น) แบบนี้ราคาหุ้นของบริษัทมานีที่ตอนนี้ 20 บ. ก็น่าสนใจ เพราะ Forward P/E แค่ 10 เท่า เท่านั้น
2
แต่ข้อควรระวัง!! คือ เนื่องจาก Forward P/E เป็นการคาดเดาอนาคต ดังนั้นไม่มีใครคาดเดาได้ถูกต้องแน่นอน และบางทีแต่ละคนก็คำนวนออกมาได้ไม่เท่ากัน
เราก็จะเห็นว่า ถ้ามีการคาดการณ์ว่ากำไรจะมีการเติบโตในอนาคต ก็จะทำให้นักลงทุนยอมซื้อขายกันที่ P/E สูงๆ ราคาหุ้นสูงๆ แต่ที่ต้องระวังว่า ถ้าการเติบโตไม่เป็นอย่างที่คิด อาจจะทำให้ตกลงมาอย่างมากได้ เช่น หุ้น Beauty ที่มีการซื้อขายที่ P/E สูงถึง 40-50 เท่า เพราะมีการคิดว่าจะมีการเติบโตอย่างมาก แต่เมื่อไม่เป็นไปตามคาดก็ทำให้ราคาหุ้นตกลงมาก
3. ข้อควรระวังในการใช้ P/E
เนื่องจากกำไรจะเป้นตัวหารของการคิดค่า P/E ดังนั้นข้อควรระวังสำคัญ คือ เรื่องของกำไรพิเศษ เช่น การขายกิจการบางส่วน การได้เงินชดเชยจากประกัน ซึ่งกำไรพิเศษเหล่านี้จะเกิดขึ้นชั่วครั้งชั่วคราว กำไรพิเศษเหล่านี้จะทำให้พอคิดค่า P/E ออกมาแล้วต่ำได้ เพราะ earning หรือ ตัวหารเพิ่มขึ้น จึงทำให้ P/E ต่ำลง แล้วนักลงทุนก็จะเข้าใจว่าบริษัทเติบโตของกำไรมากทำให้ P/E ต่ำลง ถูกน่าซื้อ แบบนี้ต้องระวัง
กับอีกข้อที่ควรระวัง ค่า P/E ที่ต่ำ แปลว่า ถูกเท่านั้น แต่ไม่ได้บอกว่าน่าสนใจลงทุนรึเปล่า เพราะของถูกบางครั้งก็ไม่ใช่ของดี ดังนั้นต้องเข้าใจในตัวกิจการ และพิจารณาเรื่องอื่นๆ ประกอบด้วยก่อนลงทุน
P/E ในอดีตนั้นเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจริง แต่เวลาเราลงทุนก็ควรมองอนาคตด้วยด้วย แต่มองด้วยความมีเหตุผล และด้วยความเป็นไปได้ อย่าคาดหวังแบบสวยหรูจนมากเกินไป
เพิ่มเติมเล็กน้อย: การคิดค่า P/E ที่แสดงในเว็บไซต์ของ set จะใช้ มูลค่าหุ้นตามตลาด หรือ market cap เป็นตัวตั้งและหารด้วย กำไรสุทธิย้อนหลัง 12 เดือนล่าสุด หรือก็คือ 4 ไตรมาสย้อนหลังนั่นเอง
#หมอยุ่งอยากมีเวลา
#PE
#ประเมินมูลค่าหุ้น
โฆษณา