14 ม.ค. 2021 เวลา 03:41 • ธุรกิจ
“The Rock” อาจเป็นแอ๊ด คาราบาวคนต่อไป
1
“ผมจะรู้สึกกระหายที่จะประสบความสำเร็จและถ่อมตัวอยู่ตลอดเวลา ที่สำคัญผมจะต้องเป็นคนที่ทำงานหนักที่สุดเสมอ” นี่คือคำตอบที่นักข่าวมักจะได้จากการที่ไปสัมภาษณ์ “The Rock” ว่าทำไมเขาถึงประสบความสำเร็จ
3
เชื่อว่าหลายคนน่าจะรู้จัก ดเวย์น จอห์นสัน หรืออีกชื่อนึงที่เราคุ้นหูอย่าง “The Rock”
เขาก็คืออดีตนักกีฬามวยปล้ำ, อินฟลูเอ็นเซอร์ และนักแสดงภาพยนตร์ชื่อดังชาวอเมริกัน
ที่สำคัญเขายังเป็นนักธุรกิจอีกด้วย
จากการจัดอันดับโดย Forbes เขาคือนักแสดงที่มีค่าตัวแพงที่สุดในโลก
ในปี 2019 มีรายได้ 2,700 ล้านบาท
ในปี 2020 มีรายได้ 2,600 ล้านบาท
และทรัพย์สินของเขาถูกประเมินไว้สูงถึง 9,600 ล้านบาท
กว่าเขาจะมาถึงจุดนี้ได้ ชีวิตของเขาในวัยเด็ก ต้องพบเจอกับอะไรมากมาย
เขาเกิดในครอบครัวที่มีคุณพ่อและคุณตาของเขาเป็นนักกีฬามวยปล้ำ
2
เขาเคยเป็นนักกีฬาอเมริกันฟุตบอลอาชีพในแคนาดา
แต่เขาก็ต้องพบเจอกับอาการบาดเจ็บบริเวณไหล่และส่วนหลัง จึงทำให้เขาต้องเลิกเล่นไปในที่สุด
หลังจากนั้นเขาจึงกลับมายังสหรัฐอเมริกาเพื่อที่จะเอาดีทางด้านกีฬามวยปล้ำ
โดยมีคุณพ่อของเขาเป็นผู้ฝึกสอน
1
ด้วยความตั้งใจที่ไม่ยอมแพ้ เขาจึงฝึกฝนอย่างหนัก ไม่ว่าจะเป็นร่างกายและการแสดงกีฬามวยปล้ำ
ด้วยเหตุนี้เองเขาจึงมักจะได้รับบทเป็นตัวเอกของสมาคมมวยปล้ำอยู่เสมอ
1
จากนั้นเขาก็ประสบความสำเร็จในวงการมวยปล้ำ และได้มีโอกาสมาแสดงภาพยนตร์
จึงทำให้เขาเป็นที่รู้จักมากมาย เรียกได้ว่าเขาคือคนที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดคนหนึ่งในวงการบันเทิง
1
นอกจากความสำเร็จในวงการบันเทิงแล้ว
เขายังประสบความสำเร็จในด้านธุรกิจอีกด้วย
ในปี 2012 เขาเป็นผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทโปรดักชันที่ผลิตคอนเทนต์ลงในโทรทัศน์และโรงภาพยนตร์
ชื่อว่า “Seven Bucks Productions”
โดยที่ส่วนใหญ่เขาจะรับผิดชอบในหน้าที่หน้ากล้อง ส่วนการบริหารจะเป็นหน้าที่ของอดีตภรรยาของเขาที่เป็นผู้ร่วมก่อตั้ง
1
ในที่สุดปี 2020 ก็มาถึง ปีที่ใครๆ ก็บอกว่า “หนักหนาสาหัสที่สุด”
