12 ม.ค. 2021 เวลา 13:09 • ความคิดเห็น
แชร์ประสบการณ์การทำเพจ
1
บัดนี้...เพจหนังหลายมิติได้เดินทางมาครบ 200 โพสต์แล้ว เป็นการเดินทางที่ยาวนานกว่า 1 ปี 7 เดือน นับตั้งแต่วันแรกที่ได้รู้จักกับ Blockdit
1
ตามธรรมเนียมของเพจ เมื่อเขียนบทความครบ 50 บทความแล้ว ผมจะแนะนำเรื่องการเขียน 1 บทความ แต่ครั้งนี้ผมเห็นว่า ได้เขียนแนะแนวเรื่องการเขียนไปพอสมควรแล้ว จึงขอขยับหัวข้อมาแบ่งปันประสบการณ์ในการสร้างเพจแทน
เพจหนังหลายมิติถือกำเนิดมาจาก Blockdit ด้วยความชอบส่วนตัวของผมที่เป็นคนชอบดูหนัง
ผมเคยสร้าง Blog มาแล้วครั้งหนึ่งใน Bloggang ของเวบพันทิป ได้ผลตอบรับดีประมาณนึง มียอดผู้เข้าชม Blog ทั้งสิ้น 400,000 ครั้ง
1
เคยทำเพจแนะนำหนังบน Facebook มียอดไลค์ประมาณ 126 Likes ส่วนมากเป็นเพื่อนๆมากดไลค์ เพราะตอนนั้นหลายคนเห็นว่าผมรู้จักหนังเยอะ เลยแนะนำให้ผมเปิดเพจหนัง แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ เพราะเพจก็มียอดไลค์แค่นั้น ไม่เติบโต
นี่คือเรื่องราวก่อนที่เพจหนังหลายมิติจะเกิดขึ้น หลังจากนั้นผมก็สนุกกับการทำเพจจนมาถึงวันนี้
เริ่มต้นจากการติดตามลงทุนแมน จนได้รู้จักกับ Blockdit ผมก็เหมือนกับหลายๆคนที่เข้ามาในฐานะผู้อ่าน และเมื่ออ่านมากเข้าก็อยากจะลองเขียน จึงสร้างเพจหนังหลายมิติขึ้นมา (ช่วงแรกเพจเขียนเรื่องทั่วไป พอเขียนได้เดือนนึงก็เปลี่ยนมาเขียนเรื่องหนังและใช้ชื่อเพจหนังหลายมิติตั้งแต่ตอนนั้น)
การเขียนบทความลง Blockdit ประสบความสำเร็จมาก มีคนเข้ามาอ่านบทความหลายคน จนมีผู้ติดตามครบ 1,000 คน ในบทความที่ 38
สำหรับผม นี่คือผลของความพยายามในความตั้งใจ ผมตั้งใจเขียนบทความมาก ช่วงแรกงานเขียนของเพจมีเอกลักษณ์ตรงที่จับเอาหนังมาผูกโยงกับสาระความรู้ต่างๆ
ผมทำเพจอย่างสนุกสนาน ด้วยเป้าหมายที่จะมีผู้ติดตามครบ 10,000 คนให้ได้
แล้ววันนั้นก็มาถึง 20 มิถุนายน 2020 เพจมีผู้ติดตามครบ 10,000 คนตามที่ตั้งใจ แต่หลังจากนั้นผมก็หายไปนานกว่า 3 เดือน คืออยู่ดีๆก็หมดไฟในการเขียน
1
พอถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้แล้ว ก็หมด passion และที่ผ่านมาผมก็เขียนบทความแบบหนักหน่วงจนสว่างอยู่หลายครั้ง การหยุดพัก 3 เดือน เหมือนได้เติมพลังกลับมา ถึงตรงนี้อยากจะบอกว่า ถ้าได้หยุดพักการทำเพจ ก็อาจจะหายไปยาว (เหมือนผมช่วงนั้น) ต้องขอบคุณผู้อ่านหลายคนที่เข้ามาทักทาย ดึงจนผมกลับมาอีกครั้ง
