18 ม.ค. 2021 เวลา 00:16 • สุขภาพ
มิลเลนเนียล มีแนวโน้มที่จะป่วยและตายเร็วกว่าคนรุ่นก่อน
🔴 รายงานจาก Blue Cross Blue Shield บริษัทประกันที่อเมริกา พบว่ามิลเลนเนียล (คนที่เกิดในปี 2524-2539 ปีนี้อายุ 25-40 ปี) มีแนวโน้มที่จะป่วยและเสียชีวิตเร็วกว่าคนรุ่นก่อนครับ
โดยหากเทียบกับคน Gen X (คนที่เกิดปี 2508-2523) ในช่วงอายุเดียวกัน มิลเลนเนียลมีอัตราการเสียชีวิตสูงมากกว่าถึง 40 เท่าเลยทีเดียว
🔴 ปัจจัยหลักของอัตราการเสียชีวิตที่สูงกว่านี้ ➜ มาจากพฤติกรรมด้านสุขภาพ ➜ ซึ่งหลักๆ มาจากปัญหาด้านสุขภาพจิต ➜ ส่วนปัญหาด้านสุขภาพจิตหลัก ๆ ก็มาจากปัญหาด้านการเงินอีกที
โดยมิลเลนเนียลเป็นเจนเนอเรชั่นที่มี Affordability Crisis ค่อนข้างสูง กล่าวคือไม่สามารถที่จะตั้งตัว จับจ่าย ซื้อหา หรือถือครองทรัพย์สินได้ง่ายเหมือนคนรุ่นก่อน ทำให้เกิดความเครียดและความกดดันทางการเงินสูง
(ซึ่งก่อนหน้านี้ เราได้เคยเขียนบทความเกี่ยวกับเรื่องนี้เอาไว้แล้วใน “ฉันไม่อยากเป็นคนเก่ง ฉันอยากถูกหวย” https://bit.ly/38FJiAD)
🔴 ทีนี้พอสุขภาพจิตย่ำแย่ สุขภาพทางกายก็พลอยแย่ไปด้วย ซึ่งไม่ใช่แค่ผลกระทบโดยตรง เช่น ปวดหัว เครียด ไมเกรน เป็นโรคซึมเศร้า ฯลฯ อย่างเดียวเท่านั้น
แต่ยังรวมไปถึงสุขภาพทางอ้อมด้วย เช่น เครียดแล้วนอนไม่หลับ กลายเป็นพักผ่อนน้อย ภูมิคุ้มกันตก เครียดแล้วกินเยอะ คอเลสเตอรอลขึ้น ไขมันในเลือดสูง หรือบางคนทานน้อยไป สารอาหารไม่เพียงพอ บางคนก็หันไปพึ่งสารเสพติด ดื่มแอลกอฮอล์ บางคนก็ซึมเศร้ารุนแรงจนถึงขั้นฆ่าตัวตาย
3
🔴 แม้ว่ายุคนี้ สังคมจะตระหนักถึงเรื่องปัญหาสุขภาพจิตกันมากขึ้น แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะไปพบจิตแพทย์หรือได้รับการรักษาอย่างเหมาะสมครับ เพราะการรักษามีต้นทุนค่าใช่จ่าย ซึ่งมิลเลนเนียลหลายคนก็เครียดเรื่องการเงินที่มีจำกัดอยู่แล้ว เลยปล่อยให้ปัญหาอีรุงตุงนังต่อไป
🔴 ฟังดูเป็นเรื่องน่ากังวลใช่ไหมครับ แต่มิลเลนเนียลบางคนกลับมอง (อาจจะติดตลก) ว่าเป็นเรื่องดี
นั่นเป็นเพราะหลายคนมี Passive Suicidal Ideation ครับ กล่าวคือ ไม่ได้อยากฆ่าตัวตาย แต่มีความคิดว่าหากจู่ ๆ สามารถตายได้แบบกดสวิทช์ไฟ หรือจู่ ๆ ก็หายตัวไปจากโลกนี้ หรือจู่ ๆ โลกก็แตก แบบนี้ก็โอเคนะ
🔴 สำหรับแนวทางแก้ปัญหานั้น
❶ มิลเลนเนียลควรสำรวจสุขภาพจิตของตัวเองมากขึ้น อาจจะดูแลสุขภาพจิตของเพื่อน ๆ ในรุ่นเดียวกันด้วย ส่วนสมาชิกครอบครัวต่างเจนเนเรชั่นก็ควรเปิดใจรับฟังกันมากขึ้นครับ
❷ บริษัทอาจจะขยายสิทธิประกันให้ครอบคลุมการเข้าพบจิตแพทย์ ซึ่งปัจจุบันหลาย ๆ บริษัทก็ให้สวัสดิการนี้ ด้วยมองว่าถ้าลูกจ้างมีสุขภาพจิตดี งานก็ดีไปด้วย
❸ ส่วนภาครัฐ อาจจะทำให้การเข้าถึงจิตแพทย์เป็นเรื่องง่ายและมีต้นทุนถูกลง เพราะหากปล่อยให้ประชากรวัยทำงานอย่างมิลเลนเนียลมีปัญหา ประเทศก็อาจจะมีผลกระทบได้เช่นกัน ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง
ทั้งนี้ หากเพื่อน ๆ ผู้อ่านมีแนวทางการแก้ไขปัญหาหรือมุมมองอื่น ๆ อย่าลืมมาแบ่งปันกันนะครับ
*ปล. งานวิจัยและตัวเลขข้างต้น มาจากการสำรวจมิลเลนเนียลในอเมริกา อาจจะมีบางบริบทและปัจจัยที่แตกต่างกันออกไป แต่โดยรวมแล้ว มิลเลนเนียลทั่วโลกมีลักษณะไปในทิศทางเดียวกันครับ
========================
ℹ ขอบคุณสำหรับการกดไลค์ กดติดตาม และเป็นกำลังใจให้พวกเราในการแบ่งปันข้อมูลข่าวสาร และแนวคิดใหม่ ๆ นะครับ - The Columnist
โฆษณา