เพราะเป็นปีที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19
และยังเป็นปีที่ไม่เหมาะแก่การก่อตั้งธุรกิจมากที่สุด
แต่สิ่งที่เขาทำก็คือ “เขาเชื่อในตัวของเขาเอง” และได้ก่อตั้งธุรกิจ 2 อย่าง ในปีที่เลวร้ายที่สุด
เขาได้ก่อตั้งแบรนด์เตกิลาชื่อว่า “Teremana”
ที่ได้เปิดตัวเมื่อเดือนมีนาคมในปี 2020 ซึ่งเป็นช่วงที่ไวรัสโควิด 19 กำลังแพร่ระบาดอย่างหนัก
แต่เขากลับสามารถทำยอดขายได้มากถึง 300,000 ลัง ในเวลาเพียงแค่ 9 เดือน
1
เป็นที่รู้กันว่าเขาและครอบครัวได้ติดเชื้อไวรัสโควิด 19 ในเดือนกันยายน
นี่เป็นเหตุการณ์ที่ท้าทายและน่ากลัวที่สุดในชีวิตของเขาและครอบครัว
แต่เขาก็ยอมรับความเป็นจริง และเดินหน้าต่อสู้กับโรคร้าย
จนในที่สุดเขาและครอบครัวก็หายเป็นปกติ
1
หลังจากที่เขาหายเป็นปกติแล้ว เขายังได้เป็นผู้ร่วมก่อตั้งแบรนด์เครื่องดื่มชูกำลังชื่อว่า “ZOA energy”
ซึ่งเขาได้ประกาศในช่องทางโซเชียล มีเดียส่วนตัวว่าจะเปิดตัวเดือนมีนาคมในปีนี้
2
ด้วยชื่อเสียงของเขาจากการเป็นทั้งอดีตนักกีฬามวยปล้ำ, อินฟลูเอ็นเซอร์ และนักแสดงภาพยนตร์
ทำให้มีผู้คนติดตามเขามากมาย
1
อินสตาแกรม มีผู้ติดตาม 211 ล้านคน
เฟซบุ๊ก มีผู้ติดตาม 57 ล้านคน
ทวิตเตอร์ มีผู้ติดตาม 15 ล้านคน
1
เชื่อว่าถึงแม้แบรนด์ “Teremana” และ “ZOA energy” จะยังเป็นแบรนด์ใหม่ที่มีอายุไม่ถึง 1 ปี
แต่ด้วยการที่เขามีฐานแฟนคลับที่ติดตามเขามากมายทั่วโลก
จึงทำให้แบรนด์เหล่านี้มีโอกาสที่จะเข้าถึงผู้คนนับล้านๆ คน
จุดนี้เอง จึงทำให้แบรนด์เหล่านี้ของเขามีข้อได้เปรียบมากกว่าแบรนด์คู่แข่งอื่นๆ
แน่นอนว่าการที่จะก่อตั้งธุรกิจในช่วงที่มีการระบาดของเชื้อไวรัส เป็นเรื่องที่ท้าทายและยากสำหรับเขามาก
แต่เขาก็ไม่ได้สนใจอะไรเลย นอกจากการที่จะพุ่งชนไปสู่เป้าหมาย
1
ไม่แน่ในอนาคต เราอาจจะได้เห็นแบรนด์เตกิลาหรือเครื่องดื่มชูกำลังของ “The Rock”
ขยายไปทั่วโลกเหมือนกับแบรนด์เครื่องดื่มชูกำลัง “คาราบาว”
ที่มีคุณแอ๊ด คาราบาว เป็นสัญลักษณ์ของแบรนด์ก็เป็นได้...
1
ปิดท้ายด้วยข้อมูลที่น่าสนใจ
ปัจจุบัน คาราบาวกรุ๊ป มีมูลค่าอยู่ที่ 116,000 ล้านบาท
โดยที่มีคุณแอ๊ด คาราบาว ถือหุ้นอยู่ที่ 7.05% คิดเป็นมูลค่ากว่า 8,000 ล้านบาท
1
โฆษณา