1
การหายไป 2 เดือนเกือบ 3 เดือน เมื่อกลับมาปรากฏว่าคนที่เคยติดตามก็หายไปบ้าง แต่โชคดีที่ผมยังไม่หายไปนานเกินไปพอเริ่มเขียนได้สักพัก ผู้ติดตามก็กลับมา
ช่วงนั้นเองที่ผมกลับไปทำเพจหนังหลายมิติบน Facebook อย่างจริงจัง คือ ผมเปิดเพจที่ Facebook ควบคู่ไปด้วยมาสักพักแล้ว แต่ไม่ได้ลงบทความบน Facebook โดยตรง เน้นแชร์ ลิ้งค์จาก Blockdit มากกว่า
การอ่านบทความขนาดยาวใน Blockdit อ่านง่ายกว่า Facebook มาก เพราะสามารถใส่ข้อความแยกเป็นบล็อคและแทรกรูปไปในบทความได้เลย ส่วน Facebook ไม่สามารถทำได้
การที่ผมประสบความสำเร็จ(ระดับนึง)จาก Blockdit ไม่ใช่เครื่องชี้วัดความสำเร็จบน Facebook ช่วงแรกที่ทำเพจผมมียอดไลค์ราว 200-300 ไลค์ (เพื่อนมาไลค์อีกนั่นแหล่ะ)
เหตุที่เป็นแบบนี้เพราะ Facebook ปิดการมองเห็น ยิ่งเราไม่ได้ลงบทความในเพจแต่แชร์ลิ้งค์มาจากเวบอื่น Facebookก็ยิ่งใจร้ายกับเรา เรียกว่าปิดการมองเห็น 80-90 เปอร์เซนต์เลยทีเดียว
โพสต์นึงเข้าถึงคนประมาณหลักหน่วยถึงหลักสิบ ผมจึงเปลี่ยนวิธีการ โดยเลือกบทความสั้นๆไปลงที่ Facebook โดยตรง ทำแบบนี้อย่างสม่ำเสมอ
ช่วงแรกเรามีบทความสต็อคเยอะมาก เพราะเอาบทความเก่าๆใน Blockdit ไปรีรันลงเฟส ก็ได้ผู้ติดตามมาประมาณนึงแต่ผลตอบรับไม่ดีเท่าไหร่ หลักๆเลย เพราะเฟสบุ๊คปิดการมองเห็น และบทความที่เขียนเป็นแนวสาระแบบเข้มๆ บวกกับความยาวที่มาก คนก็ไม่อ่าน แต่นั่นไม่ใช่ข้ออ้าง เพราะยังมีเพจที่โพสต์ยาวแต่มีคนติดตามเป็นหมื่น เป็นแสน กระทั่งเป็นล้านก็มี
ความผิดพลาดตรงนี้คงเป็นเพราะงานเรายังไม่ดีพอนั่นเอง ผมจึงไปศึกษาวิธีการของเพจที่โพสต์ยาวๆ จนได้เทคนิคว่า การโพสต์บทความขนาดยาวบน Facebookต้องซอยย่อยและเว้นบรรทัดให้อ่านง่าย
ถ้าบทความยาวเกินกว่า 600 คำ ทำเป็นโพสต์กลุ่มรูปภาพจะดีกว่า คือ แยกบทความเป็นหลายส่วน แล้วโพสต์รูปประกอบหลายรูป ในแต่ละรูปให้ใส่คำบรรยายเป็นเนื้อหาที่แยกย่อย
2
ถ้าทำแบบนี้ บทความขนาดยาวจะมีคนอ่านมากขึ้น เมื่อได้เทคนิคก็มีคนเข้ามาอ่านเยอะขึ้นจนมียอดไลค์พันนิดๆ (รอบนี้ไม่ใช่เพื่อนแล้ว แต่เป็นคนที่มาไลค์เพราะแชร์)
แล้วก็มาถึงโพสต์เปลี่ยนชีวิต คือ บทความที่ชื่อว่า " ความลับของหนังเรื่อง my sassy girl" อันนี้ผมลงที่ Blockdit ก่อน (ได้ดาวด้วย)
บทความนี้เมื่อนำไปลงเฟสบุ๊ค ปรากฏว่าแชร์กันสนั่นหวั่นไหว มียอดแชร์ถึง 1,800 ครั้ง เข้าถึงผู้คนกว่า 290,000 คน เฉพาะโพสต์นี้ทำให้ยอดไลค์พุ่งพรวดขึ้นไปกว่า 1,600 คน จนเพจมีผู้ติดตาม 2,600 คน ในเวลาไม่กี่วัน
1
เพราะโพสต์นี้ ทำให้ผมรู้ว่า เนื้อหาแบบไหนที่เหมาะกับเพจบนเฟสบุ๊ค เนื้อหาที่ลงเฟสจะต้องย่อยง่าย เบาสมอง กระตุ้นความสนใจผู้คน (มีสาระก็ได้แต่ต้องไม่หนักเกินไป)
หลังจากโพสต์นี้ผมจึงตัดสินใจทำเพจบนเฟสบุ๊คแบบจริงจังควบคู่ไปกับ Blockdit โดยทุกบทความ ผมจะลงที่ Blockdit ก่อนแล้วจึงไปลงที่ Facebook สไตล์การเขียนก็เบาลง เข้าถึงคนส่วนใหญ่ง่ายขึ้น
ซึ่งผมชอบการเขียนแบบนี้ เพราะไม่ทรมานตัวเองเกินไป (ช่วงที่เขียนบทความแบบสาระหนักๆ ข้อมูลเยอะมาก บางทีเขียนจนเกือบจะอ้วก)
แต่การทำเพจบน Facebook ก็ไม่ง่าย ต่อให้คุณโพสต์ดี มีคนแชร์เยอะขนาดไหน สิ่งนี้ก็อยู่กับคุณไม่นาน เพราะการปิดกั้นการมองเห็นก็จะวนกลับมาเมื่อเนื้อหาไม่น่าสนใจ คือถ้าเฟสปิดการมองเห็นยอดการเข้าถึงจะตกลงแบบสุดๆ
ซึ่งถ้าอยากให้คนเห็นบทความของเพจ ต้องใช้วิธีแชร์บทความลงกลุ่ม ผมเข้าร่วมกลุ่มหนังที่มีคนสนใจเรื่องหนังอยู่แล้ว เวลาโพสต์บทความก็แชร์เข้ากลุ่มต่างๆเหล่านั้น แต่แชร์ไม่ได้ทุกกลุ่มนะครับ อันนี้ต้องอ่านกฏกลุ่มด้วย
ผมจะแชร์เฉพาะกลุ่มที่แอดมินอนุญาตให้แชร์เนื้อหาจากเพจอื่นได้ หลังจากเริ่มทำเพจบนเฟสบุ๊คอย่างจริงจัง 1 ปี ตอนนี้ยอดไลค์ของเพจอยู่ที่ 3,167 คน แม้ยังไม่มากแต่ผมก็พอใจ
*** ข้อสังเกต เพจหนังหลายมิติบนเฟสบุ๊คเพิ่งมีผู้ติดตามครบ 3,000 คน เมื่อ 31 ธันวาคมที่ผ่านมา(2020) พอเพจมีคนติดตามครบสามพัน หลังจากนั้นยอดการไลค์ก็เพิ่มขึ้นในอัตราที่สูงมาก มีคนมากดไลค์ทุกวัน
1
ได้ผู้ติดตามเพิ่มทุกวัน ถ้าบทความโดนใจ ยอดแชร์เยอะ ผู้ติดตามเพิ่มถึง 40-50 คน ต่อวันเลยทีเดียว นับเป็นปรากฏการณ์ที่เพิ่งเกิดหลังจากมีผู้ติดตามถึงสามพันคน ที่เป็นเช่นนี้อาจเป็นเพราะหลักความเร่งของเอ็กซ์โพแนลเชี่ยล หลักนี้คือ เมื่อผู้ติดตามมีมากถึงระดับนึง ตัวเลขคนติดตามจะเพิ่มในอัตราที่มากขึ้น แต่ก่อนจะถึงจุดนี้มันจะมีช่วงที่นิ่งๆอยู่บ้าง ***
1
สรุป สิ่งที่ได้จากการทำเพจ คือ
1. ฝึกความอดทน ความพยายามและความสม่ำเสมอ
2. ได้ปรับปรุง พัฒนางานเขียนของตนเอง
3. ได้ปรับตัว เรียนรู้เพื่อหาเทคนิคใหม่ๆ
4. เรียนรู้ที่จะสมหวัง ผิดหวัง และกลับมาสู้ใหม่
5. ได้เพื่อน ได้มิตรภาพจากคนอ่าน
1
เป็นกำลังใจให้ทุกคนที่กำลังเริ่มต้นทำเพจครับ
โฆษณา